Electric Vehicle BEVs & FCEVs’ Revolution
“…..หลังปี 2564 เป็นต้นไป คาดว่า 20 % ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดที่จำหน่ายทั่วโลกจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EVs ตามการคาดการณ์ล่าสุดโดยธนาคารเพื่อการลงทุน UBS และจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 40 % ภายในปี 2573 ..”
ทั้งนี้ ภายในปี 2583 ได้รับการคาดหมายว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ทั่วโลก 100 % คือ ‘รถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs’ ทั้งหมดในฐานะทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล .. ในไม่ช้า ยานยนต์ไฟฟ้า EVs ทั้งที่ขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานที่เป็นชุดแบตเตอรี่ Battery Pack หรือเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell ก็ตาม จะกลายเป็นสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมทั่วไป ..
การปรากฏตัวของยานพาหนะมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยชุดแบตเตอรี่ เช่น Battery Electric Vehicles: BEVs หรือรถไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs ในตลาดยานยนต์ด้วยโค้งอัตราเติบโตที่ชันตั้งสูงลิ่ว ส่งผลกระทบต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมีนัยยะสำคัญ .. นี่ยังมิได้รวมแนวโน้มการใช้ไฮโดรเจน หรือ Synthetic Fuel & Gas ไปจุดระเบิดแทนที่น้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันก๊าด ในเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในด้วยซ้ำไป ..
ปัจจุบัน โดยเฉพาะ ผลจากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 26th United Nations Climate Change: COP26 Conference ล่าสุดที่ Glasgow เมื่อ 31 ตุลาคม ถึง 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ได้ทำให้พวกมัน หมายถึง BEVs และ FCEVs ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่กำลังปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ และระบบคมนาคมขนส่งในอนาคตอันใกล้นี้ไปตลอดกาล .. คาดหมายได้ว่า ยุคของยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลประเภท Kerosene อาจกำลังใกล้สิ้นสุดลงในอีกไม่นาน ..
ทั้งนี้ เมื่อเรากล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs นั้น มักจะหมายถึงยานยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยชุดแบตเตอรี่ กับมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น .. อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs ก็ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทหนึ่งด้วยเช่นกัน และการปรากฏตัวของพวกมันในตลาด มิได้เพียงกระทบต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในระบบคมนาคมขนส่งเท่านั้น แต่ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงต่ออุตสาหกรรมน้ำมันในวงกว้าง รวมทั้งการบริโภคสำหรับอุตสาหกรรมปลายทางอีกมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยคุณภาพชีวิตในระบบเศรษฐกิจ และสังคมที่ดีกว่า ..
BEVs & FCEVs’ Revolution การปฏิวัติของ BEV และ FCEV ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ..
ข้อตกลงระดับโลกฉบับใหม่ด้านสภาพอากาศของกลาสโกว์ Glasgow Climate Pact ถือว่า ได้บรรลุข้อตกลงในการประชุมสุดยอดรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 26th United Nations Climate Change: COP26 Conference เมื่อ 31 ตุลาคม ถึง 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา .. ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ภาคการขนส่งรับผิดชอบประมาณหนึ่งในสี่ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดทั่วโลก .. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคส่วนนี้ถูกกำหนดเป้าหมายให้ลดลงได้อีกอย่างน้อยสองเท่าภายในปี 2050 หรือ พ.ศ.2593 ..
การปรับเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรการจูงใจให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสังคมไปสู่ระบบคมนาคมขนส่งปลอดมลพิษ ซึ่งรวมถึงการเดินทาง และการขนส่งด้วยรถยนต์ รถแท็กซี่ รถโดยสาร รถบรรทุก และรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานสะอาด .. การลงทุน และขจัดสิ่งกีดขวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับกิจกรรมที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ เช่น การจัดเลนจักรยานที่ปลอดภัย หรือทางเดินสำหรับคนเดินเท้า ..
การส่งเสริมผลประโยชน์ด้านสาธารณสุขที่สำคัญจากนโยบายคาร์บอนต่ำ .. เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า การขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาด จะต้องเพิ่มขึ้นด้วยความเร่ง รวมถึงการยกเลิกการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจากแหล่งน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และ Shale Gas & Shale Oil คือ ข้อไขหลักที่จะทำให้การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด เป็นไปตามเป้าหมาย และแผนงานได้ ..
ทั้งนี้ นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs มาตรฐานทั่วไป เช่น Battery Electric Vehicles: BEVs ที่ขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานจากชุดแบตเตอรี่แล้ว การประยุกต์ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen กับเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell บนยานยนต์ไฟฟ้า เช่น Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs จากนี้ไปนั้น เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งของผู้คนในอันที่จะทำให้ภาคการขนส่ง Transport Sector สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สำเร็จเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 4 – 5 เท่า หรือมากกว่านั้น ภายในปี 2050 หรือ พ.ศ.2593 และสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงให้มาก ได้แก่ ประเด็นเรื่องของราคา ..
ยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs กระแสหลัก ซึ่งหมายถึง Battery Electric Vehicles: BEVs, Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs และรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นต่าง ๆ กำลังเดินหน้าเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ และช่วยลดคาร์บอนในสถานการณ์กอบกู้วิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis บนโลกใบนี้ ..
ตัวแสดงในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่างเร่งความเร็วของนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ ในขณะที่พวกเขาพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆ ของการขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า การขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการประยุกต์ใช้งานร่วมกับเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในแบบผสมผสาน Hybrid .. อุตสาหกรรมยานยนต์ ดึงดูดการลงทุนมากกว่า 400 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าประมาณ 100 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มาตั้งแต่ต้นปี 2563 เงินทั้งหมดนี้ พุ่งเป้าหมายไปที่บริษัทฯ และสตาร์ทอัพที่ทำงานเกี่ยวกับยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า Electrifying Mobility, การเชื่อมต่อยานพาหนะ Connecting Vehicles และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ Autonomous Driving Technology .. นวัตกรรมเทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วยลดต้นทุนยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs และทำให้การขับเคลื่อนแบบใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกันกับระบบอำนวยความสะดวกรูปแบบต่าง ๆ กลายเป็นทางเลือกที่แท้จริงสำหรับการเป็นเจ้าของรถยนต์ในอนาคต ..
การใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนยานยนต์ กำลังจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการขนส่งในภาพรวมทั้งหมดทั่วโลก และนำเสนอโอกาสสำคัญสำหรับยานยนต์ทุกกลุ่ม แม้ว่า ขนาด ความเร็ว และขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงจะแตกต่างกันไป เพื่อให้เกิดการยอมรับอย่างรวดเร็ว และแพร่หลายในการขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยกำลังไฟฟ้า .. การเปิดตัว Electric Vehicles: EVs รุ่นใหม่ ๆ ในตลาด คือ ก้าวสำคัญยิ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลง ..
นอกจากนี้ ระบบนิเวศของการเคลื่อนไหวทั้งหมด จะต้องเดินหน้าทำงานพร้อมกันไปในทุกระดับเพื่อให้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ และโอกาสทางธุรกิจ ตั้งแต่ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ EVs ไปจนถึงผู้ให้เงินทุน ตัวแทนจำหน่าย ผู้ให้บริการด้านพลังงาน ผู้ดำเนินการสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า และผู้บริโภค .. ทั้งหมดนี้หมายถึง ยุคที่รุ่งเรืองของยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันก๊าด กำลังจะกลายเป็นอดีต และการปฏิวัติของ BEV และ FCEV ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เริ่มขึ้นแล้ว ..
รถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs และการแยกประเภทของพวกมัน ..
ปฏิเสธไม่ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ Internal Combustion Engine: ICE ที่เราคุ้นเคยกันมานานกว่าร้อยปี กำลังจะกลายเป็นส่วนเกินของการใช้งาน และถูกลดบทบาทลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลในเรื่องการพึ่งพาเชื้อเพลิงที่มาจากฟอสซิลที่นับวันจะถดถอยลงเรื่อย ๆ รวมถึงการสร้างมลพิษในอากาศ ที่หลายประเทศเริ่มออกกฎข้อบังคับที่มีความเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิมมาควบคุม ..
เป็นที่แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงคงไม่ได้เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน แต่เราเห็นสัญญาณของจุดเริ่มต้นในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2540 เมื่อ Toyota เริ่มผลิตรถยนต์ไฮบริดเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์รุ่นแรกของโลกอย่าง Prius ออกมา จนกระทั่งการมาถึงของรถยนต์ประเภท FCEV หรือ Fuel Cell Electric Vehicle ที่ใช้ไฮโดรเจนในการสร้างกระแสไฟฟ้าเมื่อปี 2545 ขณะนั้นไม่มีใครคิดว่า รถยนต์พวกนี้จะเข้ามาทดแทนระบบเดิม ๆ ที่สังคมคุ้นเคย และอยู่คู่กับการเดินทางของมนุษย์ชาติมามากกว่า 100 ปี ..
แต่สุดท้าย ยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs เหล่านี้ ก็รุกคืบเข้ามา และเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน มาสู่รถยนต์ที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิง และไม่ปล่อยมลพิษออกสู่อากาศในระหว่างการใช้งานเลยอีกต่อไป .. ในปี 2553 หลายค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในยุโรปประกาศย้ำชัดว่า จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าที่เราเรียกกันว่า EV – Electric Vehicle ได้เริ่มขึ้นแล้ว มีการออกนโยบายหลายประการรวมถึงการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป จะมีการเพิ่มปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าประเภทที่กล่าวนี้บนท้องถนนด้วยตัวเลขในระดับ 7 หลัก ..
เมื่อแนวโน้มเป็นเช่นนี้ เราหลีกเลี่ยงกันไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะใช้งานพวกมัน อย่างไรก็ตาม รถยนต์ที่เราคุ้นเคยก็ยังมีขาย รถยนต์รูปแบบไฮบริดทั้งในรูปแบบ HEV หรือ PHEV ก็ยังมีจำหน่าย แต่จนถึงวันนี้ โลกการเดินทางได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ .. ปัจจุบัน ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท Electric Vehicles: EVs กลายเป็นทางเลือกของรถยนต์บนโชว์รูมเพิ่มมากขึ้น นั่นคือ สัญญาณที่ชัดเจนของความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เฉพาะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้น แต่รวมถึงทุกภาคอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกัน และความนิยมของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ..
ทั้งนี้ ยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs มีหลากหลายประเภท แต่ประเภทที่แสดงบทบาทหลักในการเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ไปตลอดกาลนั้น มักหมายถึง การปฏิวัติของ Battery Electric Vehicles: BEV และ Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ..
ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV Battery Electric Vehicle หรือบางคนก็เรียก PEV หรือ Pure Electric Vehicle หมายถึง รถยนต์ที่พึ่งพากำลังไฟฟ้าจากชุดแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มาแรง และถูกคาดหมายว่า จะเป็นอนาคตของการเดินทางของมวลมนุษยชาติในอนาคต ..
BEV มีชุดแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นชิ้นส่วนหลักในการขับเคลื่อน .. แบตเตอรี่รับกำลังไฟฟ้าที่ถูกชาร์จเข้ามาเก็บไว้ในตัวรถผ่านทางแท่นชาร์จสาธารณะ หรือ Wall Charger ที่บ้าน แล้วส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าให้มอเตอร์ไฟฟ้าใช้ในการหมุนเพลาเพื่อขับเคลื่อนตัวรถ .. ดังนั้น ระยะทางที่จะสามารถเดินทางไปได้ไกลเท่าไรจึงขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ ความสามารถของระบบการจัดการของตัวรถ และกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า โดยนับจากวันที่ Nissan ปลุกกระแสตลาด BEV กลับมาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Nissan LEAF ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อขายในเชิงพาณิชย์ ตลาดรถยนต์ประเภทนี้ก็เบ่งบานเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และปัจจุบันพบว่า ค่ายรถยักษ์ใหญ่เกือบทุกแบรนด์ต่างวางแผนงาน และกำหนดเป็นนโยบายในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อป้อนตลาดที่เติบโตด้วยความเร่งอย่างต่อเนื่อง ..
สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าประเภท FCEV หรือ Fuel Cell Electric Vehicle และเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell Technology มีจุดเริ่มต้นจากโครงการอวกาศ และได้ถูกนำมาประยุกต์เพื่อใช้งานในรถยนต์ส่วนตัวด้วยเป้าหมาย คือ การลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล และการลดมลพิษในอากาศ .. เทคโนโลยีสุดยอดนี้ ถูกนำไปใช้งานกับรถยนต์มานานแล้ว แต่ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน และใช้กับรถยนต์นั่ง คือ Toyota, Honda และ Hyundai ที่พร้อมใจกันเปิดตัวในสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่จากนี้ไป ด้วยระดับราคาที่ลดลง รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับพลังงานไฮโดรเจนที่เพิ่มขึ้นมาก กับบทบาทของ Green Hydrogen ในภาคพลังงานเพื่อกอบกู้วิกฤติสภาพอากาศ ได้ทำให้แนวโน้มตลาดยานยนต์ไฟฟ้าประเภท FCEV หรือ Fuel Cell Electric Vehicle ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ..
โครงสร้างของรถยนต์ประเภทนี้ จะมีแผงเซลล์เชื้อเพลิง หรือ Fuel Cell Stack ถังแรงดันสูงเพื่อใช้จัดเก็บไฮโดรเจนเหลว มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนและชาร์จกระแสไฟฟ้า และชุดแบตเตอรี่ ซึ่งหลักการทำงาน คือ ส่งผ่านก๊าซไฮโดรเจน และอากาศที่มีออกซิเจน เข้าไปสู่ชุดแผงเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell Stack เพื่อผลิตกำลังไฟฟ้าเข้ามาเก็บไว้ในชุดแบตเตอรี่ จากนั้นกระแสไฟฟ้าก็จะถูกส่งไปที่มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนตัวรถต่อไป .. พวกมันยอดเยี่ยมมากด้วยกำลังขับที่สูงกว่า และระยะทางที่ไกลลิบลิ่ว ..
ในปี 2562 โดย IEA ชี้ว่า มีรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 7.2 ล้านคันบนท้องถนนทั่วโลก .. เศรษฐกิจโลกเดือนมกราคม 2564 รายงานว่า ทั่วโลกมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ มากถึง 2.3 ล้านคันในปี 2563 เพียงปีเดียว .. ทั้งนี้ จำนวนรถยนต์ไฮโดรเจนบนท้องถนนนั้น ยังน้อยกว่า BEV มากอย่างมีนัยสำคัญ คือ เพียง 25,210 คัน เท่านั้น ในปี 2562 .. ตามข้อมูลของ IEA Report เมื่อปีที่กล่าว ชี้ว่า นั่นเป็นเพราะปัจจัยเรื่องราคา และความไม่พร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง ..
ข้อได้เปรียบประการสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ Battery Electric Vehicles: BEV ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายระบบสายส่งไฟฟ้าที่มีอยู่ก่อนแล้ว การตั้งสถานีชาร์จประจุสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับกริดจึงทำได้ง่ายกว่ามาก เมื่อเทียบกับการจัดวางสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในเส้นทางตามแนวถนน หรือที่จอดรถ ซึ่งมันยุ่งยากซับซ้อนกว่ามาก .. BEV สามารถชาร์จได้จากที่บ้าน ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีก ที่จอดรถ รวมทั้ง ปัจจุบัน ค่าไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ นอกจากจะถูกกว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลหลายเท่าแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าราคาของไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงถึงประมาณ 8 เท่า ด้วยระยะทางที่เท่ากันอีกด้วย ..
อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ไฮโดรเจน มีพลังงานจำเพาะ หรือที่เรียกว่าพลังงานต่อหน่วยมวล สูงอย่างยิ่ง และสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธี่ยม Lithium Ion Battery ถึง 236 เท่า ซึ่งปัจจุบัน Hydrogen ถือเป็นเชื้อเพลิงที่มีศักยภาพในอุดมคติสำหรับการขับเคลื่อนยานพาหนะสำหรับงานหนัก เช่น อากาศยาน เรือ รถโดยสาร รถบรรทุก และระบบขนส่งลักษณะคล้าย ๆ กัน .. ปัจจุบัน สำหรับรถยนต์ไฮโดรเจนแล้ว มันมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่าที่จะเข้าถึงความต้องการของผู้คน ซึ่งจะทำให้เกิดข้อเสนอที่สูงขึ้น ในความพยายามที่จะลดต้นทุนราคาของมันลงมาทั่วทั้งระบบให้สำเร็จ ..
รถยนต์ไฮโดรเจนเซลล์เชื้อเพลิง Fuel Cell Electric Vehicles : FCEVs เป็นที่รู้จักกันดีในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ .. อย่างไรก็ตาม ในประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ในยุโรปนั้น สถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ยังคงหายาก .. แต่สถานการณ์ดังกล่าว อาจกำลังเปลี่ยนไป .. ในช่วงต้นปี 2564 ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ มีรถยนต์ไฮโดรเจนเซลล์เชื้อเพลิงรุ่นใหม่ล่าสุดที่สมรรถนะสูงกว่ารุ่นเดิมมาก อย่างน้อยประมาณ 3 รุ่น ออกสู่ตลาด หนึ่งในนั้นมาจากโตโยต้า Toyota และอีก 2 รุ่นมาจากฮุนได Hyundai ..
ทั้งนี้ แม้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ได้เติบโตขึ้นมาครองตลาดโลกได้อย่างต่อเนื่องเหนียวแน่นยาวนานกว่า 160 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมน้ำมันที่ทรงอิทธิพลบนโลกใบนี้มาแต่ในอดีต .. อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป คาดหมายได้ว่า ยุคของยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลประเภท Kerosene นี้ อาจกำลังใกล้สิ้นสุดลงในที่สุดอีกไม่นานด้วยการปฏิวัติของ Battery Electric Vehicles: BEV และ Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ..
คาดการณ์ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก Global Electric Vehicles: EVs Market ..
ขนาดธุรกิจตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก EVs Market Size อ้างอิงรายงานการวิจัยของ Fortune Business Insights™ มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 246.70 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563 .. คาดหมายว่า ตลาดจะเติบโตจาก 287.36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2564 ไปแตะระดับ 1,318.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2571 .. ทั้งนี้ อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี Compound Annual Growth Rate: CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับการลงทุนในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่อัตราค่า CAGR 24.3 % ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2564 – 2571 .. การเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันของค่า CAGR เป็นผลมาจากการเติบโต และความต้องการของตลาดยานยนต์ทั่วโลก ..
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้รับการคาดหมายว่า จะมีการเติบโตอย่างมากในตลาดนี้ เนื่องจากความต้องการรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา .. ประเทศจีน มีส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของรถยนต์นั่งและรถยนต์อื่น ๆ .. นอกจากนี้ อเมริกาเหนือ คาดว่าจะเติบโตสูงสุดในตลาด การเติบโตในภูมิภาคนี้เป็นผลมาจากการริเริ่มของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ US DOE ในมาตรการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า เช่น Public Charging Stations รวมทั้งสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนทั่วสหรัฐฯ เพื่อรองรับจำนวน Electric Vehicles: EVs ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค ..
บริษัทผู้ผลิตที่เป็นตัวแสดงหลัก และผู้เล่นในตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ BMW Group (Munich, Germany), BYD Company Ltd. (Shenzhen, China), Daimler AG (Stuttgart, Germany), Ford Motor Company (Michigan, U.S.), General Motors Company (Michigan, U.S.), Nissan Motor Corporation (Kanagawa, Japan), Tesla, Inc. (California, U.S.), Toyota Motor Corporation (Toyota City, Japan), Volkswagen AG (Wolfsburg, Germany) และ Groupe Renault (Boulogne – Billancourt, France) ..
ทั้งนี้ หากเจาะลึกลงไปในตลาดรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen Fuel Cell Vehicle Market ประเภทเดียวพบว่า ขนาดธุรกิจตลาดรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน มีมูลค่า 651.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2561 และคาดหมายว่า จะพุ่งสูงแตะระดับ 42,038.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2569 ที่ค่า CAGR 66.9 % ในช่วงคาดการณ์ ปี 2562 – 2569 .. ปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงผลักให้เกิดการเติบโตของตลาดโลก ได้แก่ ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงเป็นวิกฤติสภาพอากาศ การริเริ่มของภาครัฐในหลายประเทศที่เพิ่มขึ้นสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen Fuel Cell การลงทุนเบื้องต้นด้วยมูลค่าสูงในโครงสร้างพื้นฐาน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงศักยภาพของ Green Hydrogen ในอนาคต แต่ละปัจจัยเหล่านี้คาดว่า จะส่งผลกระทบทางบวกอย่างชัดเจนต่อตลาดรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Hydrogen Fuel Cell Vehicle Market ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ ..
สรุปส่งท้าย ..
รถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs กำลังเข้ายึดครองถนนอย่างแน่นอนเปลี่ยนแปลงไม่ได้ .. คาดหมายได้ว่า รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน และดีเซล Petrol & Diesel Cars จะกลายเป็นอดีตในไม่ช้า .. สหภาพยุโรป European Union ได้สั่งห้ามการซื้อขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไปเพื่อเร่งการเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานที่สะอาดขึ้น และลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ..
สำหรับตลาด และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Electric Vehicles: EVs ในประเทศไทยนั้น .. จนถึงปี 2573 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มุ่งดำเนินแผนงานตามอุตสาหกรรมเป้าหมาย S – Curve ที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EVs ให้ได้ 30 % ของยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศ โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ปี 2563-2565 สำหรับรถราชการ รถสาธารณะ รวมทั้งจักรยานยนต์ไฟฟ้า 60,000-110,000 คัน .. ระยะกลาง ปี 2564-2568 จะผลักดัน Eco EV จำนวน 100,000-250,000 คัน และ City Bus อีก 300,000 คัน และระยะยาว ปี 2569-2573 กำหนดเป้าหมายดำเนินการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้อย่างน้อย 750,000 คัน เพื่อใช้งานในประเทศ และการส่งออก ซึ่งสัดส่วน ขนาด และจำนวน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ของตลาดโดยคาดว่าจะไม่น้อยกว่าที่วางแผนไว้ ..
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มั่นใจว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศไทยจะเติบโตแบบทวีคูณด้วยความเร่งในช่วงปี 2564-2566 จากแรงหนุนสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ประการแรก ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ลดลงต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความสามารถการผลิต Lithium Ion Battery ในประเทศ รวมทั้งแผนงานการรีไซเคิลแบตเตอรี่ลิเธี่ยมใช้แล้ว หรือแบตเตอรี่สิ้นสภาพหมดอายุใช้งาน ให้นำกลับมาเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยมใหม่ในประเทศให้ได้อีกด้วย ..
ประการที่สอง จุดสถานี หรือสถานที่ชาร์จประจุให้รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มขึ้น เพราะมันคือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นไปอีกอย่างน้อย 10 ปี จนกว่าระบบจัดเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ปัจจุบันที่ถูกแทนที่ด้วยระบบใหม่ ๆ ที่รวดเร็วกว่า ซึ่งอย่างไรก็ตาม ชุดแบตเตอรี่จะยังคงมีราคาถูกกว่า และใช้งานได้ดีเยี่ยมไปอีกนาน และประการที่สาม การสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากนโยบายภาครัฐ ..
ราคารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปัจจุบัน ค่อนข้างสูง แต่มันกำลังจะมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่องตามยอดขายที่กำลังเพิ่มขึ้น ความสามารถในการผลิต Lithium EV Battery และการรีไซเคิลพวกมันเพื่อนำโลหะมีค่ากลับมาใช้ใหม่ด้วยโรงงานบริษัทคนไทยในประเทศ คือ ปัจจัยสำคัญในการควบคุมราคาเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด .. ปัจจุบัน มีบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยหลายบริษัทฯ ที่มีศักยภาพ เช่น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ Energy Absolute: EA ได้รุกเข้ามาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV และถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจเกาะกระแสตลาดโลกที่มั่นคง และน่าสนใจอย่างยิ่ง อาทิ ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ‘อุปกรณ์ และสถานีชาร์จไฟให้ยานยนต์ไฟฟ้า’ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า รถมินิบัสไฟฟ้า รถตู้ไฟฟ้า รถแท็กซี่ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รวมทั้งโรงงานรีไซเคิล และผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน Lithium Ion Battery ในประเทศ ไปจนถึงโครงการร่วมลงทุนทำเหมืองแร่ลิเธี่ยมในต่างประเทศ ..
หลังจาก Electric Vehicles: EVs เข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าก็พุ่งสูงขึ้น .. มีรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 17,000 คันบนท้องถนนทั่วโลกในปี 2553 แต่เพียงไม่กี่ปีผ่านไป จำนวน EVs ถูกซื้อไปใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 7.2 ล้านคันในปี 2562 โดย 47 % อยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และอีก 9 ประเทศมีรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 100,000 คันบนท้องถนน รวมทั้งอย่างน้อย 20 ประเทศมีส่วนแบ่งการตลาดสูงกว่า 1 % .. จนถึงต้นปี 2564 ทั่วโลกมีรถยนต์ไฟฟ้า EV ขับเคลื่อนอยู่บนถนนเกือบ 10 ล้านคัน ..
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีรถยนต์ไฟฟ้า EV : Electric Vehicle เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นมากถึง 1.2 ล้านคัน ภายในไม่เกิน 10 ปี ..
ปัจจุบัน ประเทศไทยถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก การปรับเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หมายถึง การปรับตัวของเอกชนในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ เพื่อผลิต และจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า EVs แทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน ดีเซล และ Kerosene จากนี้ไป กลายเป็นความจำเป็นที่จะต้องได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้อันดับผู้ผลิต และส่งออกรถยนต์ของไทยสูงขึ้นมาอยู่ในระดับ Top Ten ของโลกด้วยคุณภาพ และความมั่นคงได้ในที่สุด ..
หลังการประชุม COP26 .. ข้อตกลงระดับโลกฉบับใหม่ด้านสภาพอากาศของกลาสโกว์ Glasgow Climate Pact ชี้ให้เห็นทิศทางภาคพลังงาน และภาคการขนส่งที่ชัดเจนไม่มีข้อสงสัย ข้อไขต่าง ๆ เพื่อกอบกู้วิกฤติสภาพอากาศ Climate Crisis ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Electric Vehicle Revolution หมายถึง ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท Battery Electric Vehicles: BEVs และ Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs กลายเป็นประเด็นสำคัญที่กำลังปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ และระบบคมนาคมขนส่ง ในอนาคตอันใกล้นี้ไปตลอดกาล .. จากนี้ไป คาดหมายได้ว่า ยุคของยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิลประเภท Kerosene อาจกำลังใกล้สิ้นสุดลงในอีกไม่นาน ..
………………………………………
คอลัมน์ : Energy Key
By โลกสีฟ้า ..
สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-
The Future of Electric Vehicles and Material Resources: A Foresight Brief | UNEP :-
HEV, FCEV, PEV และ BEV ประเภทของยานยนต์ไฟฟ้าที่ควรรู้ไว้ก่อนจับจองเป็นเจ้าของ :-
https://www.gqthailand.com/toys/article/type-of-electric-vehicles
What is a Fuel Cell Electric Vehicle? :-
https://www.swanswaygarages.com/electric-hybrid/what-is-an-ev/fcev/
Global Electric Vehicle Catalyst Index 2021 :-
The Electric Vehicle Invasion Is Already Here :-
Fuel Cells: The Need for Long Range Zero Emission Vehicles :-
Every Electric Vehicle That’s Expected in the Next Five Years
Every Electric Vehicle That’s Expected in the Next Five Years
Every Electric Vehicle That’s Expected in the Next Five Years :-
https://www.caranddriver.com/news/g29994375/future-electric-cars-trucks/
Global EV sales rise 80% in 2021 as automakers including Ford, GM commit to zero emissions: BNEF :-
Global EV Sales for 2021 H1 :-
Global Electric Vehicle Market Size 2021 – 2028 :-
Electric Vehicles Market to USD 1,318.22 Billion in 2028 at a CAGR of 24.3% in the 2021-2028 period :-
https://finance.yahoo.com/news/electric-vehicles-market-usd-1-085300756.html
Hydrogen Fuel Cell Vehicle Market Statistics – 2026 :-
https://www.alliedmarketresearch.com/hydrogen-fuel-cell-vehicle-market
Fuel Cells Market by Type :-
https://www.marketsandmarkets.com/Market-Reports/fuel-cell-market-348.html
Automotive Fuel Cell market is projected to grow from USD 1.73 billion in 2021 to USD 34.63 billion in 2028 at a stellar CAGR of 53.5% in the 2021 – 2028 period :- https://www.fortunebusinessinsights.com/industry-reports/automotive-fuel-cell-market-101809
Battery Recycling Explained | Solving EV’s Biggest Problem :-
https://photos.app.goo.gl/DxCoUQcupA3dWpVT7
Battery Electric Vs Hydrogen Fuel Cells :-
https://photos.app.goo.gl/F3bkSUobvbppiULX9
Electric Vehicles & The Public EV Charging Systems :-
