โล่งใจไปอีกเปาะ เมื่อ กลุ่มราษฎร แจ้งเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมใหญ่จากเดิมหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไปชุมนุมหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ “เอสซีบี” ย่านถนนรัชดา พร้อมประกาศชุมนุมไต่เพดานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนบรรลุเป้าหมายข้อเรียกร้อง
แกนนำให้เหตุผลต้องการเลี่ยงปะทะกับฝ่ายตรงข้าม และปลดเงื่อนไขการรัฐประหาร
โชคดีของประเทศไปอีกวัน ไม่เกิดเหตุม็อบชนม็อบ เพราะกลุ่มพลังแผ่นดินสยาม พร้อมเครือข่าย นำโดยนายสาธุ อนุโมทามิ ปักหลักเฝ้าระวังบนท้องถนนราชดำเนิน ปราบมวลชนเคลื่อนไหวปิดล้อมสำนักงานทรัพย์สินฯจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย
แล้วบึมป่วนเมืองก็อุบัติขึ้น บริเวณหน้าห้างอเวนิว รัชโยธิน ระหว่างม็อบราษฎรเลิกชุมนุมใหญ่
ก่อนหน้านั้นมีคำยืนยันจากผู้กุมอำนาจ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมและ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง ว่า ไม่มีรัฐประหารแน่
สยบกระแสกองทัพเตรียมเคลื่อนรถถังยึดอำนาจ
“หากจำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึก ขึ้นอยู่กับหน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินสถานการณ์ร้ายแรงแค่ไหน โดยดูความสำคัญของสถานที่ เช่น เขตพระราชทานที่ประทับ เขตพระบรมมหาราชวัง ดูผู้ชุมนุมมีอาวุธหรือไม่ ดูความเสียงอาจเผชิญหน้าและปะทะกัน” อาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ด้านกฎหมาย เปลือยให้เห็นภาพหากจำเป็นต้องงัดกฎอัยการศึก
เวทีรัฐสภาค่อยๆ ถูกลดบทบาทเรื่อยๆ ตรงกันข้าม…การเมืองนอกสภาทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ
ปรากฏการณ์นี้แหละ เป็นชนวนชั้นดีให้เกิดการปล่อยข่าว…กองทัพขยับก่อรัฐประหารแน่
สถานการณ์ไหล่บ่ามาถึงวันนี้ ยังไม่เห็นประตูเปิดเจรจาอย่างสันติ เห็นแต่ภาพเบลอๆ เกิดความรุนแรง
สอดรับกับการประชุมครม.วงเล็ก ระดับ 3ป. ก่อนการประชุมครม.ใหญ่นัดล่าสุด “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย หารือกันนานกว่าปกติ
ออกมาย้ำอีกครั้ง…ไม่มีการรัฐประหาร
อย่าลืมว่าฝ่ายยืดอำนาจช่วงหลังเกิดจาก ผบ.ทบ. และ ผู้นำเหล่าทัพ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี
แม้ในอดีตก็เคยเกิดกระแสข่าวรัฐประหารซ้อนในจังหวะก่อนมีการเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกฯ แต่ไม่มีอะไรให้บิ๊กเซอร์ไพรส์
และย้อนกลับไปไกลหน่อย ในยุคจอมพลป. พิบูลสงคราม เป็นนายกฯ ได้ทำ “รัฐประหารตัวเอง” หรือ “ยึดอำนาจตัวเอง” โดยไม่มีการเคลื่อนกองกำลัง มีเฉพาะตำรวจ ทหารบางส่วน พร้อมรถถังเฝ้าประจำจุดยุทธศาสตร์ในพื้นที่กรุงเทพฯ
ครั้งนั้นให้เห็นผลว่า “ไม่ได้รับความสะดวกในการบริหารประเทศ”
เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ 2492 ไม่เอื้อให้เกิดอำนาจ และมีอิทธิพลของคอมมิวนิสต์เข้าแทรกซึมอยู่เป็นจำนวนมาก แม้รัฐบาลทำความพยายามสักเพียงใด ก็ไม่สามารแก้ปัญหาคอมมิวนิสต์ได้
ตามสูตรการยึดอำนาจตั้งตั้งคณะบริหารประเทศชั่วคราว ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับ 2492 และหยิบรัฐธรรมนูญฉบับแรกปี 2475 มาใช้
ย้อนประวัติศาสตร์ให้ดูเป็นอุทาหรณ์ ไม่ต้องการให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์
ยังดีที่ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ย้ำนักย้ำหน้ายุคนี้รัฐประหารเป็นศูนย์และพร้อมปฏิบัติตามนโยบายของ “รัฐบาลลุงตู่”
ฉะนั้นขอให้เดือนธันวาคม 2563 เปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างสันติ ปลอดภัยทุกคน
…………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย “ราษฎรเต็มขั้น”
