วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS1 พ.ค.รัฐลดชดเชย“น้ำมัน” จับตาคนไทย “กระอักเลือด”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

1 พ.ค.รัฐลดชดเชย“น้ำมัน” จับตาคนไทย “กระอักเลือด”

รัฐบาลจัดทีมเศรษฐกิจ เปิดตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล แจกแจงรายละเอียดของสารพัดมาตรการลดค่าครองชีพ ช่วยเหลือประชาชนคนไทย จากปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน อีกครั้ง!!

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ภายหลังการประชุมครม.เมื่อต้นสัปดาห์ รัฐบาลได้เปิดทางให้ “บิ๊กตู่” ในฐานะผู้นำประเทศ ออกแถลงมาตรการทั้งหมดไปก่อน เป็นการปูพรมให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่จะหาทางช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเต็มกำลัง ท่ามกลางภาวะบีบคั้นในเรื่องของงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด

สำหรับมาตรการของรัฐบาลในรอบนี้ ได้บทสรุปที่ชัดเจนว่า ต้องใช้เงินเข้าไปสนับสนุนหรืออุดหนุน รวมแล้วเป็นเงิน 80,247 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนกว่า 40 ล้านคน โดยแหล่งเงินทั้งหมดจะมาจาก 4 แหล่ง คือ

1.เงินกู้…ที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องดำเนินการ เป็นวงเงิน 39,520 ล้านบาท เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท และดูแลชดเชยค่าก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี โดยทยอยขึ้น 3 ครั้ง

2.เงินสมทบ…ของกองทุนประกันสังคม วงเงิน 35,224 ล้านบาท ที่ได้ลดอัตราการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมลงทั้งผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และตามมาตรา 39

3.งบกลาง…สำนักงบประมาณจะจัดสรรงบกลาง รายการสำรองเงินจ่ายฉุกเฉิน ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 ให้ประมาณ 3,740 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 300 หน่วย การสนับสนุนผู้ใช้ก๊าซหุงต้มที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน และผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้าง

4.เงินจาก บมจ.ปตท. จำนวน 1,763 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนบรรดาโชว์เฟอร์แท็กซี่ ที่อยู่ในโครงการลมหายใจเดียวกัน นำไปใช้การคงราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวี ที่ กก.ละ 15.59 บาท และผู้เหลือบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยที่มีบัตรคนจน


สำหรับแนวทางที่รัฐบาลออกมาแจกแจงให้เห็นภาพกันชัด ๆ เพื่อลดความสับสนทั้งหมด ประกอบด้วย

1.ลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ft) ลง 22 สตางค์ต่อหน่วย ช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ ซึ่งสามารถช่วยประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วยได้ประมาณ 20 ล้านครัวเรือน

2.มาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตน และนายจ้าง ตามมาตรา 33 โดยลดอัตราสมทบจาก 5% เหลือ 1% สำหรับนายจ้างและผู้ประกันตนในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค.นี้ โดยมีผู้ประกันตนได้ประโยชน์ 11.2 ล้านคน และนายจ้างได้ประโยชน์ 4.9 แสนราย

3.ลดอัตราจ่ายสมทบสำหรับผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 จำนวน 10.7 ล้านคน ลดอัตราเงินสมทบเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน

4.ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน โดยลดจาก 9% เหลือ 1.9% สำรับงวดค่าจ้างพ.ค.-ก.ค.65


5.ช่วยเหลือผู้ที่ใช้ก๊าซหุงต้มที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มวงเงินช่วยเหลือเป็น 100 บาทต่อ 3 เดือน

6.ช่วยเหลือผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 5,500 คน สำหรับเป็นส่วนลดในการซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาทเป็นระยะเวลา 3 เดือน

7.ช่วยผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 3.18 แสนคน ให้ได้ใช้ก๊าซในราคาเดิมที่ราคา 15.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน

8.ช่วยเหลือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง จำนวน 1.57 แสนคน โดยให้การสนับสนุนส่วนลดค่าน้ำมันก๊าซโซฮอล์ 250 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน

9.ช่วยเหลือผู้ใช้รถแท็กซี่ที่อยู่ในโครงการลมหายใจเดียวกัน จำนวน 1.7 หมื่นคน ให้ได้ซื้อก๊าซในราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน

สุดท้าย 10.การใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไว้ที่ 30 บาทต่อลิตรจนถึง 30 เม.ย.2565 และการทยอยขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเดือนละ 1 ครั้ง รวม 3 ครั้งภายใน 3 เดือน

แม้ไม่มีอะไรใหม่เพิ่มเติมจากที่ “บิ๊กตู่” ได้ออกมาเปรยไว้ก่อนหน้านี้ แต่!!ที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า กระทรวงพลังงาน ได้รายงานฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค.65 ติดลบไปแล้วถึง 32,831 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงเกินกว่าจะดำเนินการต่อไปได้


ด้วยเหตุนี้เอง!! จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับราคาพลังงานขึ้นบ้าง แต่เป็นการปรับขึ้นในรูปแบบ “คนละครึ่ง” อย่างกรณีของน้ำมันเบนซิน หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 115-135 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาขายปลีกเบนซินในประเทศอยู่ที่ 38-40 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯจะเข้าไปอุดหนุน 4 บาท ประชาชนออกอีก 4 บาท รวมประชาชนจ่าย 34 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.65 นี้เป็นไป

เช่นเดียวกับเรื่องของน้ำมันดีเซล ที่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป รัฐก็จะเข้าไปอุดหนุนในรูปแบบของ “คนละครึ่ง” เช่นกัน แปลความง่าย ๆ ก็คือ จะไม่เห็นดีเซลในราคาลิตรละ 30 บาทอีกต่อไป ถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลกยังพุ่งปรี๊ด พุ่งปรี๊ดต่อไปเรื่อย ๆ

สุดท้าย!! ก็ต้องมารอดูว่า รอยรั่วที่รัฐบาลพยายามอุดเอาไว้ จะไปลงเอยกับราคาสินค้าหนักหนาเพียงใด!!
……………..

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img