วันพุธ, เมษายน 24, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“ฝ่ายความมั่นคง”สอนมวยนักการเมือง “ถ้าการเมืองไม่ล้ำเส้น-ปฏิวัติก็ไม่เกิด”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ฝ่ายความมั่นคง”สอนมวยนักการเมือง “ถ้าการเมืองไม่ล้ำเส้น-ปฏิวัติก็ไม่เกิด”

พรรคการเมืองเร่งหาเสียงก่อนจะถึงเวลาหย่อนบัตรเลือกตั้ง ด้านความมั่นคงสอนมวยนักการเมือง การปฏิวัติไม่เกิดง่าย ๆ ไม่ต้องห่วงถ้าการเมืองไม่ล้ำเส้น

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่  22 เม.ย.66 ช่วงนี้สภาพอากาศร้อนระอุ พรรคการเมืองต่าง ๆ ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง แต่ยังไม่ทันรู้ผลการเลือกตั้งก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างบอกว่าอาจจะมีปฏิวัติ…??  

@@@…….ตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน มีการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้ว 25 ครั้ง ขึ้นอยู่กับวืธีการนับด้วย ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งไม่สำเร็จ กลายเป็นกบฏ ..ทั้งนี้ การรัฐประหารส่วนหนึ่งแม้จะเกิดขึ้นจากความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน และการทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ประมาณมากกว่าครึ่งของครั้งที่ประสบความสำเร็จนั้น เกิดขึ้นจากการแทรกแซงการกิจการภายในกองทัพอย่างไร้ความรับผิดชอบจากฝ่ายการเมืองก่อน แต่สุดท้ายก็จบด้วยการถูกแทรกแซงกลับด้วยกำลังจากฝ่ายทหารนั่นเอง 

@@@…….ปัจจุบันฝ่ายการเมืองยังคงหวาดระแวงฝ่ายทหารเหมือนเช่นในอดีต เนื่องจาก ฝ่ายทหาร คือ ขั้วอํานาจที่ผูกขาด และถือครองอาวุธสงครามของชาติที่มีศักยภาพในการใช้ความรุนแรงได้ตลอดเวลา ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริง คือ ความมั่นคงของชาติด้านการป้องกันประเทศ ดังนั้น ความพยายามในการแทรกแซงกิจการภายในกองทัพจากฝ่ายการเมือง เพื่อให้มั่นใจว่า อํานาจทางการเมืองของฝ่ายการเมืองจะปลอดภัยจากฝ่ายทหาร จึงมักกลายเป็นเรื่องปกติที่อันตราย ..ในทางกลับกัน ฝ่ายทหารที่ต้องปกครองบังคับบัญชา หน่วยกําลังที่ถืออาวุธร้ายแรง รวมทั้งต้องพาทหารหาญออกไปสละชีพเพื่อชาติให้ได้ ต้องการความมั่นใจว่า ทหารจะปฏิบัติตามคําสั่งได้ แม้จะต้องตกอยู่ในอันตรายจึงไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงกิจการภายใน ซึ่งอาจทําให้ทหารไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของผู้บังคับบัญชา และส่งผลให้เกิดความล้มเหลวในการปฏิบัติการทหาร ซึ่งอาจหมายถึง เส้นทางไปสู่การสิ้นชาติ 

@@@…….ในทัศนะของฝ่ายทหารแล้ว การที่หัวหน้าฝ่ายการเมืองมีอํานาจในการเป็นผู้เลือกหัวหน้าฝ่ายทหาร ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ในฐานะทหารเป็นเครื่องมือของฝ่ายบริหาร และของรัฐนั้น น่าจะเพียงพอแล้ว สําหรับ ระบบการควบคุมทหารโดยพลเรือน (Civilian Control of the Military) การแทรกแซงกิจการภายในกองทัพเกี่ยวกับการปกครอง และการบังคับบัญชา การสั่งใช้กำลังทหารในสถานการณ์ที่ไม่ควรใช้ และการสั่งให้ทหารถอยออกมาในสถานการณ์ที่ไม่ควรถอย รวมทั้ง การที่ฝ่ายการเมืองซึ่งไม่เคยรู้เรื่องเข้าใจในธรรมชาติของการปฏิบัติการทางทหารของกำลังพร้อมรบ เข้ามาแทรกแซงบริหารจัดการกองทัพ เป็นสิ่งซึ่งฝ่ายทหารจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างความเข็มแข็งของฝ่ายการเมือง ตั้งแต่ปี 2541 กับสังคมไทยในยุคข้อมูลข่าวสาร ทําให้ฝ่ายทหารไม่สามารถแสวงหาความชอบธรรม ในการแทรกแซงกลับด้วยกําลังได้จนเมื่อความขัดแย้งทางสังคมขยายตัวขึ้นจากภาคประชาชน การปฏิวัติรัฐประหารจึงได้เกิดขึ้น เป็นต้น 

@@@…….การควบคุมโดยพลเรือน (The Civilian Control) หรือ อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การควบคุมทหารโดยพลเรือน (Civilian Control of the Military) ทหารยอมรับในหลักการดังกล่าวนี้อย่างแน่นอน หากความหมายของคําว่า “การควบคุมโดยพลเรือน” เป็นไปตามทฤษฎีที่แซมมวล ฮันติงตัน (Samuel Huntington) เสนอไว้ อย่างไรก็ตามทฤษฎีมักเป็นเพียงอุดมคติที่แตกต่างจากในทางปฏิบัติที่เคยเกิดขึ้น ผู้นําทางการเมืองที่เป็นพลเรือน มักจะหวาดระแวงทหาร ไม่ไว้ใจทหาร จึงพยายามทําทุกอย่างเพื่อลดอํานาจทางการเมืองของทหารด้วยการเข้าไปแทรกแซงกิจการทางทหารอย่างไร้ขอบเขต ตัวอย่างเช่น การแต่งตั้งโยกย้ายทหาร นักการเมืองที่เป็นพลเรือน พยายามที่ผลักดันบุคคลใกล้ชิด หรือญาติมิตรของตนให้ได้รับตําแหน่งสําคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตําแหน่งที่คุมกําลัง ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจในความมั่นคงของตน และพวกพ้องว่าจะไม่ถูกทหารกระทําการปฏิวัติรัฐประหาร การเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในกองทัพอย่างไร้ความรับผิดชอบนี้ส่งผลกระทบต่อขวัญ และกําลังใจของทหารอย่างยิ่ง นอกจากจะสร้างความงุนงงสงสัยในชุมชนทหารแล้ว ยังทําให้เกิดความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมขึ้นกับทหารที่ตลอดชีวิตการรับราชการได้พยายามไต่เต้าขึ้นมาตามลําดับชั้นด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่หากวันหนึ่งฝ่ายการเมืองผู้มีอํานาจเพียงข้ามคืน เข้ามามีอิทธิพลทําให้เส้นทางชีวิตการรับราชการของทหารที่ต้องใช้เวลาสั่งสมมายาวนานตลอดชีวิตต้องเปลี่ยนไป 

@@@…….ความสามารถในการแทรกแซงกิจการทหารของฝ่ายการเมือง และนักการเมืองพลเรือนเหล่านี้เอง ที่ทําให้ทหารบางส่วนที่ไม่มีความรู้ความสามารถ พยายามเข้าไปใกล้ชิดตีสนิทกับนักการเมือง รับใช้นักการเมือง โดยมุ่งหวังว่าจะได้มีโอกาสเจริญก้าวหน้า ได้รับตําแหน่งที่สําคัญ ๆ โดยที่ไม่ต้องออกแรง การที่องค์กรทหารได้บุคคลลักษณะนี้มาเป็นผู้นําทําให้เกิดปัญหาแก่องค์กรอย่างมาก กระทบต่อขวัญกําลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชา ทําเกิดการเลียนแบบแก่ทหารคนอื่น ๆ กระทบต่อวัฒนธรรมองค์กร และเป็นอุปสรรคที่สําคัญต่อการเป็นทหารอาชีพ (Professional Military)

@@@…….หากถามทหารว่า ท่านเชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตยหรือไม่ ก็จะได้รับคําตอบว่า “เชื่อมั่น” แต่หากถามว่า ทหารพร้อมจะพลีชีพ เพื่อปกป้องประชาธิปไตยหรือไม่ ก็จะพบคําตอบที่กํากวม และส่วนใหญ่อาจจะตอบว่า “ไม่” ฝ่ายทหารจะไม่พลีชีพเพื่อปกป้องประชาธิปไตย แต่พร้อมที่จะต่อสู้และสละชีพเพื่อปกป้องประเทศชาติแน่นอนไม่มีข้อสงสัย ทั้งนี้ ท่าทีของฝ่ายทหาร ที่จะดําเนินการทุกอย่างหากพวกเขาเห็นว่า เพื่อประโยชน์ต่อความมั่งคงของประเทศ ซึ่งแสดงออกให้เห็นได้อย่างชัดเจนมาโดยตลอด 

@@@…….การควบคุมโดยพลเรือน (The Civilian Control) ต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน ทหารยอมที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของพลเรือน แต่ทหารไม่พร้อมที่จะให้ฝ่ายการเมือง เข้าแทรกแซงในกิจการภายในกองทัพ การแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทหาร ของเหล่าทัพเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเข้าไปดูแล เพื่อให้การสนองตอบนโยบายของรัฐบาล ดําเนินไปอย่างราบรื่นนั้น เป็นสิ่งที่ทหารเห็นด้วย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสมที่ยอมรับได้ ในขณะที่ตําแหน่งทางทหารอื่น ๆ กองทัพควรที่จะเป็นผู้พิจารณา บริหารจัดการเอง มิใช่ใบสั่งจากฝ่ายการเมือง

@@@…….ความต้องการความเป็นอิสระในการบริหารองค์กรของทหาร จะยังคงมีอยู่ต่อไปแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ฝ่ายทหารจะอยู่ในคราบของทหารอาชีพหรือไม่ จึงมิใช่ด้วยการแทรกแซงกิจการภายในกองทัพ แต่ขึ้นอยู่กับกระบวนการคัดสรรผู้นําทหารสูงสุดที่เหมาะสมและเป็นทหารอาชีพของฝ่ายการเมืองที่ถืออํานาจรัฐอยู่แล้วนั้นเอง ..ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่า เรื่องราวที่กล่าวถึงนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ฝ่ายการเมืองจะต้องทราบความจริงในประวัติศาสตร์นี้ เพื่อให้ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขที่สวยงามในประเทศไทย สามารถเดินหน้าต่อไปตามที่คาดหวังได้สำเร็จในที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาพุทธและพิธีบวงสรวงสังเวยตามพิธีพราหมณ์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาองค์พระหลักเมือง ประจำปี 2566 ครบรอบ 241 ปี

@@@…….มากันที่ภารกิจกันบ้าง…พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึก ได้เป็นประธานในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาพุทธและพิธีบวงสรวงสังเวยตามพิธีพราหมณ์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาองค์พระหลักเมือง ประจำปี 2566 ครบรอบ 241 ปี ณ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม, พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะนายทหาร ชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อมผู้บริหารระดับสูงขององค์การฯ เข้าร่วมในพิธี โดย สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์จำนวน 9 รูป  

พล.อ.ชนาวุธ บุตรกินรี หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ นาย Sandor Sipos (ชานโดร์ ชีโปช) เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคำนับเพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ชนาวุธ บุตรกินรี หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ในฐานะ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับ นาย Sandor Sipos (ชานโดร์ ชีโปช) เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคำนับเพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่  รวมทั้งหารือข้อราชการในประเด็นการพัฒนากองทัพและความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมคณะ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฮังการีได้ดำเนินมาอย่างยาวนานกว่า 154 ปี กองทัพฮังการีมีบทบาทที่สำคัญในกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ อาทิ ภารกิจรักษาสันติภาพในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา อัฟกานิสถาน และโคโซโว เป็นต้น

พล.อ.ชนาวุธ บุตรกินรี หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ถ่ายภาพร่วมกับ นาย Sandor Sipos (ชานโดร์ ชีโปช) เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคำนับเพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

@@@…….ด้านศักยภาพอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของฮังการี มีความเจริญก้าวหน้า และมีขีดความสามารถสูง  มีแนวโน้มการพัฒนาสู่ผู้นำด้านอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศในภูมิภาคยุโรปกลาง นำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนายุทโธปกรณ์ระหว่างฮังการีและชาติต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ฮังการีสามารถนำนวัตกรรมดังกล่าวมาพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อการส่งออก ซึ่งในส่วนของกระทรวงกลาโหมไทยได้ดำเนินโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ณ จังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นโอกาสอันดีหากฮังการีจะได้ร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้มีความยั่งยืนและสามารถพึ่งพาตนเองได้ 

ล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ร่วมในพิธีส่ง เรือหลวงช้าง  ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ณ ท่าเทียบเรืออู่หูตงจงหัว เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน  

@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ  พล.ร.อ. เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์  รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการฯ และภริยา พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ โครงการจัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่(เรือหลวงช้าง) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัท China Shipbuilding Trading จำกัด ได้มาร่วมในพิธีส่ง เรือหลวงช้าง  ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ณ ท่าเทียบเรืออู่หูตงจงหัว เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีกำหนดเดินทางถึงท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 25 เม.ย. 2566 เวลา 15.00 น. ซึ่งกองทัพเรือจะได้จัดให้มีพิธีต้อนรับต่อไป

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทนกองทัพอากาศ

@@@…….กองทัพอากาศ….พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทนกองทัพอากาศ และรับทราบผลการปฏิบัติ ปัญหา ข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะ ตลอดจนสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน โดยรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานด้านพลังงานทดแทนของกองทัพอากาศที่ได้จัดตั้งขึ้นตามหน่วยขึ้นตรงของกองทัพอากาศทั่วประเทศ จากนั้นเข้าเยี่ยมชมอาคารจัดแสดงปฏิบัติการเรียนรู้พลังงานทดแทนฯ อาทิ อาคารพลังงานทดแทนเฉลิมพระเกียรติ จัดแสดงพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านพลังงานทดแทน และภารกิจของกองทัพอากาศ ด้านพลังงานทดแทน อาคารบ้านตัวอย่างประหยัดพลังงาน จัดแสดงการใช้พลังงานในชีวิตประจำวัน โดยแสดงให้เห็นถึงการนำพลังงานทดแทนที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมมาใช้ ให้ความรู้การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน เป็นต้น 

พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ รับฟังการบรรยายในการตรวจเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทนกองทัพอากาศ

@@@…….ศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทนกองทัพอากาศ เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2556 ตามยุทธศาสตร์พลังงานทดแทนของกองทัพอากาศ เพื่อให้เป็นแหล่งการวิจัยการเรียนรู้ของชุมชนในการส่งเสริมสนับสนุนและบริการข้อมูลด้านพลังงานทดแทนให้กับข้าราชการ ครอบครัว นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงอาคารและเพิ่มอุปกรณ์จัดแสดงเพื่อให้มีประสิทธิภาพและทันสมัยตามแผนยุทธศาสตร์พลังงานทดแทนกองทัพอากาศ โดยมีคุณลักษณะและขีดความสามารถของการจัดแสดงให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นในการเรียนรู้ และสร้างความพึงพอใจแก่ผู้เข้าชม สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ที่ ศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและอวกาศ กองทัพอากาศ ถนนเดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 025348921 และ 0970695909 โทรสาร 025348990

ทบ.แจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะของกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อทำการฝึกเป็นหน่วยกองพันปืนใหญ่สนาม ประจำปี 2566 ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล อ.เมือง จ.ลพบุรี

@@@…….ปิดท้ายข่าวจากกองทัพบก แจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะของกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อทำการฝึกเป็นหน่วยกองพันปืนใหญ่สนาม ประจำปี 2566 ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยเคลื่อนย้ายตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 2566 จากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ -ถนนกำแพงเพชร- ถ.วิภาวดีรังสิต- ต.พุแค จ.สระบุรี – อ.พระพุทธบาท – วงเวียนนารายณ์ – สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล อ.เมือง จ.ลพบุรี  และกลับในวันที่ 28 เม.ย. 2566 โดยใช้เส้นทางเดิม ประชาชนที่เห็นอย่างตื่นตระหนกตกใจ.

 ………………………………….

 คอลัมน์ :“Military Key”

 โดย ..“รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img