วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSเปิดแผนกลุ่มล้มรัฐ ล้มเจ้า เปลี่ยนระบอบการปกครองของไทย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เปิดแผนกลุ่มล้มรัฐ ล้มเจ้า เปลี่ยนระบอบการปกครองของไทย

สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรเริ่มยกระดับขึ้นเพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก แต่คงยาก ฝ่ายความมั่นคงมั่นใจพื้นฐานความรัก ความสามัคคีของคนไทยไม่ยอมให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีแผนที่จะล้มรัฐ ล้มเจ้า เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองก็ตาม

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key”  ทางเว็บไซต์ เดอะคีย์นิวส์  https://thekey.news  สัปดาห์นี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 63 การชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เริ่มยกระดับลามไปถึง “สถาบัน” อย่างจงใจ และดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเลือกเป้าทำลายหัวใจของคนไทยที่รักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์  ดังนั้นกลุ่มปกป้องสถาบันจึงต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของชาติ

@@@…….ไม่รู้ว่ากระแสข่าวของการทำ “รัฐประหาร” มาจากไหน จะอ้างว่า หากคนสองกลุ่ม คือกลุ่มขับไล่นายกรัฐมนตรี และกลุ่มปกป้องสถาบันเผชิญหน้ากัน ทางทหารโดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้ดำเนินการรัฐประหารทันที กลิ่นควันรัฐประหารจะมีจริงหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ แต่เจตนารมณ์ในการปฏิบัติงานของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตรแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ก็คือ “พิทักษ์ราชัน” โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนสูงสุดในการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสมพระเกียรติ ป้องกันและปราบปรามการกระทำที่ล่วงละเมิดพระบรมเดชานุภาพในทุกรูปแบบ

@@@……”ปกป้องประชา” โดยใช้ศักยภาพกองทัพในการดูแลประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการสนับสนุนการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนในทุกด้านอย่างยั่งยืน และ “รักษาแผ่นดิน” ถือเป็นภารกิจหลักที่มีความสำคัญยิ่ง ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ในยามปกติ และนำไปสู่การระดมสรรพกำลังในยามฉุกเฉิน และผนึกกำลังกับทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อการปกป้องและรักษาผืนแผ่นดินไทยอย่างเต็มประสิทธิภาพ…..เมื่อเห็นเจตนารมณ์ของ ผบ.ทบ. แล้ว ก็คงคิดได้ว่า โอกาสของการเกิดรัฐประหารจะมีหรือไม่…? หากมองในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเกิดการปะทะของคนสองกลุ่มจริง ภาครัฐบังคับใช้กฎหมายตามปกติ เสมอภาคเป็นธรรม ก็ชนะแล้ว ไม่จำเป็นต้องปฏิวัติ เป็นการปล่อยข่าวโกหกให้ประชาชนตื่นตระหนก เกลียดชังกองทัพ หวังให้ต่างชาติเข้าแทรกแซง ดูแล้วคล้ายคลึงกับยุคกรุงแตกสมัยอยุธยาซึ่งคนทุรยศต่อแผ่นดินคบคิดต่างชาติทำลายบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตน

cr : FB เยาวชนปลดแอก

@@@…….ทั้งที่ในความเป็นจริง กลุ่มที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญแบบเนปาล โดยเสนอให้ใช้ Nepal Model คือ โมเดลที่ผู้ชุมนุมต้องการแก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวด 2 ที่เกี่ยวข้องกับหมวดพระมหากษัตริย์ โดยไม่ต้องการให้มีพระมหากษัตริย์ แต่คนที่ขวางการนำเสนอแนวคิดดังกล่าวก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ดังนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงต้องจัดการไล่นายกรัฐมนตรีออกไปก่อน โดยที่ กลุ่มปฏิกษัตริย์นิยม ตั้งใจที่จะโจมตีสถาบันก่อน และยั่วให้ กลุ่มนิยมกษัตริย์ ออกมาปกป้อง เพราะอยากให้นองเลือด ด้วยการดึงต่างชาติเข้ามาแทรกทำลายชาติ แม้ว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายตรงข้ามจะใช้ยุทธวิธีสงครามข้อมูลข่าวสารใส่สมองเด็กและเยาวชน เป้าหมายต่อไปคือการทำให้เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งฝ่ายรัฐบาลพยายามไม่เดินเข้าเกมของฝ่ายผู้ชุมนุม

@@@…….การบริหารราชการและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องเพราะระบอบการปกครองนี้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากมติมหาชน จึงไม่สามารถดำเนินการพัฒนา ปรับปรุง เรื่องใด ๆ อย่างรวดเร็ว ดั่งใจนึก เหมือนการปกครองในระบบคอมมิวนิสต์ หรือ ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือระบอบเผด็จการ เช่นที่กลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวหาให้ร้าย ในขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบนถนนต้องการใช้ทางลัด ใช้กฎหมู่ ซึ่งเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ จึงดูเสมือนขัดแย้งในตัวเอง รวมทั้งเนื้อหาสาระในข้อเรียกร้องต่าง ๆ ก็ไร้ซึ่งเหตุผล ใช้ตรรกะชุดความคิดไม่สมเหตุสมผล จากการชี้นำของฝ่ายการเมืองกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่มิใช่ตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ 

@@@…….ในประวัติศาสตร์ ทหารได้แสดงบทบาทในการปกป้องประชาธิปไตยและปกป้องเสรีชนผู้อ่อนแอ มานับครั้งไม่ถ้วน กำเนิดของระบอบประชาธิปไตย มิได้เกิดขึ้นในยุโรปเหนือ แต่เริ่มขึ้นในยุโรปใต้ ในยุคกรีกโบราณ ทหารได้สละชีวิต หลั่งเลือด เพื่อปกป้องเสรีชน และประชาธิปไตยมากมาย รวมทั้งประวัติศาสตร์การเมืองชาติของกรีกโบราณ ชี้ให้เห็นว่าเสรีชนมีความหมายมากกว่าเสรีภาพส่วนบุคคล แต่เป็นอิสระภาพจากการครอบงำของต่างชาติต่างเผ่าพันธุ์ 



@@@…….ฝ่ายความมั่นคง ยังคงเชื่อมั่นในพื้นฐานความรัก ความสามัคคีของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทย กฎหมู่จะอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ นายกรัฐมนตรีมิได้มีอำนาจล้นฟ้าอย่างที่อ้างถึงกัน นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในฐานะผู้นำประเทศต้องปฏิบัติตามกฎหมาย การบีบบังคับหรือคุกคามรัฐบาลที่มาจากผลการเลือกตั้ง จะเปลี่ยนแปลงได้ก็เมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป ระบบถูกวางให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้มีโอกาสเลือกตั้งบุคคล และพรรคการเมืองอีกครั้งหนึ่งที่เชื่อว่าจะนำพาประเทศได้ในครั้งต่อไป และในความเป็นจริงแล้วอีกเพียง 2 ปีเศษ ๆ เท่านั้น หากไม่ชอบนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ครั้งหน้าก็อย่าเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้อยู่แล้วนั่นเอง การล้มรัฐ ล้มเจ้า มีข้อหากบฎ กลุ่มชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายอย่างไรก็ต้องถูกดำเนินคดีในที่สุด

cr / www.thaigov.go.th

@@@…….ตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน โดยต้องมีหน้าที่ในการดูแลให้ความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย เพราะเราไม่ใช่ผู้ขัดแย้งกับใคร อย่างไรก็ตามทุกคนต้องช่วยกันให้ประเทศชาติปลอดภัย ประชาชนปลอดภัย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปข้างหน้าให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่มีความต้องการที่จะดำเนินคดีกับใครอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเหตุบานปลายไปเรื่อยๆ ทางเจ้าหน้าที่ก็ลำบากใจ ในเรื่องของโซเซียลมีเดีย ผมพูดได้เพียงอย่างเดียวว่า มันแล้วแต่คน แต่จะเชื่ออย่างตามที่เห็น ตามที่อ่าน ผมคิดว่าต้องแยกแยะ อยากให้ใช้สติปัญญาพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่

@@@…….หลังจากที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  ได้มาตรวจเยี่ยมตามแนวชายแดนพื้นที่ภาคใต้ พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ได้ตรวจเยี่ยมการทำงานกำลังป้องแนวชายแดนไทย- มาเลเซีย ในการเฝ้าระวังสกัดกั้น โรคโควิด 19 และการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด ซึ่งบริเวณท่าข้าม บ้านบาโอ๊ะ ต.โก๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ถือเป็นจุดล่อแหลม เนื่องจากเป็นส่วนที่แคบที่สุดของลำน้ำสุไหงโกลก สามารถข้ามไปมาได้โดยสะดวก

@@@…….ปัจจุบัน มีร้อยป้องกันชายแดนที่ 1 ทำหน้าที่เฝ้าระวังดูแลพื้นที่ โดยใช้ชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ จำนวน 7 ชุด เฝ้าตรวจ เฝ้าระวัง ลาดตระเวณเคลื่อนไหว ตลอด 24 ชม. เสริมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน และชุดเฝ้าตรวจชายแดน ของ ตชด. นอกจากนี้ยังมี Active Finding Team จากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร่วมกับภาคประชาชนในพื้นที่เข้ามาช่วยเสริม ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ เป็นหูเป็นตาดูแลในพื้นที่ด้านใน เพื่อไม่ให้มีการหลุดลอดเข้าไปยังพื้นที่ได้

@@@…….จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยม ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ บ.น้ำตก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ บริเวณท่าข้าม กัวลอต๊ะ ตำบลนานาค อำเภอตากใบ เพื่อพบปะตรวจเยี่ยมชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ที่หน้าที่ในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย ผ่านช่องทางท่าข้ามธรรมชาติ โดยกำชับให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง ป้องกันตนเอง และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ก่อนจะได้ล่องเรือสำรวจช่องทางธรรมชาติริมแม่น้ำสุไหงโกลก ซึ่งตลอดระยะทาง กว่า 30 กิโลเมตร ซึ่งได้มีการวางกำลังสกั้ดกั้นแนวชายแดนไทย -มาเลเซีย ไว้ตลอด 24 ชม.

@@@…….ปิดท้ายกันด้วยการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพช่วยเหลือประชาชน ล่าสุดกำลังพลทหารหมุนเวียนกว่า 4,000 นาย พร้อมยานพาหนะและเครื่องมือช่างของหน่วยทหารทุกเหล่าทัพในแต่ละพื้นที่ยังคงกระจายให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินโคลนถล่มและวาตภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 1,891 หมู่บ้าน 34 จังหวัด

@@@…….โดยทำงานร่วมกับส่วนราชการและจิตอาสาในพื้นที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในบางพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังสูง เช่น นครราชสีมา ปราจีนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และสตูล สำหรับพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดระดับลงแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารได้ร่วมกันเข้าไปฟื้นฟูและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยการทำสะอาดอาคาร สถานที่ การซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎร การอพยพประชาชน สัตว์เลี้ยง และขนย้ายสิ่งของกลับเข้าที่ รวมทั้งการสนับสนุนสำรวจความเสียหายของที่พักอาศัย ระบบสาธารณูปโภค และพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย 

—————————————
คอลัมน์ “Military Key” โดย “รหัสมอร์ส” 



- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img