วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSเยียวยาโควิด...ยิ่งช้ายิ่งเจ็บ!! คนไทยกอดคอชะเง้อรอ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เยียวยาโควิด…ยิ่งช้ายิ่งเจ็บ!! คนไทยกอดคอชะเง้อรอ

ณ วันนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า สุดท้ายแล้วการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ในรอบใหม่ จะจบลงไปได้เมื่อใดกันแน่

หรือ…รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสามารถยุติปัญหา ควบคุมดูแล การแพร่ระบาดได้เช่นเดียวกับการระบาดที่เกิดขึ้นในครั้งแรกได้หรือไม่

แต่ในเวลานี้ เชื่อได้ว่าประชาชนคนไทย ต่างมีความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกันว่า การแพร่ระบาดในรอบใหม่นี้ ดูจะหนักหนาสาหัสกว่ารอบแรก ด้วยซ้ำไป

ด้วยเพราะการพบ ผู้ติดเชื้อ ที่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว จนล่าสุด ทะลุ 57 จังหวัด ขณะที่ผู้ติดเชื้อสะสม ก็ใกล้หลักหมื่นเข้าไปทุกที โดย ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทย แล้ว 9,636 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิจสะสม 67 ราย

ขณะเดียวกัน การติดเชื้อ ในแต่ละวัน แม้จะสลับขึ้นสลับลงในแต่ละวัน แต่ที่น่าสนใจ คือ ผู้ติดเชื้อ จากเดิม เป็นเพียงแค่หลักสิบ ก็ทะลุขึ้นเป็นหลักร้อยคน

ตรงจุดนี้!! ถือเป็นจุดที่สร้างความหวั่นไหวให้กับผู้คน ให้กับคนไทยทั้งประเทศ แม้จะมีประสบการณ์จากการระบาfในรอบแรกมาแล้วก็ตาม

แต่!! การแพร่ระบาดที่ไปอย่างรวดเร็ว และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถในการดูแล ในการบริหารจัดการของผู้บริหารประเทศ

แม้บทเรียนจากการใช้ “ยาหนัก” ด้วยการล็อคดาวน์ประเทศ ในช่วงต้นปี 63 ที่ผ่านมา ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยต้องบาดเจ็บเจียนตายเพียงใด

การเลือกใช้ “มาตรการ” เพื่อดูแล เพื่อแก้ปัญหา ในรอบนี้ จึงมีทั้งเสียงเรียกร้องทั้งสองด้าน ทั้งยอมเจ็บแต่จบ และการรักษาบาดแผลทีละจุด เพื่อรักษาระบบเศรษฐกิจไว้

ขณะเดียวกัน เสียงเรียกร้องในการเยียวยาจากรัฐบาล ก็ดังกึกก้อง พร้อมใจกันขึ้นมาทันทีทันใด เพราะหากปล่อยให้รัฐบาลมาหาทางเยียวยาภายหลัง คนที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ก็ต้องยอมตายเหมือนการระบาดรอบแรก

แม้รัฐบาล จะพยายามออกมาแก้ต่าง ว่ารัฐบาลยังมีเงินเพียงพอ เงินในคลังยังสามารถดูแลเยียวยาผลกระทบในรอบใหม่นี้ได้ โดยมีทั้งเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปปี 64 ในส่วนของงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และรายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1.39 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีเงินกู้ตามพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ยังเหลือวงเงินอีกกว่า 4.7 แสนล้านบาท ขณะที่ยังมีงบประมาณการลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีอีกกว่า 2.9 แสนล้านบาท สิริรวมแล้วก็กว่า 9 แสนล้านบาท ที่จะเข้ามาดูแลและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไม่ให้ปักหัวลงเหมือนปีที่ผ่านมาอีก

แต่ปัญหาที่ประชาชนคนไทย เรียกร้องในเวลานี้ คือ ต้องการเห็นแพคเกจมาตรการในการที่จะดูแลคนไทย ในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤติความยากลำบากในช่วงนี้มากกว่า ที่ต้องการเห็นจำนวนเงิน

เพราะสุดท้ายแล้ว!!! จำนวนเงินที่รัฐบาลพยายามยกขึ้นมาให้เห็น ใช่ว่าจะลงมาถึงคนที่ยากลำบากทั้งจำนวนเสียเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ อยากเห็น คือ จะมีหรือไม่กับคนละครึ่งเฟสสาม

จะมีมั๊ย กับการเพิ่มวงเงินคนละครึ่งขึ้นไปเป็น 4,000 บาท 5,000 บาท เหรือเท่าใดก็แล้ว หรือจะมีมั๊ย กับการขยายระยะเวลาในการใช้อาจยาวนานขึ้นมากกว่าวันที่ 31 มี.ค.64

ที่สำคัญ!! ที่ทุกคนรอคอยคือ จะมีมั๊ย กับการแจกเงินเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เช่นเดียวกับรอบแรก  แม้ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวลือผ่านโลกโซเชียล มากมาย ว่าจะมีมาตรการแจกเงิน เพิ่มเงินคนละครึ่ง จนต้องทำให้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตามมาแก้ข่าวกันไม่เว้นแต่ละวัน

แม้จะยอมรับว่า เรื่องนี้รัฐบาลต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะมีงบประมาณอยู่อย่างจำกัด และยังไม่รู้ว่าปัญหาของไวรัสร้ายจะยุติลงเมื่อใดกันแน่ แต่หากปล่อยให้เนิ่นนานออกไป โดยไม่มีความชัดเจน นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจดิ่งลึก ความเสียหายต่อเศรษฐกิจทะลุ 6 แสนล้านบาท ในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้ก็ตาม

แต่ตัวเลขความเสียหายที่บรรดาภาคเอกชน บรรดากูรูทางเศรษศาสตร์ หยิบยกกันออกมาให้เห็นนั้น อาจไม่เท่ากับความเสียหายทางใจของคนไทยทั้งประเทศก็เป็นไปได้

ดังนั้น!! สิ่งที่ดีที่สุด คือ…รัฐบาลต้องหาทางอุด หาทางรักษาแผลในใจของคนไทย ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ การต้องใช้เวลารออีก 2 สัปดาห์ ในการออกมาตรการช่วยเหลือ หากเทียบกับความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน อาจชดเชยกันไม่ได้ด้วยซ้ำไป!!

……………………………….

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img