วันอาทิตย์, กันยายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“จุรินทร์”ให้ฉายางบฯ67 “ฉบับเป็ดง่อย” ซัด“นักโทษบางคน”เข้าคุกทิพย์120วัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“จุรินทร์”ให้ฉายางบฯ67 “ฉบับเป็ดง่อย” ซัด“นักโทษบางคน”เข้าคุกทิพย์120วัน

จุรินทร์” ให้ฉายางบฯ 67 “เป็ดง่อย” เหตุงบฯล่าช้า ฉะกู้เงินเพิ่ม 1 แสนล้าน เป็น “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” ลั่นหากงบฯ ไม่ผ่านควรยุบสภาฯ หรือไม่นายกฯ ก็เลิกใส่ถุงเท้าสีแดง

เมื่อเวลา 11.50 น.วันที่ 3 ม.ค.67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ลุกขึ้นกล่าวอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ในวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก ว่า ถึงแม้จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เรียนว่าเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ ถ้ารัฐบาลเสนอแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ก็ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่ก็ยุบสภาฯ ซึ่งก็เป็นหน้าที่รัฐบาลที่มีหน้าที่ต้องไประดม สส. รัฐบาลมาลงคะแนนเสียงให้ได้ และเชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาวาระแรกได้ เพราะรัฐบาลมีเสียง สส. ในสภาฯ แบบเด็ดขาด ถึง 314 เสียง ถ้าไม่ผ่านตนคิดว่านายกรัฐมนตรี ต้องเลิกใส่ถุงเท้าสีแดงและพิจารณาตัวเองได้แล้ว ยืนยันว่าฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบทั้งตัวงบประมาณฯ ถ่วงดุล สอบถามและแสดงความเห็น และผู้ใช้งบประมาณฯ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวคำแถลงมาทุกอย่างดีหมด ซึ่งงบประมาณฉบับนี้ ถือเป็นงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ เกิดจากการเอางบฯปี 66 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี มารื้อทำใหม่หมด ส่งผลให้ปฏิทินงบปีนี้ล่าช้าไปกว่า 9 เดือน เพราะมันแต่ใช้เวลาไปตั้งรัฐบาล เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดหลายเดือน แต่หลัง ครม.มีมติให้รื้องบประมาณดังกล่าว ก็ใช้เวลาอีกหลายเดือนเช่นเดียวกันกว่าจะกลับเข้าสู่สภาฯได้ ทำให้พ.ร.บ.งบปี 67 นี้ต้องไปบังคับใช้ประมาณเดือนพ.ค. จึงส่งผลให้พ.ร.บ.งบฯฉบับนี้ เป็นงบฯฉบับเป็ดง่อย เพราะงบประมาณทั้งสิ้น 3.48 ล้านล้านบาท รัฐบาลมีเวลาใช้เงินแค่ 5 เดือน จากปกติ 12 เดือน เท่ากับว่ามีเวลาใช้เงินแค่ ร้อยละ 40 และที่สำคัญคือประสิทธิภาพของการใช้เงิน เรื่องของใช้เงินงบลงทุนที่เป็นหัวใจสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเพียง ร้อยละ 70 เแต่มีเวลาใช้เพียง 5 เดือน สุดท้ายก็จะเป็นงบเป็ดง่อยไม่สามารถนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มร้อยตามที่พูดไว้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีรัฐมนตรีจำนวน 34 คน แต่โลกลืมไปแล้วจำนวนกี่คน สองมือรวมกันนิ้วยังมีไม่พอให้นับ โดยนายกรัฐมนตรีพยายามตีปี๊บบอกว่า เศรษฐกิจกำลังวิกฤตต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจแบบขนาดใหญ่ แต่ขณะเดียวกันงบประมาณแผ่นดิน ที่มีผลต่อ GDP ถึง ร้อยละ 18 กลายเป็นเป็ดง่อย แล้วจะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายได้อย่างไร ยืนยันว่า งบประมาณที่นายกรัฐมนตรีไปสั่งรื้อนั้น ไม่มีอะไรเข้ามาใหม่ เป็นงบที่เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาดำเนินการ และยังมีอีกหลายเรื่องที่แย่กว่าเดิม โดนแบ่งเป็น 4 ประเด็น คือ 1.งบฉบับนี้ยังขาดดุลเหมือนเดิม และจะขาดดุลต่อไปจนครบอายุรัฐบาลนี้คือ 4 ปีเต็ม 2.งบประมาณของรัฐบาลชุดนี้เพิ่มขึ้น แต่งบการลงทุนน้อยลงกว่าเดิม แต่กลับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำแทนคิดเป็น ร้อยละ 44 3.งบประมาณกลาง ซึ่งพอไปดูเนื้อใยแล้ว เป็นงบสำหรับกรณีฉุกเฉิน ที่เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีโดยตรง กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยต่อว่ารัฐบาลที่ผ่านมา แต่กลับทำเสียเอง “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” 4.งบประมาณฉบับนี้เป็นงบประมาณคิดใหญ่ ทำเป็น แต่กลับมาเป็นคิดกู้ ทำกู้ ซึ่งสิ่งรัฐบาลที่แล้วทำไว้ คือกู้ 5.93 แสนล้าน แต่รัฐบาลนี้นำไปรื้อ กลายเป็นกู้เพิ่มขึ้นเป็น 6.93 แสน กู้เพิ่มขึ้นแสนล้านบาท ทั้งที่พวกท่านเคยวิจารณ์รัฐบาลที่แล้วว่าเป็น “นักกู้แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา” แต่ตนคิดว่ารัฐบาลนี้กลายเป็น “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู”

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของงบประมาณกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมเช่นกัน ตนสนับสนุน ถ้าจะนำเงินไปยกระดับควบคุมผู้ต้องขัง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และหลักสิทธิมนุษยชน โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ โดยมีสถานที่เป็นเรือนจำ และทัณฑสถาน ครอบคลุมผู้ต้องขัง 2.8 แสนคนทั่วประเทศ ถ้ารัฐบาลดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์

“ผมมีคำถามว่ารัฐบาลในฐานะผู้ใช้งบประมาณ ได้บริหารโครงการตามวัตถุประสงค์ โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง 2.8 แสนคนหรือไม่ เพราะมีข้อสงสัยเกิดขึ้นในสังคมว่า ทำไมรัฐบาลนี้จึงปล่อยให้นักโทษบางคนเข้าคุกทิพย์มาแล้วกว่า 120 วัน แต่ยังไม่เคยติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว” นายจุรินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อถึงช่วงนี้ ทำให้ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายจุรินทร์ทันที โดยฟ้องต่อประธานฯว่า เป็นการอภิปรายนอกประเด็น “ผมไม่คิดว่านายจุรินทร์ อดีตรัฐมนตรี จะลุกขึ้นอภิปรายงบประมาณ เพราะท่านล้มเหลวมาตลอด อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายก็ได้คะแนนน้อยกว่าคนอื่นเขา นี่ก็ลากออกไปนอกประเด็นใช้สไตล์เก่าๆ ผมไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องข้างนอกเข้ามาสู่สภาฯ ผมรู้ว่าคนที่นายจุรินทร์กำลังพูดถึงคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกกลั่นแกล้งไปอยู่เมืองนอก 17 ปี แต่ต้องเข้าใจว่า ทุกครั้งที่ขออนุญาต มีใบรับรองจากอธิบดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายครูมานิตย์ กล่าว

ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ผู้อภิปรายยังคงอภิปรายอยู่ในประเด็น แต่ขอให้นายจุรินทร์หลีกเลี่ยงไม่ระบุชื่อบุคคลภายนอก ในขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป. ได้ลุกขึ้นประท้วงนายครูมานิตย์ โดยกล่าวว่า ตนขอประท้วงและขอให้นายครูมานิตย์ถอนคำพูด ที่ระบุว่า นายจุรินทร์ล้มเหลว เพราะพูดเป็นเท็จในสภาฯนี้ ถือเป็นการกล่าวหาเสียดสีอย่างร้ายแรง สภาฯแห่งนี้ทรงเกียรติ คำพูดที่ออกมาต้องมีเหตุผล มีข้อเท็จจริง

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นการพูดแสดงความคิดเห็น ไม่ได้ผิดข้อบังคับ แต่นายชัยชนะยังขอให้ถอนคำพูดที่กล่าวหาว่าล้มเหลว ต้องบอกว่าล้มเหลวตรงไหน หากไม่ถอนก็ขอให้บันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อสภาฯจะได้มีบรรทัดฐาน ถ้าบอกว่าล้มเหลว ก็ถือรัฐบาลนี้ก็ล้มเหลวเช่นกัน แต่ประธานสภาฯวินิจฉัยว่า ไม่ได้ผิดข้อบังคับ และขอให้นายจุรินทร์อภิปรายต่อจนจบ ซึ่งนายจุรินทร์ยืนยันว่า ตนเคารพกติกาเสมอ ขอให้สบายใจ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img