“บิ๊กตู่” กับโควิดระบาดรอบสอง

ถือเป็นความผิดพลาดของ “บิ๊กตู่” ที่ไม่ปฏิรูปประเทศให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดขณะที่นั่งเก้าอี้ หัวหน้า คสช. เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดโควิดรอบสอบอย่างกว้างขวาง

อาจเกิดคำถามที่ว่า อ้าว..!! แล้วโควิดระบาดรอบสอง ไปเกี่ยวอะไรกับการปฏิรูปประเทศของ “บิ๊กตู่”

คำตอบมีอยู่ว่า รูปแบบการระบาดโควิดในรอบสอง มีความแตกต่างจากรอบแรก และสะท้อนให้เห็นจุดรั่วของระบบป้องกันของประเทศที่พัวพันกับผลประโยชน์อันมิชอบของคนในเครื่องแบบ

ถ้า “บิ๊กตู่” ปฏิรูปกลไกเหล่านี้ให้เกิดความโปร่งใส เรื่องบัดซบก็จะไม่เกิดขึ้น

การระบาดรอบแรก เข้ามาจากต่างประเทศทางเครื่องบินหรือเส้นทางเดินอากาศ จะเข้าทางสนามบิน และระบาดในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ นักธุรกิจและชนชั้นสุนทรีย์ที่ชอบเที่ยวกลางคืน ผู้ติดเชื้อจะอยู่ในเมืองหลวงและหัวเมืองเศรษฐกิจ

การระบาดรอบสอง เข้ามาจากต่างประเทศทางรถตู้ขนแรงงานเถื่อน หรือบางส่วนเป็นหญิงขายบริการที่ข้ามไปหากินในบ่อนฝั่ง เมียนมาร์ แล้วแอบลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการกักตัว 14 วัน จึงระบาดอยู่ใน กลุ่มชนชั้นหาเช้ากินค่ำ และ แรงงานเมียนมาร์ ผู้ติดเชื้อจะอยู่ในเมืองที่มีอุตสาหกรรมใช้แรงงาน และชุมชนที่เกี่ยวข้องกับตลาดสด

เมื่อวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบการระบาดทั้ง 2 รอบ ก็พอจะประเมินได้ว่า การระบาดรอบสองแก้ไขและรับมือได้ยากกว่าการระบาดรอบแรก เพราะเป็นการระบาดในกลุ่มคนที่มีการเคลื่อนไหวโยกย้าย แอบลักลอบซุกซ่อน มีความเกี่ยวพันกับตลาดค้าอาหารทะเลที่ลักลอบใช้แรงงานเถื่อน และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับการค้าอาหารทะเล

และข้อสังเกตที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือ การระบาดในรอบสอง ไม่เกิดขึ้นตรงจุดที่ลักลอบข้ามแดน เช่น แม่สาย และ แม่สอด แต่ทะลุเข้ามาระบาดในพื้นที่ปลายทาง เช่น สมุทรสาคร กรุงเทพฯ และ จังหวัดปริมณฑล ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาหารทะเล

ข้อสังเกตนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนข้ามประเทศมีจริง กลไกรัฐรับรู้แต่ปล่อยปละละเลย

อย่ามาอ้างว่า ชายแดนที่เป็นพรมแดนธรรมชาติยาวเป็นพัน ๆ กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสอดส่องได้ทั่วถึงถ้าเป็นจริงอย่างที่อ้าง รูปแบบการระบาดของโควิดรอบสองจะเกิดในลักษณะ ค่อย ๆ ระบาดตามหัวเมืองชายแดน เช่น แม่สาย และแม่สอดก่อน เพราะผู้ลักลอบข้ามแดน จะเดินเท้าข้ามมา และพักรอจังหวะขึ้นรถโดยสารเข้ามาสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ

ปรากฏว่าหัวเมืองชายแดนไม่มีการระบาด จะพบบ้างก็ประปราย แสดงว่า ขบวนการลอบพาแรงงานเถื่อนข้ามชายแดนแล้ว ก็ยัดใส่รถตู้บึ่งตรงสู่ปลายทางทันที จึงไม่เห็นการระบาดที่ต้นทาง แต่เห็นการระบาดใหญ่ที่ปลายทาง

รูปแบบการระบาดของโควิดรอบสอง ชี้ให้เห็นว่า เจ้าหน้าที “รู้เห็น” กับขบวนการขนแรงงานเถื่อนและการลักลอบข้ามแดน โดยได้รับค่าตอบแทนหัวละ 800 บาทในช่วงที่ปิดชายแดนใหม่ ๆ ก่อนจะขยับเป็นหัวละ 5,000 บาทในปัจจุบัน

ถ้า “บิ๊กตู่” ต้องการแก้ไขในสิ่งผิด ควรรีบไปจัดการกับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่เฝ้าชายแดน ใครปฏิบัติหน้าที่หละหลวม ปล่อยให้โควิดทะลุเข้ามาระบาดรอบสอง จะต้องเจ็บตัว

เพราะทำให้รัฐต้องเสียเงินงบประมาณกู้วิกฤตเศรษฐกิจรอบสอง ทำลายชื่อเสียงในการต่อสู้โควิด และเพิ่มความเสี่ยงในชีวิตและสุขภาพให้กับประชาชน

พวกหากินกับเศษเงินโดยไม่คิดถึงประเทศชาติ อย่าปล่อยให้ลอยนวล.

#ดินสอโดม