วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“มั่นคง”ชี้กราดยิงและการควบคุมอาวุธ คือ ประเด็น“ความมั่นคงทางสังคม”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“มั่นคง”ชี้กราดยิงและการควบคุมอาวุธ คือ ประเด็น“ความมั่นคงทางสังคม”

ผบ.ทบ.ออกกฎเหล็กทหารช่วงเลือกตั้ง 5 ควร กับ 4 ห้ามในการปฏิบัติของกำลังพลในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ย้ำให้กำลังพลวางตัวเป็นกลาง และปฏิบัติตัวตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 25 มี.ค.2566 ประกาศยุบสภาพเป็นที่เรียบร้อย จากนี้ไปการเมืองไทยก็เข้าสู่โหมดของการหาเสียงเลือกตั้วอย่างเป็นทางการ

@@@…….ทันทีที่ประกาศยุบสภา….พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการในที่ประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) วาระพิเศษ ถึงระดับผู้บังคับกองพัน เรื่องการวางตัวและการปฎิบัติตัวของกำลังพลกองทัพบกในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น โดย ออกกฎเหล็กทหารช่วงเลือกตั้ง 5 ควร กับอีก 4 ห้าม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาส่งผลต่อภาพลักษณ์กองทัพบกต่อความเป็นกลางทางการเมือง พร้อมย้ำให้วางตัวเป็น กลาง และปฏิบัติตัวตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก

@@@…….สำหรับแนวทางปฏิบัติของกำลังพลกองทัพบกในการสนับสนุนการเลือกตั้ง สิ่งที่ควรปฏิบัติ 5 ประการคือ 1.กองทัพบกสนับสนุนให้กำลังพลเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง ให้กำลังพลไปทำหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้งทุกครั้งให้เป็นตัวอย่างของประชาชนทั่วไป 2.ให้คำแนะนำ ชักชวนบุคคลผู้มีสิทธิในครอบครัว ญาติ และมิตรสหาย ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยพร้อมเพรียงกัน 3.ให้ทุกหน่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้กำลังพลและครอบครัวรับฟังการหาเสียง โดยประกาศแจ้งเตือนให้ทราบถึงวัน เวลา และสถานที่ที่จะหาเสียง และจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมรักษาความสงบเรียบร้อยตามความเหมาะสม ส่วนกำลังพลที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตการเลือกตั้งที่กำลังพลปฏิบัติงานอยู่ให้กำลังพลผู้นั้นไปทำหน้าที่ใช้สิทธิลงคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งกลางได้ โดยต้องลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 4.สำหรับกรณีที่กำลังพลมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตการเลือกตั้งของหน่วยการเลือกตั้ง ให้ไปใช้สิทธิลงคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งนั้น โดยให้กำลังพลนำคำสั่งแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งไปแสดง ณ หน่วยเลือกตั้ง เพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้ง 5.กำลังพลทหารประจำการที่ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ นอกที่ตั้งปกติที่มีภูมิลำเนา ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งได้ ให้ผู้บังคับหน่วยแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมทั้งให้กำลังพลลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าด้วยตนเอง เพื่อให้กำลังพลไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 

@@@…….ส่วน 4 สิ่งที่ไม่ควรทำ คือ 1.ไม่ควรให้จัดการฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนาในช่วงระยะเวลา 10 วัน ก่อนเลือกตั้ง 2.ห้ามกำลังพลเป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และเป็นเจ้าหน้าที่นับคะแนนเด็ดขาด 3.ไม่ควรใช้ยานพาหนะ หรืออากาศยานของกองทัพบก ประชาสัมพันธ์ให้ผู้สมัครหรือกลุ่มที่หวังผลทางการเมืองโดยเด็ดขาด 4.ไม่ควรให้ใช้พื้นที่ของหน่วยเป็นสถานที่เลือกตั้งหรือเก็บหีบบัตรเลือกตั้ง 

ตำรวจเข้าดำเนินการกับคนคุ้มคลั่งกราดยิง

@@@…….ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์การกราดยิงในพื้นที่ชุมชน และการควบคุมอาวุธปืน กลายเป็นประเด็นปัญหาความมั่นคงทางสังคมที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งแก้ไข ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติดไปพร้อมด้วย .. ข้อมูลทางสถิติ พบว่า ไทยติดอันดับ 15 ประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากคดีอาวุธปืนมากที่สุดในโลก ปี 2565 อีกทั้งยังเป็น ประเทศที่มีผู้คนครอบครองปืนอยู่ในลำดับที่ 13 ของโลก และ เป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธปืนจำนวน 2,804 คน และการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเฉลี่ยแล้วประมาณ 3.91 คนต่อประชากร 1 แสนคน โดยมีการครอบครองปืนมากถึง 10.3 ล้านกระบอก มีทะเบียนเฉลี่ย 7 ล้านกระบอก และเป็นปืนที่ไม่มีทะเบียนประมาณ 6 ล้านกระบอก คิดเป็นสัดส่วน 15% อีกทั้ง ปืนที่พลเมืองไทยส่วนใหญ่ครอบครอง คือ ปืนเถื่อนผิดกฎหมายอีกด้วย 

@@@…….อย่างไรก็ตาม การเร่งแก้ไขปัญหาการครอบครองอาวุธปืน และยาเสพติด ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกฝ่ายเดินหน้าบังคับใช้กฏหมายอย่างต่อเนื่องจริงจัง หมายถึง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินการหาแนวทางการป้องกัน และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน และยาเสพติด ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอาวุธปืน โดยมีมาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน เพื่อให้เป็นไปตามตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง พ.ศ.2477 และฉบับที่กำลังแก้ไขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ประเด็นหลักเกณฑ์เพิ่มเติมสำหรับบุคคลที่ประสงค์จะมีและใช้อาวุธปืนนั้น จะต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามที่กฎหมายกำหนด แลเะพิ่มเติมเอกสารใบรับรองแพทย์ รวมถึงการออกใบอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืนนั้นให้ดำเนินการได้ใน 3 กรณี คือ สำหรับใช้ในการป้องกันตัวหรือทรัพย์สิน, สำหรับใช้ในการกีฬา และ สำหรับใช้ในการยิงสัตว์ เท่านั้น เป็นต้น 

@@@…….ทั้งนี้ การป้องกัน และปราบปรามในเชิงรุก ฝ่ายความมั่นคง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ การป้องกัน ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลประวัติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย เช่น วัยรุ่น กลุ่มเสี่ยง นักเลง อันธพาล บุคคลที่มีคดีความ ผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวาง บุคคลผู้ได้รับอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืนแต่มีความประพฤติไม่เรียบร้อย กลุ่มบุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ บุคคลพ้นโทษ กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมลักลอบผลิตจำหน่ายอาวุธปืนทางออนไลน์ และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมาตรการใช้กำลังปราบปราม ตรวจค้นแหล่งค้า/ผลิตอาวุธปืนผิดกฎหมายตามข้อมูลจากหน่วยข่าวกรอง การกำหนดจุดตรวจ จุดสกัด และสกัดกั้นการลักลอบขนส่งอาวุธปืนทั้งทางบกและทางน้ำ การตรวจสอบการขนส่งทางไปรษณีย์ที่น่าสงสัย การปราบปรามการค้าอาวุธปืนข้ามชาติ และติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดทางสื่อออนไลน์ ซึ่งผลการดำเนินการในปีที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-15 ธันวาคม 2565 เพียง 3 เดือนเศษ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิด รวม 29,464 คดี ผู้ต้องหา 27,637 ราย โดยข้อหาที่คนร้ายใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ จำแนกตามฐานความผิด ได้ดังนี้ (1) ฐานความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ รวม 46 กระบอก (2) ฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ รวม 7 กระบอก (3) ฐานความผิดพิเศษ รวม 10 กระบอก และ (4) คดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย รวม 5,246 กระบอก 

@@@…….อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์การกราดยิงในพื้นที่ชุมชน ยาเสพติด และการควบคุมอาวุธปืน ในปัจจุบันจะดูเสมือนจะยังไม่ลดลงเท่าที่ควร แต่หากฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง และมุ่งมั่นบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป ฝ่ายความมั่นคงก็เชื่อมั่นว่า ปัญหาความมั่นคงทางสังคม ปัญหายาเสพติด ปัญหาการใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธปืนในชุมชน และปัญหาการควบคุมอาวุธปืน เหล่านี้ น่าจะค่อย ๆ คลี่คลายลงได้ แต่หากมิได้เป็นเช่นนั้น อาจต้องใช้มาตรเด็ดขาดในการห้ามมิให้ประชาชนทั่วไป หน่วยงานเอกชน และผู้คนในประเทศทั้งหมด ถือครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง เป็นส่วนบุคคลอีกต่อไปในที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งให้มั่นใจว่า ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน จะได้รับการประกัน 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.)

@@@…….มาที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ครั้งที่ 1/2566 โดยที่ประชุมได้รับทราบ สถานการณ์ด้านการข่าวในพื้นที่ จชต.ซึ่งมีความคืบหน้าตามแนวทางสร้างสันติสุข โดย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ หน่วยงานด้านการข่าวให้ติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานด้านความมั่นคง เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา ด้วยความรอบคอบ และไม่ประมาท  และรับทราบความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนด้านต่างๆ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้มีนโยบายให้ คณะอนุฯทุกด้าน เร่งยกระดับการขับเคลื่อน โดยเฉพาะด้านการศึกษา เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด และจัดทำแนวทางการพัฒนาโรงเรียนนำร่อง ที่เป็นต้นแบบความเป็นเลิศทางวิชาการ ส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม และใช้ประโยชน์จากสภาสันติสุขตำบลในการขยายผลสร้างความเข้าใจร่วมกัน พร้อมทั้งได้กำชับให้คณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ช่วยประสาน เร่งรัดการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการนำเรือประมง ออกนอกระบบ ตามที่ ครม.ได้เห็นชอบไปแล้ว จำนวน 96 ลำ

พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ตรวจติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารไทย/โรม (ในส่วนของกองทัพเรือ) ณ สาธารณรัฐอิตาลี

@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วยคุณจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ตรวจติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารไทย/โรม (ในส่วนของกองทัพเรือ) ณ สาธารณรัฐอิตาลี โดยมี นาวาเอก เมธีชัย แก้วนิล ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทย ประจำกรุงโรม และ นาวาโท อัตนันท์ พรหมโยธิน รองผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทย ประจำกรุงโรม พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานฯ ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุปการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ด้านกำลังพล ด้านการข่าว ด้านการส่งกำลังบำรุง เป็นต้น โดยมีผลการปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการปฏิบัติที่สำคัญ คือ การจัดงานวันชาติ การจัดงานวันกองทัพไทย และการประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กับนายทหารสังเกตการณ์เครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1  (DO-228) หมายเลข 1114 ในการเดินทางกลับประเทศไทย เป็นต้น 

@@@…….ด้านความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรืออิตาลี  มีความสัมพันธ์ที่ดี มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งเมื่อปี งบประมาณ 2565 ผู้บัญชาการทหารเรืออิตาลี  ได้เรียนเชิญ พล.ร.อ. สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือในขณะนั้น  เยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพเรืออิตาลีและในปีงบประมาณ 2566 นี้กองทัพเรือ  ได้เตรียมการเรียนเชิญ ผู้บัญชาการทหารเรืออิตาลี  มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพเรือในห้วงเดือนมิ.ย. 2566  

พล.อ.อ.วรกฤต มุขศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ตรวจเยี่ยมและรับทราบผลการปฏิบัติภารกิจ ปัญหา สำหรับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้จัดตั้งส่วนสนับสนุนการปฏิบัติการบินควบคุมไฟป่า กองทัพอากาศ(ส่วนหน้า) ณ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่

@@@…….กองทัพอากาศ….พล.อ.อ.วรกฤต มุขศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานด้านบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ พร้อมด้วย ดร.ปิ่นสักก์  สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และคณะทำงานฯ เดินทางไปยังกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมและรับทราบผลการปฏิบัติภารกิจ ปัญหา สำหรับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้จัดตั้งส่วนสนับสนุนการปฏิบัติการบินควบคุมไฟป่า กองทัพอากาศ(ส่วนหน้า) ณ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2566 โดยมีกำลังพลจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสิ้น 46 คน อากาศยานจำนวน 4 แบบ ได้แก่ เครื่องบิน AU-23 ติดตั้งอุปกรณ์กระจายเสียง เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์ไฟป่า และรณรงค์ไม่ให้เผาป่าหรือพื้นที่เกษตร, เครื่องบิน BT-67 ติดตั้งอุปกรณ์โปรยสารควบคุมไฟป่า, เครื่องบิน DA-42 ติดตั้งระบบ Video Downlink (VDL) ใช้ในการถ่ายทอดภาพสถานการณ์แบบ Real Time เพื่อใช้ในการวางแผนดำเนินการอย่างทันท่วงที และเฮลิคอปเตอร์แบบ EC-725 ใช้ในการลำเลียงชุดดับไฟป่าไปพื้นที่ที่ยากแก่การเข้าถึง หรือลำเลียงผู้ป่วยจากพื้นที่ห่างไกล ทั้งนี้ส่วนสนับสนุนการปฏิบัติการบินควบคุมไฟป่า กองทัพอากาศ (ส่วนหน้า) พร้อมปฏิบัติภารกิจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ จนกว่าสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จะคลี่คลาย 

นาวาอากาศเอก อนุรักษ์  รมณารักษ์ ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายไทย ร่วมในกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ ณ โรงเรียนบ้านหนองเป็ดน้ำ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

@@@…….ที่นครราชสีมา……นาวาอากาศเอก อนุรักษ์  รมณารักษ์ ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายไทย Colonel Maxmillion Goh ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายสาธารณรัฐสิงคโปร์ และ Colonel Paul Davidson ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก เป็นประธานร่วมในกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ โดยมี นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสี มาร่วมงาน ณ โรงเรียนบ้านหนองเป็ดน้ำ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมการฝึกผสม Cope Tiger 2023 ทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ กองทัพอากาศไทย กองทัพอากาศสิงคโปร์ และกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ภาคแปซิฟิก ในการก่อสร้างอ่างแปรงฟันให้กับนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองเป็ดน้ำ และได้มอบอุปกรณ์การศึกษา อุปกรณ์กีฬา พร้อมสิ่งของที่จำเป็น อาทิ พัดลมอุตสาหกรรม รวมถึงจัดให้มีการบริการด้านการแพทย์ โดยคณะแพทย์จากทั้ง 3 ประเทศ ในการตรวจรักษาโรคทั่วไป การบริการตรวจทันตกรรม การบริการตรวจวัดสายตา อีกทั้งยังมีนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มาช่วยในการซักประวัติคนไข้ รวมถึงการแปลภาษาอีกด้วย 

………………………………….

 คอลัมน์ : “Military Key”

 โดย ..“รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img