วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“มั่นคง”มองระเบิดใต้เป็นการแก้แค้น ไม่เกี่ยวประชุมเอเปก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“มั่นคง”มองระเบิดใต้เป็นการแก้แค้น ไม่เกี่ยวประชุมเอเปก

การประชุมเอเปกปิดฉากด้วยความสวยงาม “ลุงตู่” เดินหน้าทำหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลต่อไป ขณะที่สถานการณ์ใต้ยังป่วนไม่เลิก ด้านความมั่นคง ยันเป็นการแก้แค้นไม่เกี่ยวกับการประชุมเอเปก  

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 26 พ.ย.2565 ปิดฉากลงด้วยความสวยงามสำหรับการประชุมผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ APEC 2022 ก็กลับมาลุ้นกันเรื่องของการเมืองกันต่อว่าจะเดินไปในทิศทางใด

นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมเอเปก 2021

@@@……การจัดการประชุมผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปก APEC 2022 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงของไทยนั้น ฝ่ายความมั่นคง มองว่า รัฐบาล และประชาชนชาวไทยทุกคน ทำได้อย่างยอดเยี่ยมสวยงาม .. ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมในการกำหนดกรอบนโยบาย และทิศทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจในประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในหลายมิติ เช่น เรื่อง BCG  Economy Model ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ของไทย ซึ่งปรากฏอยู่ในเอกสาร Bangkok Goals ให้ผู้นำชาติสมาชิกเอเปกร่วมลงนาม ครอบคลุม BCG เน้น 3 ประเด็น การฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังโควิด การรับมือความเปลี่ยนแปลงเรื่องยูเครน-รัสเซีย ราคาพลังงาน และ เศรษฐกิจโลกถดถอยพร้อมเสนอ FTAAP ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด ถือเป็นความสำเร็จสุดยอดที่หมายถึง ความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของโลก และความมั่นคงของประเทศไทยไปพร้อมด้วย 

@@@……ในแง่มุมด้านพลังงานในอนาคตอันใกล้นี้ อาจกล่าวได้ว่า การประชุม APEC 2022 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ โดดเด่นกว่าการประชุม G20 และ COP27 อยู่ในหลายประเด็นที่เป็นข้อตกลงหลักของประชาคมโลกอย่างชัดเจน .. การเปลี่ยนผ่านระบบพลังงาน Energy Transition จากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก ไปเป็นการใช้แหล่งเชื้อเพลิงพลังงานสีเขียว Green Energy เป็นหลักในระบบเศรษฐกิจ และสังคมนั้น จำเป็นต้องเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น จะปล่อยให้เกิดความชะงักงันขึ้นนั้นไม่ได้ .. เชื้อเพลิงจากแหล่งพลังงานทางเลือก Alternative Energy Sources ในระดับราคาที่ไม่แพงเกินไป สามารถทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels ได้อย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่สำคัญ ๆ ที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง และภาคพลังงานในแต่ละประเทศดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปลี่ยนระบบพลังงานรูปแบบรวมศูนย์ Centralize เดิมไปสู่รูปแบบกระจาย Decentralize ตั้งแต่บริการสาธารณะในระบบสาธารณูปโภค การขนส่งสาธารณะ และส่วนบุคคล ไปจนถึงความสะดวกสบายในสังคม ชุมชน และในครัวเรือน 

@@@……ทั้งนี้ ด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสม พลังงานสีเขียว Green Energy คือ แหล่งพลังงานเพียงแหล่งเดียวที่เปิดโอกาสให้ทุกประเทศในโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ได้รับอิสระภาพทางพลังงาน และไม่ตกเป็นทาสการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels ที่เป็นน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินลึกลงไปใต้เปลือกโลก หรือ Shale Gas & Shale Oil จากต่างประเทศที่ผูกขาดโดยเพียงบางชาติยักษ์ใหญ่เท่านั้นอีกต่อไป ซึ่งส่งผลให้ระบบพลังงานของแต่ละประเทศทั่วโลกจากนี้ไป จะได้ถูกปลดล็อคให้เป็นอิสระอย่างแท้จริง หมายถึง ความมั่นคงทางพลังงาน Energy Security ทั้งของไทย และภูมิภาคเอเซียแปซิกฟิก จะได้รับการประกันเพื่อไปสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืนได้สำเร็จในที่สุด .. การที่ผู้คน และชุมชนเป็นศูนย์กลางมากขึ้นแทนที่การผูกขาดของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ และการผูกขาดด้านพลังงานของเพียงบางประเทศ ซึ่งการปลดล็อคเหล่านี้ คือเหตุผลที่ทำให้ฝ่ายความมั่นคง มั่นใจว่า BCG จะสามารถเปลี่ยนภูมิเศรษศาสตร์โลกไปตลอดกาลจากนี้ไป 

@@@……สำหรับเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นลูกที่ 2 ในปี 2565 โจมตีแฟลตตำรวจในนราธิวาส เชื่อว่า กลุ่มก่อความไม่สงบจงใจที่จะยกระดับความรุนแรง และสร้างความหวาดกลัว รวมทั้งเป็นการแก้แค้น หลังสมาชิกกลุ่มติดอาวุธฯ ในพื้นที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญก่อนการประชุม APEC ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูขวัญ และกำลังใจของกลุ่ม มิได้เกี่ยวข้องอะไรกับการประชุม APEC 2022 .. ทั้งนี้ คาดว่าอาจเป็นกลุ่มของนายซากีมัน กูบารู เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ตากใบ และสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ก่อเหตุยังมีความเป็นไปได้ทั้งฝ่ายขบวนการก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มภัยแทรกซ้อน เช่น กลุ่มค้ายา อาวุธ ของเถื่อน หรือทั้งสองกลุ่มร่วมมือ และเอื้อประโยชน์กัน ซึ่งฝ่ายความมั่นคง จะได้ติดตาม สอบสวน และจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ได้โดยเร็ว โดยช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชนคนในพื้นที่มากขึ้น 

@@@……พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4 ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ โดยที่ประชุมรับทราบสถานการณ์และการบังคับใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อมูลตัวชี้วัดในพื้นที่ที่ผ่านมา โดยได้ร่วมพิจารณาถึงเหตุการณ์และสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ และเห็นชอบ การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน จว.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง อ.ไม้แก่น อ.แม่ลาน จว.ปัตตานี และอ.เบตง อ.กาบัง จว.ยะลา ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ ตั้งแต่  20 ธ.ค.65  และสิ้นสุดลงในวันที่ 19 มี.ค.66 โดยครั้งนี้ ไม่มีการปรับลดพื้นที่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในป้องกัน ระงับ ยับยั้งสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

@@@……พล.อ.ประวิตร  ได้ย้ำ ขอให้ กอ.รมน. พิจารณาใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพ ระมัดระวังการเมิดสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และให้มีการทบทวนการปรับลดพื้นที่ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไปพร้อมกัน  พร้อมทั้งขอให้เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ จว.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะต้องมีการเฝ้าระวังและเปิดเผยบุคคลเป้าหมายให้สาธารณะชนทราบ รวมทั้งมีมาตรการระวังป้องกัน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้น และขอเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนและขอให้ไม่ประมาทในการปฏิบัติงาน 

@@@……ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมคณะ รมว.กลาโหมอาเซียน เข้าเยี่ยมคำนับและรับฟังปาฐกถาพิเศษ จากสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน นรม.กัมพูชา ณ รร. Sokha เสียมราฐ จากนั้น ได้เข้าร่วมประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน ( ADMM ) กับ รมว.กลาโหม ประเทศคู่เจรจา 8 ประเทศครั้งที่ 9 ( ADMM – Plus ) โดยทุกประเทศได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงของภูมิภาคและระหว่างประเทศร่วมกัน สรุปภาพรวม มีความกังวลร่วมกันต่อสถานการณ์ในเมียนมา ยูเครน และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีและทะเลจีนใต้ รวมทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเห็นถึงความจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ยึดความเป็นแกนกลางของอาเซียน เคารพอำนาจอธิปไตย กฎบัตรอาเซียนและกฎหมายระหว่างประเทศ และเห็นพ้องร่วมกันใช้กลไก ADMM และ ADMM-Plus แก้ปัญหาความขัดแย้งกันด้วยการเจรจา การยับยั้งชั่งใจ และการมีฉันทามติร่วมกัน ไม่ใช้กำลังต่อกัน เพื่อให้ภูมิภาคมีเสถียรภาพและสันติภาพร่วมกัน  หลังจากนั้น ได้พิจารณาให้การรับรองปฏิญญาร่วมของการประชุม 9th ADMM  – Plus และร่วมกระทำพิธีส่งมอบการเป็นประธาน ADMM จาก กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ให้กับ กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย ในปีต่อไป 

@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) มอบหมายให้ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันสัปดาห์กีฬานาวี ประจำปี 2565 ณ สนามกีฬาราชนาวี สัตหีบ กิโลเมตร 5 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พล.ร.ต.ธีรยุทธ  ดาวมุกดา รองผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ในฐานะหน่วยเจ้าภาพจัดการแข่งขัน พร้อมด้วย นายทหารชั้นผู้ใหญ่ กำลังพลพร้อมครอบครัวและประชาชนในพื้นที่สัตหีบ เข้าร่วมในพิธีเปิด

@@@……กองทัพเรือกำหนดจัดแข่งขันกีฬาภายในกองทัพเรือ ภายใต้ชื่อ “สัปดาห์กีฬานาวี” เป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กำลังพลของกองทัพเรือ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเล่นกีฬา ซึ่งนอกจากจะได้พัฒนาขีดความสามารถทางด้านการกีฬาและเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังความมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เสริมสร้างความสามัคคี และความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานในกองทัพเรือ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะสนับสนุนผู้ที่มีความสามารถในกีฬาแต่ละประเภทให้เป็นนักกีฬาระดับชาติ สร้างชื่อเสียงให้แก่กองทัพเรือและประเทศชาติอีกด้วย 

@@@……กองทัพอากาศ….พล.อ.อ. อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก หญิง พรรณประภา  วัณณรถ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีรับมอบเครื่องห่มกันหนาว และปล่อยขบวนรถช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว รวมทั้งรับมอบเงินจำนวน 2,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนโครงการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตจาก คุณ กฤษณ์  จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยมี นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ คณะสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และคณะผู้บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธี ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ

@@@……เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู้ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ทำให้พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลนเครื่องห่มกันหนาว รวมทั้งขาดอุปกรณ์จําเป็นต่อการดำรงชีพ จากสถานการณ์ดังกล่าว กองทัพอากาศ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้จัดกิจกรรมร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวขึ้น โดยจัดขบวนรถยนต์บรรทุก จำนวน 5 คัน นำผ้าห่มกันหนาว จำนวน 4,000 ผืน ไปมอบให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ผ่านไปยังกองบิน ณ ที่ตั้งต่างจังหวัด และสถานีรายงานกองทัพอากาศ เพื่อนําผ้าห่มกันหนาวไปมอบให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยหนาวในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพอากาศต่อไป

………………………………….

 คอลัมน์ :“Military Key”

 โดย.. “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img