วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“เศรษฐกิจไทย”...กู่ไม่กลับแน่ ต้าน “ล็อคดาวน์” ทุกรูปแบบ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เศรษฐกิจไทย”…กู่ไม่กลับแน่ ต้าน “ล็อคดาวน์” ทุกรูปแบบ

มาจนถึงวันนี้… เศรษฐกิจไทยคงโงหัวไม่ขึ้นแล้วแน่ ๆ เหลือแค่ว่าจะถดถอยลงหรือเปล่า? ก็เท่านั้นแหล่ะที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศกำลังกังวล

ด้วยพิษของไวรัสโควิด ที่จับตัวได้ยากยิ่งนัก การพัฒนาวัคซีนยังไม่รวดเร็วเท่ากับความไวของการกลายพันธุ์ ผนวกกับการบริหารจัดการแบบพี่ไทย ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศในเวลานี้เดือดร้อนกันถ้วนหน้า

ล่าสุด…ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ออกมาประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสร้าย ในช่วง 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค) ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยแล้วประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งทำให้จีดีพีไทยจะลดลงไปอีก 2-3%

นั่นหมายความว่า…โอกาสของเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะไม่ขยายตัว เผลอ ๆ หากไม่มีอะไรดีขึ้น หรือสามารถประคับประคองได้ ก็อาจหัวปักจนหดตัวไปติดลบ ที่ 2% ก็เป็นไปได้

ไม่ใช่เพียงแค่สถาบันแห่งนี้เท่านั้น… ที่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเลวร้ายจนไม่ขยายตัวและอาจติดลบ!!

แต่อย่างภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ทั้งสมาคมธนาคารไทย ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ต่างเห็นพ้องต้องกันที่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้นอกจากจะ ไม่ขยายตัวแล้ว ก็อาจหดตัวไปติดลบที่ 1.5% โน่น

เหตุผลใหญ่…ที่บรรดาภาคเอกชนต่างมองไปในทิศทางที่แย่ลง เป็นเพราะ การใช้มาตรการล็อคดาวน์ ที่เพิ่มเติมจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด

เนื่องด้วยเพราะส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่สำคัญที่มีโรงงานอุตสาหกรรม หรือเป็นพื้นที่ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเป็นสัดส่วนถึง 80% ของจีดีพี ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอลงมากขึ้น

ไม่เพียงเท่านี้ พิษร้ายของโควิด ยังได้ลามหนักไปสู่บรรดาโรงงานต่าง ๆ นั่นหมายความว่า… เป็นการลามเข้าไปสู่ภาคผลิต ที่มีผลต่อการส่งออก ที่เวลานี้ได้กลายเป็นรายได้หลักของประเทศ

นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยว การค้าการขาย หรือระบบโลจิสติกส์ ที่ถูกลดทอนลงไปมาก หรือเท่ากับว่าหายไปทั้งหมด หรือหายไป 100% นั่นแหล่ะ

ที่สำคัญ!! ไม่ใช่เพียงแค่หดตัวไปที่ 1.5% หรือหดตัว 2% เท่านั้น แต่มีการมองกันว่า หากรัฐบาลยัง “เอาไม่อยู่” แล้วยังต้องล็อกดาวน์ต่อไปเรื่อย ๆ เศรษฐกิจอาจดิ่งลึกหดตัวไปถึง 4% ทีเดียว

เช่นเดียวกับเรื่องของความเชื่อมั่นของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นของผู้บริโภคหรือภาคธุรกิจ เพราะทุกสำนักที่ทำการสำรวจ ได้ตัวเลขออกมาเหมือนกัน คือ ต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น 22 ปี 10 เดือน หรือจะเป็นตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจก็ตาม

จึงไม่ต้องแปลกใจกันไป ที่ภาคเอกชนต่างเฮโลกันออกมาต่อต้านการล็อคดาวน์ในทุกรูปแบบ ทั้งประเภทที่เพิ่มจำนวนวัน หรือการขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง จากปัจจุบัน 29 จังหวัด ออกไปอีก

เพราะวิกฤติในรอบนี้ นับตั้งแต่การล็อคดาวน์เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ก็เกือบ 1 เดือนเต็ม แต่จำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตยังสูงอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ลดลงอย่างที่รัฐบาลตั้งความหวังไว้

ไม่เพียงแค่…ชีวิตคนไทยที่ไม่ปลอดภัยเท่านั้น!! แต่เศรษฐกิจของประเทศจะพังพินาศตามไปด้วย นั่นแหล่ะ…คือสิ่งที่ “คนไทย” ทั้งประเทศกังวล ไม่ใช่เพียงแค่บรรดาภาคธุรกิจเท่านั้น

สิ่งที่ภาคเอกชนต่างเรียกร้อง ก็คือ ภาครัฐต้องหาแนวทางที่ต้องอยู่กับโควิด -19 ให้ได้ รวมถึงต้องควบคุม ให้เร่งจัดหาวัคซีนเข้ามาให้มากที่สุด ทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก การคัดกรองแยกผู้ป่วยเข้าระบบการรักษา

ที่สำคัญ!! กระบวนการทำงานของภาครัฐในทุกเรื่อง ต้องหลุดพ้นออกจากระบบราชการให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าไม่ต้องแจกแจงให้เห็น แต่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าระบบการทำงานราชการน่ะ เป็นอย่างไร?

กรณีเรื่อง “วัคซีน” น่าจะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ หรือเป็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไม? หลายคนต่างไม่ปลื้มกับระบบราชการเรียกได้ว่า…สุดติ่งกระดิ่งแมว

หรือ…อย่างการดูแลผู้ติดเชื้อ การรับผู้ติดเชื้อเข้ามารักษาไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ตาม โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่เสียชีวิตคาบ้านพักไม่เว้นแต่ละวัน จนทำให้เกิดความรู้สึกว่า “ปล่อย” หรือไม่?

เอาเป็นว่า ณ เวลานี้ เป็นเรื่องยาก ต่อให้เป็นอัศวินม้าขาวมาจากไหน คงเอาไวรัสไม่อยู่!! เพียงแต่ว่า ถ้าการบริหารจัดการดีอย่างเป็นระบบ ก็น่าจะประคับประคองประเทศไทย ให้เดินหน้าต่อไปได้ในทุกด้าน ก็เท่านั้น!!

………………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img