“โรม”ตามจิ๊ก“นายกฯ”ต้องรับผิดชอบ! ปมไฟเขียวงบกลาง-ฟอกขาวทุจริต

“โรม” ชี้นายกฯออกกคำสั่ง ตั้งสอบซ้ำซ้อนเตะถ่วงปมซักฟอกทุจริต “กองบินตำรวจ” ลั่นทำไมไม่สอบปมตั๋วช้างด้วย

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.65 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตำรวจเพิ่งตั้งกรรมการสอบอีกชุดหลังจากผมอภิปรายไม่ไว้วางใจ สะท้อนความไม่คืบหน้าอะไรเลย แล้วเรื่องตั๋วช้างทำไมไม่สอบด้วย ผมได้ทราบข่าวมาว่าหลังจากที่ผมได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเรื่องตำรวจราบ การจ่ายงบกลางและฟอกขาวการทุจริตในกองบินตำรวจ และตั๋วช้างภาค 2 เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ก็พลันเกิดความกระตือรือร้นจากข้างใน สตช. ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาในทันที

นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า ฟังดูดี เหมือนมีความกระตือรือร้น แต่จริงๆ แล้วผมจะบอกให้ว่า 1. คำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนที่ออกมาล่าสุดนั้น เป็นการสืบสวนในเรื่องการแลกอะไหล่ ที่มีการ “ยำอะไหล่ดีตีราคาถูก” ซึ่งเป็นเพียง 1 ใน 3 ของเรื่องการทุจริตในกองบินตำรวจที่ผมอภิปรายไปเท่านั้น 2. ซึ่งเรื่องการแลกอะไหล่นั้น ภายในกองบินตำรวจเขาตรวจสอบกันภายในมาตั้งแต่ ม.ค. 64 เสนอเรื่องให้จเรตำรวจตรวจสอบไปตั้งนานแล้ว ต่อมาจเรก็เพิ่งมาตั้งกรรมการสอบเมื่อ ต.ค. 64 จนตรวจสอบเสร็จ รายงานผลไปเมื่อ ม.ค. 65 ปรากฏว่าต่อมาอีก 2 เดือน มี.ค. 65 รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย ก็เพิ่งแทงคำสั่งท้ายหนังสือรายงานผลนั้น ว่าให้ตั้งกรรมการสืบสวนใหม่ซ้ำอีก ดังนั้นไอ้คำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนที่ออกมาล่าสุดนั้น ก็คือการตั้งกรรมการสืบเนื่องจากที่รอง ผบ.ตร. แทงมาตั้งแต่เมื่อ 4 เดือนที่แล้วนั่นเอง แบบนี้ที่ผมบอกไปว่ามันคือพฤติกรรมของการเตะถ่วง

นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า 3. การเตะถ่วงแบบนี้ ลักษณะเดียวกันเลยกับอีก 1 ใน 3 เรื่องของกองบินตำรวจที่ผมอภิปราย คือเรื่องจ้างซ่อมเกินงบจนเป็นหนี้ต้องเอางบกลางมาจ่าย คือภายในกองบินตำรวจตรวจสอบมาตั้งแต่ มี.ค. 64 ส่งเรื่องให้จเรตำรวจ จเรตั้งกรรมการสอบ มิ.ย. 64 ตรวจสอบเสร็จรายงานผล ต.ค. 64 ก็ถูกแทงคำสั่งให้ตั้งกรรมการสืบสวนซ้ำเหมือนกัน แล้วก็เพิ่งจะมาตั้งกันจริงๆ เม.ย. 65 เท่านั้นไม่พอ พ.ค. 65 ยังจะมาสั่งเปลี่ยนตัวกรรมการอีก คนเซ็นคำสั่งก็คือ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง คนเดียวกันกับที่เซ็นตั้งกรรมการสืบสวนเรื่องแลกอะไหล่ล่าสุด 4. ดังนั้นถ้าทาง สตช. คิดจะตรวจสอบเรื่องนี้จริงจัง ไม่ใช่แค่ขอไปทีเวลาที่เป็นข่าว ก็ต้องตรวจสอบนายตำรวจอย่าง พล.ต.อ.ปิยะ และ พล.ต.ท.ไกรบุญ ด้วยว่ามีส่วนร่วมต่อการเตะถ่วงกระบวนการสืบสวนให้ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นอย่างไรบ้าง

นายรังสิมันต์ ระบุต่ออีกว่า 5. และที่สำคัญ ยังมีอีก 1 ใน 3 เรื่องสุดท้ายของกองบินตำรวจที่ผมอภิปรายไป คือเรื่องการไปขอ “ตั๋วช้าง” แอบอ้างสถาบันฯ มาใช้เป็นเครื่องกำบังตัวเองจากการตรวจสอบการทุจริต และตั้งหน่วยเถื่อนเป็นนักบินเถื่อนที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสุขภาพตามมาตรฐาน (ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่าเป็น “นักบินนอกกอง” แต่เมื่อไปดูระเบียบที่เกี่ยวข้อง พบว่าคุณสมบัติของนักบินพระราชพาหนะต้องเป็นนักบินประจำกองเท่านั้น หรือแม้กระทั่งกรณีนักบินนอกกองก็ต้องมีการเสนอแต่งตั้งโดยกองบินตำรวจ และต้องตรวจสุขภาพด้วยเช่นกัน ทว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มีหลักฐานมายืนยันประกอบด้วย) เรื่องที่เข้าขั้นผิดวินัยร้ายแรงแบบนี้ ทำไม สตช. ถึงไม่ดำเนินการตรวจสอบด้วย

นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า 6. นอกจากนี้ยังมีเรื่อง “ตำรวจราบ” ที่จุดเริ่มต้นก็มาจากการสั่งการของคนระดับผู้บัญชาการทั้งหลายใน สตช. ทั้งนั้น ซึ่งหลังจากผมอภิปรายไปก็เริ่มเห็นข่าวว่าจะมีการล่าตัวนายตำรวจที่ออกมาพูดเรื่องนี้ไปซ่อมกันอีกแล้ว ตกลงว่าจะมีใครคิดดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ 7.และสุดท้ายนอกเหนือจากที่ดำเนินการกันใน สตช. แล้ว แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์ในนายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เด็ดขาด ทั้งการอนุมัติงบกลาง การฟอกขาวรับรองความชอบให้กับการกระทำทุจริต ไปจนถึงการปล่อยให้มีนายตำรวจไปขอตั๋วช้าง ไม่รักษาหลักการปกเกล้าไม่ปกครอง ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป