วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSงานสงกรานต์ปีวัว“ไม่สุด” หยุดที่ริน-รด-พรม-ใส่หน้ากาก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

งานสงกรานต์ปีวัว“ไม่สุด” หยุดที่ริน-รด-พรม-ใส่หน้ากาก

เป็นที่ชัดเจน!! สำหรับการจัดงานสงกรานต์ปีนี้ของไทย จะเป็นไปในรูปแบบนิวนอร์มัล ภายใต้สโลแกน “ริน-รด-พรม-ใส่หน้ากาก-ไม่สาดน้ำ”  เน้นการสืบสานประเพณี รักษาวัฒนธรรมไทยเท่านั้น

บรรดางานรื่นเริงประเภทเย้…เย้..เย้ว..เย้ว… ไม่สามารถจัดได้ ทั้งการรวมกลุ่มกันสาดน้ำ การจัดคอนเสิร์ต การจัดปาร์ตี้จะเป็นแบบการสาดน้ำ สาดแป้ง ประแป้ง หรือปาร์ตี้โฟม อะไรเทือกนี้ ก็ต้องงดกันเด็ดขาด

ขณะเดียวกันการจัดกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์  ให้ยึดแนวทางตามมาตราการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ควรจัดในพื้นที่โล่งแจ้งเท่านั้น!!

แต่การเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อไปท่องเที่ยว หรือจะกลับบ้านไปกราบพ่อ…กราบแม่ รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ เพื่อทำตามขนบธรรมเนียมประเพณี สามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น

ทั้งหมดจะเห็นความชัดเจนอีกครั้งในวันนี้ (19 มี.ค.) ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ให้ความเห็นชอบอีกครั้ง ก่อนเสนอให้ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า

ทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเพียงแค่การระบาดที่คลัสเตอร์ตลาดบางแค ก็น่าเป็นห่วงไม่น้อยอยู่แล้ว เพราะติดเชื้อกันมากถึง 85 คน  แถมยังกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ อีก 4-5 จังหวัด


ข้อกำหนดที่ออกมา โดยเฉพาะการ “ห้ามสาดน้ำ-ประแป้ง” ก็เท่ากับว่าเป็นการหยุดหัวใจของเทศกาลสงกรานต์ ไปแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่หลายฝ่ายหลายคน จะมีมุมมองในทิศทางเดียวกันว่า “กร่อย”

อย่าง “ธนวรรธน์ พลวิชัย” อธิการบดี และประธานที่ปรึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุไว้ชัดเจนว่า บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ไม่คึกคักแน่ ๆ เพราะการงดสาดน้ำ การงดรวมตัวกัน การงดจัดคอนเสริ์ต หรืองานรื่นเริงต่าง ๆ รวมทั้งยังมีการระบาดขึ้นใหม่ ก็ทำให้คนไทย “หมดอารมณ์” เดินทางท่องเที่ยวกันอยู่แล้ว

ด้วยบรรยากาศที่ไม่เป็นใจเช่นนี้ ก็จะทำให้มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้หายไปด้วยประมาณ เกือบ ๆ 30,000 ล้านบาท หรือหายไปประมาณ 10-20% ทีเดียว


หลายคนเห็นตัวเลขแล้วอาจไม่รู้สึก หรือรู้สึกเฉย ๆ ธรรมดา…ธรรมดา เพราะเป็นไปตามสภาพการณ์อยู่แล้ว แต่รู้กันหรือเปล่าว่า เทศกาลสงกรานต์ในแต่ละปีที่ผ่าน ๆ มา มีเงินสะพัดกันไม่น้อยทีเดียว

อย่างล่าสุดปี 62 ที่ผ่านมา ก่อนเกิดโควิด-19 แม้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลงจากสถานการณ์ต่าง ๆ จากต่างประเทศ ที่เป็นปัจจัยรุมเร้า ก็มีเงินสะพัดกว่า 1.35 แสนล้านบาทกันทีเดียว

ขณะเดียวกันยังมีผลสำรวจจากสำนักวิจัยบางแห่ง ระบุว่า ประชาชนคนไทยยังกังวลกับการเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะการกลับบ้านกลับภูมิลำเนา  เชื่อได้เลย…ย่อมต้องรวมตัวกันเล่นน้ำ สาดน้ำ แน่นอน ไม่มีการเว้นระยะห่างแน่ ๆ โอกาสการติดเชื้อก็มีสูง

ต่อให้มีการฉีดวัคซีน กันเยอะแยะมากมาย  ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% แถม…อาจนำไปสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในรอบที่ 3 ได้อีกต่างหาก

ไม่ใช่เพียงแค่การงดสาดน้ำ งดประแป้ง การรวมตัว กันเท่านั้น ในเรื่องของโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันระยะที่ 3” ก็เชื่อได้ว่าไม่ทันกับเทศกาลสงกรานต์แน่นอน

ด้วยเหตุที่ว่ายังมีสิทธิที่เหลืออยู่ในระยะที่ 2 อีกเป็นจำนวนไม่น้อย ดังนั้น…ใครที่คาดหวังจะได้สิทธิระยะที่ 3 ก็ต้อง “ฝันเก้อ” กันไปก่อน

อย่าลืมว่า…โครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีประวัติศาสตร์ที่โกงกันสะบั้น ทำให้รัฐบาลบิ๊กตู่ ต้องถอยหลังหันกลับมาหยุดคิด ว่าสมควรจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ ?

ในเมื่อโครงการมีตำหนิ ที่สำคัญ…ยังหาทางออก แบบขาวสะอาด การันตีได้ชัด ๆ ว่าจะไม่มีการโกงกันอีก ไม่ได้ จึงกลายเป็นเรื่องปกติ ที่ต้อง “ยื้อ” กันเอาไว้

เอาเป็นว่า ณ เวลานี้ ทุกอย่างก็ควร”ปลอดภัย” ไว้ก่อน เพราะหากปล่อยให้ความอยาก ความสนุก เข้ามาบดบัง แต่สุดท้ายประเทศชาติกู่ไม่กลับ ก็ไม่คุ้มกับ “ความสนุก” เพียงไม่กี่ชั่วยาม!!

…………………………………….

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img