วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSฉวยวิกฤติ“ค่าไฟแพง” พรรคการเมือง ... ดาหน้าออกนโยบายหวังเพิ่มคะแนนนิยม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ฉวยวิกฤติ“ค่าไฟแพง” พรรคการเมือง … ดาหน้าออกนโยบายหวังเพิ่มคะแนนนิยม

ค่าไฟแพง!! ยังคงเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทยในเวลานี้ หลังชาวบ้านตาดำๆ ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวกันทีเดียว ชนิดที่เรียกว่า…เมื่อเห็นตัวเลขในบิลค่าไฟเดือนมี.ค.นี้ แล้ว “ลมจะจับ”

หลายคนอดรนทนไม่ได้ ต้องตั้งคำถาม…ค่าไฟบ้านหน่วยละกี่บาท? จนกลายเป็น # แฮชแท็ก ที่ครองอันดับบนเทรนด์ “ทวิตเตอร์” ติดต่อกันมาหลายวันทีเดียว

แม้ใครต่อใคร…ยอมรับสภาพว่าอากาศร้อนหนักหนาสาหัส ทำให้ต้องใช้แอร์ เปิดตู้เย็น กันมากกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะใช้กันอย่างเลยเถิด เกินตัว เหมือนค่าไฟที่ปรากฎอยู่ในบิลเดือนนี้ ซะเมื่อไหร่?

ที่สำคัญ!! ในรอบบิลหน้า หรือในงวดหน้าคือตั้งแต่เดือนพ.ค.-ส.ค.66 ค่าไฟจะปรับเพิ่มมากขึ้นไปอีก แถมยังเป็นอัตราเดียว โดยปรับให้ค่าไฟภาคเอกชนมีราคาเท่ากับค่าไฟบ้าน

ต่อให้มีกระแสข่าวจากภาครัฐ ออกมาแจ้งข่าวดีว่า อาจปรับค่าไฟลดลงได้อีกหน่วยละ 7 สตางค์ จากเดิมที่ต้องปรับเพิ่มขึ้นเป็นหน่วยละ 4.77 บาท ก็ตาม

แต่เอาจริงๆ ค่าไฟที่แพงขึ้นกับส่วนลดที่ลดให้น่ะ ถือว่า…จิ๊บจิ๊บ อย่างไรซะ คนไทยทั้งประเทศก็ต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้นอยู่ดีนั้นแหล่ะ

ยิ่งเวลานี้ การเมืองไทยกำลังร้อนแรง สารพัดเรื่องก็สามารถนำมาหาเสียงขายฝันให้กับคนไทยได้แทบทุกเรื่อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่บรรดาพรรคการเมืองต่างออกมาสนนแนวทางแก้ไขปัญหาค่าไฟแพงกันเป็นแถว

อย่าง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ก็เสนอ จะให้ค่าไฟอยู่ที่ยูนิตประมาณละ 3.90บาท แถมยังมีแนวคิดให้นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปแบบเสรี

ขณะที่ “พรรคประชาธิปัตย์” เสนอรื้อโครงสร้างราคาพลังงานทั้งหมด รวมทั้งปรับราคาก๊าซป้อนโรงไฟฟ้าให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นธรรม กำหนดสัดส่วนกำลังการผลิตระหว่างรัฐกับเอกชนให้เหมาะสม รวมทั้งต้องยกเลิกค่าเอฟที โดยมีวิธีอื่นที่ดีกว่า

ด้าน “พรรคเพื่อไทย” เสนอพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตสอดคล้องกับปริมาณไฟฟ้าสำรองที่สั่งซื้อจากเอกชน เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา เพื่อนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์ระดับครัวเรือน ให้ กฟผ.ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ลดต้นทุนการผลิต

หันมาที่ “พรรคก้าวไกล” เสนอเป็นนโยบาย 5 ขั้น เริ่มจากการเปลี่ยนนโยบายจัดสรรก๊าซธรรมชาติ จากเอื้อกลุ่มทุนเป็นเอื้อประชาชน เปลี่ยนได้เลยใน100วัน และ เห็นผลในบิลค่าไฟ ลดได้ทันที 70 สตางค์ต่อหน่วยในปีแรก จากนั้นจะมีการเปลี่ยนแดดเป็นเงิน ด้วยการปลดล็อกระบบขายไฟมิเตอร์หมุนกลับจากหลังคาบ้านเรือน เพื่อให้ทุกบ้านเรือนที่ต้องการติดโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านสามารถทำได้อย่างถูกต้อง

ขั้นที่ 3 เปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเลือกซื้อไฟฟ้าได้เอง ไม่ต้องถูกมัดมือชกซื้อจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยุติการรับประกันกำไรให้ “เจ้าสัวพลังงาน” จากนั้นจะขอชนกับ “กลุ่มทุนใหญ่เสือนอนกิน” เจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและสัมปทานกับกลุ่มทุนพลังงานใหม่ เพื่อลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากค่าความพร้อมจ่าย ของโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้เดินเครื่อง และแก้ไขนโยบายเอื้อกลุ่มทุนพลังงานเพื่อลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนได้เพิ่ม

ขั้นสุดท้าย เดินหน้าแผนพีดีพี เน็ท ซีโร่ ไม่เพิ่มโรงไฟฟ้าฟอสซิล ตั้งเป้าปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดภายในปี 2580 เพื่อให้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดเป็นพลังงานสะอาดให้มากที่สุด

“พรรคพลังประชารัฐ” เสนอ ปรับโครงสร้างพลังงาน จะช่วยผลักดันให้เกิดการลดราคาไฟฟ้าประเภทที่อยู่อาศัยลง 2.27 บาท ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าในราคา 2.50 บาทต่อหน่วย ส่วนภาคธุรกิจค่าไฟฟ้าจะลดลง 2.07 บาท คงเหลือเพียงแค่ 2.70 บาทต่อหน่วย รวมทั้งยังมีโครงการโซลาร์ประชารัฐ ส่งเสริมให้ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เอง

ด้าน “พรรคภูมิใจไทย” เสนอโครงการฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์ ลดค่าไฟฟ้าหลังคาเรือนละ 450 บาท lj;o “พรรคเสรีรวมไทย” เสนอรื้อระบบสัญญาที่ไม่เป็นธรรมระหว่างโรงไฟฟ้าเอกชนกับ กฟผ. และปราบการทุจริตเชิงนโยบาย

“พรรคชาติพัฒนากล้า” เสนอ รื้อโครงสร้างพลังงาน ทั้งธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้า รวมไปถึงเลิกผูกขาดกิจการสายส่งไฟฟ้า ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย ประกาศ ลดค่าไฟฟ้าให้เหลือไม่เกินหน่วยละ 3.50 บาท

ทั้งหมด!! คือตัวอย่างพรรคการเมืองที่เสนอการแก้ไขปัญหาค่าไฟแพงมหาโหด ซึ่งมาปะทุในช่วงโค้งสุดท้ายทางการเมือง ส่วนจะได้ใจหรือเปล่าคงต้องรอดูผลการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้

………………………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img