“เด็กจบใหม่”เลือกให้ถูก แค่ชอบไม่พอ ต้องโดนตลาด

ผ่านไปแล้ว 6 เดือน ประเทศไทย!! ยังคงลุ่มๆ ดอนๆ ประชาชนตาดำ ๆ ยังไม่พ้นจากปากเหว หลังต้องประสบพบเจอกับ “วิกฤติซ้อนวิกฤติ”

ล่าสุด!! ธนาคารโลก ได้ออกรายงานตามติดเศรษฐกิจไทยฉบับใหม่ โดยปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ อยู่ที่ 2.9% จากเดิมเมื่อกลางเดือนธ.ค. 64 ได้คาดการณ์ไว้ที่ 3.9% หรือปรับลดลง 1%

อย่างที่รู้กัน…เป็นเพราะไทยได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาพลังงานสูงและราคาสินค้าแพง กดดันเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นมาก และยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีนไม่ฟื้นตัวจากการปิดเมือง รวมถึงความเสี่ยงจากโควิด ที่อาจกลับมาระบาดได้อีก

แม้ประเทศไทยได้เลือกใช้วิธี “เปิดเมือง” เพื่อผ่อนคลายให้หลาย ๆ ภาคส่วน เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะเรื่องของ “แรงงาน”

เพราะ!! อย่างน้อย หากแรงงานยังพอมีงานทำ!! นั่นหมายความว่า…เศรษฐกิจยังมีแรงขับเคลื่อนต่อไปได้!!

ก่อนหน้านี้ สภาพัฒน์ ได้รายงานสถานการณ์แรงงานไทยในไตรมาสแรกของปี 65 โดยพบว่า ภาพรวมการจ้างงานมีจำนวน 38.7 ล้านคน โดยเพิ่มขึ้น 3% แต่หากดูในแง่ของสาขาโรงแรมและภัตตาคารแล้ว กลับพบว่า มีการจ้างงานลดลง 1.1% จากผลกระทบของโควิด

ขณะที่การว่างงานปรับตัวดีขึ้น โดยมีผู้ว่างงาน 6.1 แสนคน ลดลงจากปีก่อน ที่มีผู้ว่างงานที่ 7.6 แสนคน ขณะที่ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน มีผู้ว่างงานที่ 6.3 แสนคน

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่ยังลูกผีลูกคน จะมีความเสี่ยงต่อบรรดา “เด็กจบใหม่” ที่แต่ละปีจะมีจำนวนประมาณ 4-5 แสนคน ด้วยเพราะแนวโน้มของเด็กจบใหม่ที่ออกมาจะมีสาขาที่ตรงกับความต้องการของตลา

บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมาสะท้อนข้อมูลให้เห็นว่า จากการสำรวจของจ๊อบส์ดีบี พบว่าภายหลังจากสถานการณ์โควิด ธุรกิจที่พลิกฟื้นได้อย่างรวดเร็วมี 4 ธุรกิจ

ธุรกิจแรก… ธุรกิจสารเคมี พลาสติก กระดาษ และปิโตรเคมี ซึ่งได้รับผลพวงเชิงบวกมาจากการใช้พลาสติกที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 300% จากการใช้บริการส่งอาหารในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด

อันดับสอง… ธุรกิจไอที เติบโตจากพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งการสนับสนุนของรัฐบาลที่ผลักดันการนำเอาอุปกรณ์ไอทีมาประยุกต์ใช้ ทำให้มีผู้บริโภคใช้บริการเกี่ยวกับดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 30%
ทั้งนี้ มีบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน จำนวนมากกว่า 60% ลงประกาศงานหาคนเพิ่ม และพร้อมเสนออัตราเงินเดือนที่สูง เพื่อดึงดูดมนุษย์ไอทีเข้าทำงาน

อันดับสาม…ธุรกิจการผลิต ขยายตัวก้าวกระโดด มีการผลิตเพิ่มขึ้น หลังจากมาตรการควบคุมโรคระบาดเริ่มผ่อนปรนลง โดยเฉพาะที่ชลบุรีมีประกาศงานสูงสุดถึง 16.5% ส่วนตำแหน่งงานระดับเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น 79.5% เป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของประกาศงานทั้งหมด

อันดับสี่…ธุรกิจการแพทย์และเภสัชกรรม ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดโดยงานห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ งานวิจัยและพัฒนา เพิ่มสูงสุดที่ 51.95% ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเริ่มเปิดตัวโรงพยาบาลเสมือนจริง นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาใช้ให้คำปรึกษา และติดตามการรักษาแบบทางไกล

ส่วนสายงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ สายงานไอที 19.1% รองลงมาคือ สายงานขาย บริการลูกค้า และพัฒนาธุรกิจ 19.0% ตามด้วย สายงานวิศวกรรม 13.9% สายงานการตลาด งานประชาสัมพันธ์ 11.4% และ สายงานบัญชี 9.0%

จากข้อมูลนี้!! ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า “คนไอที” ยังคงเป็น สายงานมนุษย์ทองคำ ที่ตลาดงานพร้อมแย่งชิงตัว และเป็นสายงานที่เงินเดือนขึ้นอันดับ 1 มาตลอดตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 โดยมีมากถึง 41% ทีเดียว

ในเมื่อโลกเปลี่ยน…เข้าสู่ ยุคนิวนอร์มัล หลังจากถูกดิสรัปชั่นด้วยเทคโนโลยี หรือแม้แต่วิถีชีวิตหลังยุคโควิด ที่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับระบบออนไลน์

ตรงนี้!! จึงเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่สำคัญ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ภาครัฐที่ต้องคำนึงถึง แต่ในแง่ของ “แรงงาน” เอง ก็ต้องตระหนัก ต้องเตรียมตัว เพื่อจบออกมาแล้วจะได้ไม่ต้องมานั่ง “วิจัยฝุ่น” ก็เท่านั้น!!

………………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)