“มั่นคง”แนะ“ปชช.”ร่วมแรงฝ่าวิกฤติ การระบายอารมณ์ด่าควรหยุดไว้ก่อน

ใครจะคาดคิดว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยตัวเลขจะพุ่งสูงแบบไม่หยุด ทางสมช.คาดว่าสัปดาห์หน้าตัวเลขจะสูงขึ้นไปอีก ก็ลุ้นกันว่าจะถึงหลักหมื่นหรือไม่…?? ภาวนาให้หยุดยอดผู้เสียชีวิตคาบ้านไว้ให้ได้ ซึ่งไม่ใช่ง่าย 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์  The Key News ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 3 ก.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตัวเลขยังพุ่งไม่หยุด รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งเฉย พยายามที่จะหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อย่างเต็มที่ท่ามกลางการก่นด่าไม่พอใจของคนที่ได้รับความเดือดร้อน แม้ว่า นายกรัฐมนตรี จะทำดีและเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม….ตอนนี้ “ลุงตู่” จะผายลมก็ไม่ได้แล้ว 

@@@…….ช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะถูกตำหนิในทุก ๆ เรื่องไม่ว่าจะทำอะไร สื่อโซเชียลก็รุมโจมตี เรียกร้องให้ลาออก ซึ่งสอดคล้องกับม็อบผิดกฎ หมายบนถนนที่ลอยหน้าท้าทายการระบาดของโควิด การปราศรัยของกลุ่มเคลื่อนไหวบนถนน ก็ใช้ประเด็นเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนอยากให้ผู้คนติดเชื้อกันมาก ๆ แต่พบว่ามวลชนมีไม่มาก ประชาชนและคนส่วนใหญ่มิได้ให้ค่า ผู้คนยังคงกังวลอยู่กับการกลัวติดโรคระบาด กับกลัวไม่มีเงิน ไม่มีงาน ซึ่งต้องการร่วมแรงร่วมใจแก้ปัญหาไปด้วยกันร่วมกับฝ่ายบริหาร มิใช่แตกแยกขัดแย้งกัน ด่ากันเช่นนี้ 

@@@…….การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คืออีกประเด็นทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง มันมิใช่ความต้อง การที่แท้จริงของผู้คน ส่วนหนึ่งมันคือความเทียมที่แอบแฝงประเด็นการล้มสถาบันไว้ด้วย .. การเลือกตั้งทั่วไปในวาระรอบต่อไป ใกล้จะมาถึงอีกไม่นานแล้ว ฝ่ายการเมืองคุณภาพ เป็นที่ต้องการของประเทศชาติอย่างมาก ฝ่ายความมั่นคง อยากเห็นการตื่นตัวของประชาชนที่รักชาติ รักแผ่นดินเกิด ออกมาใช้สิทธิกันให้เต็มที่เช่นกัน เตรียมตัวกันให้ดี ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงมั่นใจว่า ความสามัคคี ร่วมมือกันในสังคมไทยมากขึ้น เป็นความจำเป็น การที่ประชาชนคนไทยทุกคนร่วมแรง ร่วมใจฝ่าวิกฤติในวันนี้ไปให้ได้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การระบายอารมณ์ บ่นด่า ควรจะรอไว้ก่อน

@@@…….พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ผอ.ศปก.ศบค.) กล่าวยอมรับว่า ในสัปดาห์หน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่จะสูงขึ้นอีก ซึ่งเป็นไปตามการประเมินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ประเมินไว้ แต่ทั้งนี้จะพยายามเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้มากขึ้น โดยเมื่อวัคซีนนำเข้ามาแล้ว ก็จะเร่งฉีดทันทีให้เร็วที่สุด คาดการณ์ว่า สถานการณ์จะเป็นในลักษณะนี้อีกสักระยะหนึ่ง 

@@@…….ตัวเลขจะสูงหรือต่ำ ทหารยังคงต้องช่วยเหลือประชาชนต่อไป โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้กำชับให้ทุกเหล่าทัพ ประสานทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เร่งเข้าไปเสริมและสนับสนุนแก้ปัญหาเร่งด่วนในการขาดแคลนเตียงผู้ป่วยสีแดง ให้พิจารณาขยายขีดความสามารถสูงสุดของ รพ.ทหารในสังกัด เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยห้อง ICU รองรับสถานการณ์ และให้เตรียมการสนับสนุนหากจำเป็นต้องจัดสร้างห้องผู้ป่วยความดันลบเพิ่มเติม โดยให้พิจารณาบูรณาการบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกันกับทุกหน่วยงาน   

@@@…….นอกจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้ หน่วยขึ้นตรง กระทรวงกลาโหม และทุกเหล่าทัพ เตรียมความพร้อมรับทหารกองประจำการผลัดที่ 1/64 ที่จะทยอยเดินทางเข้าประจำหน่วยทหารทั่วประเทศพร้อมกัน ระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค.64 โดยให้มีการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งการจัดเตรียมสถานที่และกระบวนการรับตัวทหาร ตั้งแต่การรายงานตัวในพื้นที่จังหวัดอำเภอ การจัดยานพาหนะและการเคลื่อนย้ายทหารเข้าหน่วย การปรับสภาพและคัดกรองเฝ้าระวังควบคุมโรคใน 14 วันแรก โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง พร้อมกันนี้ ขอให้ประสานกระทรวงสาธารณสุข ขอรับการสนับสนุนวัคซีนฉีดให้กับทหารที่เข้าประจำการใหม่ทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อมิให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหน่วยทหาร 

@@@…….เรื่องการที่กระทรวงกลาโหม ขอรับการสนับสนุนวัคซีนให้กับทหารที่เข้าประจำการใหม่ กับกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่พรรคการเมืองก้าวไกล หยิบยกขึ้นมาพูดในที่ประชุมสภาว่า กองทัพขอตัดโควต้าวัคซีนมาฉีดให้กับกำลังพล หากมองกันให้ดี ทหารก็คือลูกหลานของประชาชน ที่ทำหน้าที่เป็นกำลังพลของกองทัพในการเข้ามารับใช้ชาติ และออกไปช่วยเหลือประชาชน พี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนต่าง ๆ ที่เห็นในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นฝนตก น้ำท่วม ภัยแล้ง และการดูแลรักษาความปลอดภัยไม่ให้ประชาชนติดโควิดก็เป็นกำลังพลทหารทั้งนั้น แต่ถ้ากำลังพลเหล่านี้ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วออกไปทำงานในพื้นที่ใกล้ชิดกับประชาชนติดโควิดและแพร่ระบาด ใครจะรับผิดชอบ  

@@@……“สมาชิกพรรคก้าวไกล ไม่เห็นพลทหารเป็นคน ไม่มองเป็นลูกหลาน พ่อแม่ พี่น้องคนไทย ไม่รู้เลยว่า พวกเขาแทบไม่ได้กลับบ้านในสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด และมีสัดส่วนฉีดวัคซีนน้อยอย่างยิ่ง เขารู้หรือไมว่า ทหารคือกลุ่มสุดท้าย ขอวันนี้อีก 2 เดือนถึงได้….ยิ่งถ้าบอกว่า ทหารติดโควิดกันจำนวนมาก ก็ควรที่จะต้องหาวัคซีนมาฉีดป้องกันไม่ให้เขาเป็นตัวแพร่เชื้อระบาด เพราะคนเหล่านี้คือลูกหลานของท่านที่จะต้องออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เวลาที่ประสบปัญหา ภัยหนาว ภัยแล้ง และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทหารทำได้ทุกอย่าง แม้แต่ท่อตันยังเรียกใช้ทหารออกไปทำ แต่เวลาที่เหล่าทัพ พยายามจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กำลังพลเพื่อจะได้ออกไปทำงาน ช่วยเหลือประชาชน สนับสนุนภาครัฐ และกระทรวงสาธารณสุข เต็มขีดความสามารถในมาตรการต่าง ๆ ในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด-19 หลากหลายรูปแบบ เป็นที่ประจักษ์ แต่ฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม บางคนที่นั่งทำงานในรัฐสภาฯ มีทัศนคติทางลบต่อหน่วยงานหลักด้านความมั่นคง จนถึงขนาดพูดจาลักษณะนี้ สมควรแล้วหรือ”  

@@@…….เรียกถกด่วน….พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมด่วน หน่วยงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หน่วยขึ้นตรง กระทรวงกลาโหม ( นขต.กห.) เหล่าทัพ และ ตำรวจ (ตร.) ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อเร่งสนับสนุน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับมือกับผู้ป่วยโควิด 19 สะสมที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหารือและพิจารณาร่วมกัน ถึงขีดความสามารถทางการแพทย์ทหารสูงสุด ในการร่วมระดมปรับเกลี่ยบุคลากรทางการแพทย์ทหาร เสริมโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เร่งขยายห้องผู้ป่วย ICU จำนวน 80 เตียงในโรงพยาบาลทหารต่างๆในพื้นที่ กทม.โดยจะทยอยเปิดต่อเนื่องใน 30 วัน และขยายขีดความสามารถ พื้นที่ มทบ.11 สนับสนุนอาคารและสถานที่จัดทำ รพ. สนามเพิ่มเติม โดยร่วมกับ รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ดูแลผู้ป่วยสีแดงและเหลือง จำนวน 178 เตียง เปิดบริการผู้ป่วย และร่วมกับ รพ.พระมงกุฎฯ จัดตั้ง รพ.สนาม ดูแลผู้ป่วยสีเขียว เพิ่มเติม 176 เตียง โดยจะเร่งเปิดให้การบริการในวันที่ 4 ก.ค.นี้

@@@…….พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส./หน.ศปม.) ได้สั่งการให้  กองบัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง, ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเหล่าทัพ และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง จัดกำลังพลร่วมสนธิและวางกำลังในการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกับกรุง เทพมหานคร และกระทรวงสาธารณสุข เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับดูแลในพื้นที่ 50 เขต ของกรุงเทพมหา นคร จำนวน 575 แคมป์งานก่อสร้าง ตามมาตรการควบคุมการ  เคลื่อนย้ายของประชาชนและแรงงานในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง รวมทั้งการควบคุมแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

 

@@@…….พล.อ.ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก มีนโยบายให้ดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุก โดยมอบให้สถาบันวิจัยวิทยาศาตร์การแพทย์ทหาร เข้าดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อไวรัสโคโร นา 2019 ด้วยวิธี Rapid Test ให้กับกำลังพลทุกระดับ ทำให้กำลังพลมีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่กองบัญชาการกองทัพบกจะมีการจัดตรวจตามวงรอบแบ่งผลัดปฏิบัติงานตามมาตรการ WFH อย่างต่อเนื่องทุก 7 วันทำการ

@@@…….ศูนย์ปฏิบัติการด้านความมั่นคงกองทัพบก ได้รับมอบภารกิจให้เข้าควบคุมดูแลพื้นที่แคมป์คนงานตามมาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดในพื้นที่เป้าหมาย ควบคุมที่พักแรงงานและเขตก่อสร้างที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด COVID ใน กทม., ปริมณฑล และ จชต. รวม 10 จังหวัด มีผลตั้งแต่ 28 มิ.ย. 64 ผบ.ทบ.ได้กำชับให้ทุกกองทัพภาคบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบควบคุมพื้นที่ให้มีความปลอดภัยในการป้องกันเชื้อ ทั้งกับคนงานและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ที่ต้องดำรงมาตรการพิทักษ์พลอย่างเคร่งครัด เพื่อร่างกายแข็งแรงพร้อมปฏิบัติภารกิจ ควบคู่ไปกับการขอความร่วมมือให้ทุกส่วนในพื้นที่เสี่ยงปฏิบัติตามมาตรการเร่งด่วนของ ศบค. 

@@@……ทั้งนี้ ในพื้นที่ กทม. กองทัพบกได้รับมอบหมายให้ดูแลใน 27 เขตนั้น กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 1 ได้จัดกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจเข้าดูแลควบคุมแคมป์ที่เกิดการแพร่ระบาดตามที่กทม. กำหนดแล้ว 45 แห่ง สำหรับในเขตปริมณฑลและ จชต. กองทัพภาคที่ 1 และ 4 ก็ได้ดำเนินการร่วมกับทางจังหวัดตรวจสอบพื้นที่เพื่อควบคุมแคมป์คนงานที่เกิดคลัสเตอร์ในรูปแบบเดียวกัน รวมทั้งการจัดตั้งจุดตรวจร่วมควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามพื้นที่ในช่วง 30 วันจากนี้ โดยรัฐบาลได้ให้ความเร่งด่วนในการฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ 

@@@……นาวาเอก เกียรติกูล ไชยสังวล รองเจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ นำคณะข้าราชการกรมวิทยา ศาสตร์ทหารเรือ ร่วมกับข้าราชการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทหาร กองทัพเรือ พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ ได้อันเชิญเจลพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งมอบอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ประชาชนพื้นที่ชุมชนบางกอกน้อย และชุมชนบางกอกใหญ่ ในกิจกรรม “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID – 19” ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ วัดศาลแดง เขตบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งทางกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ได้นำอาหารและน้ำดื่ม พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ประชาชน ณ ชุมชนวัดศาลแดง 

@@@……ปิดท้ายกันด้วยเรื่อง จรวด Falcon 9 ของบริษัท SpaceX ได้นำส่งดาวเทียม นภา 2 ของกองทัพอากาศไทยขึ้นสู่อวกาศเป็นผลสำเร็จ และอีก 19 วัน ดาวเทียมนภา 2 จะถูกปล่อยจาก D-orbits ION Satellite Carrier สู่วงโคจรต่อไป ณ สถานีอวกาศ The Cape Canaveral Space Force Station, Florida USA สำหรับดาวเทียม นภา 2 เป็นดาวเทียมดวงที่ 2 ของกองทัพอากาศที่ยิงขึ้นสู่ชั้นอวกาศ หลังจากที่ได้ปล่อยดาวเทียม นภา 1  ขึ้นสู่อวกาศ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ณ ฐานยิงจรวด Guiana Space Center, French Guiana ดินแดนของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ทางตอนบนของทวีปอเมริกาใต้. 

………………………

คอลัมน์ “Military Key”

โดย “รหัสมอร์ส”