วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS'มั่นคง'เตือนสร้างความแตกแยกในสังคม ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘มั่นคง’เตือนสร้างความแตกแยกในสังคม ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง

ลุ้นกันวันต่อวันว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่จะคลี่คลายลงหรือไม่ กองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจ ระดมสรรพกำลังทั้งกำลังพล อุปกรณ์ในการตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับประชาชน กำลังพล และครอบครัว ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeyNews ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 17 เม.ย.ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เป็นห้วงระยะเวลาที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่า กลุ่มม็อบทะลุฟ้า จะไม่ใส่ใจ หรือเกรงกลัวต่อการระบาดของโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร โดยได้จัดขบวนแห่สงกรานต์ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย 

@@@…….ส่วนการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อรื้อระบบประยุทธ์ ผ่านมา 10 วันแล้วพบว่า จุดไม่ติด ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า ระบอบประยุทธ์ฯ ไม่มีจริง มีแต่ระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา และการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการลงประชามติก็จำเป็นต้องเลื่อนออกไป เนื่อง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ที่รุนแรงของประเทศ โครงสร้างอำนาจตามรัฐ ธรรมนูญ ซึ่งได้แก่ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และ อำนาจตุลาการ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมานานแล้ว 

@@@…….ความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน จะมีเพียงแต่การให้ความสำคัญกับที่มาของกำลังอำนาจแห่งชาติทางการเมือง ระบบการเลือกตั้ง และระบบการคัดสรรนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเท่านั้น ยังไม่มีประเด็นสำคัญ ที่จะเกิดประโยชน์ โดยตรงต่อประชาชนแต่อย่างใด คงมีแต่วาทะกรรมของพรรคฝ่ายค้าน ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงมั่นใจว่า การสร้างความแตกแยกในสังคมไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง ความรัก ความสามัคคีของประชาชนคนในชาติต่างหากที่เป็นคำตอบของประเทศในการฝ่าวิกฤตของชาติและประเทศยังคงจะสามารถเดินหน้าพัฒนาไปสู่สังคมที่ดีกว่าต่อไปได้ 

www.thaigov.go.th

@@@…….ด้านรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยประชาชน ในการเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ภายหลังสิ้นสุดช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ฯลฯ บูรณาการร่วมกันอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. เป็นต้นไป

@@@……นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนทุกคนเดินทางกลับไปทำงานอย่างปลอดภัย ขับขี่ยานพาหนะด้วยความไม่ประมาท มีสติ ดื่มไม่ขับ และขอให้ป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือ พื้นที่ที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ปฏิบัติตามมาตรการ DMHT คือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการ ซึ่งหากทุกคนช่วยกันป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว สถานการณ์การติดเชื้อก็จะลดลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว

@@@……พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมร่วมกับ นขต.กห. เหล่าทัพ กอ.รมน.และ ตร. ผ่านระบบประชุมทางไกล ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามความพร้อมของ รพ.สนาม ที่ กห.จัดตั้งขึ้นเร่งด่วน โดยภาพรวมปัจจุบัน กระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เร่งจัดตั้งและเตรียมความพร้อม รพ.สนามในพื้นที่ต่างๆ จำนวน 24 แห่ง  5,341 เตียง โดยมี ศปม.( กองทัพไทย ) เป็นหน่วยประสานกับส่วนราชการต่างๆ ภายใต้การบริหารจัดการภาพรวมโดย สธ. เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กระจายเป็นวงกว้างและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

@@@……สำหรับในพื้นที่ชายแดน กองกำลังป้องกันชายแดน ยังคงความเข้มข้นเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายซึ่งพบสถิติสูงขึ้น จากความรุนแรงในเมียนมา พร้อมกันนี้ กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพ ยังคงทำหน้าที่หลักร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการคัดกรองและบริหารจัดการสถานกักตัวควบ คุมโรค ทั้ง SQ และ ASQ จำนวน 161 แห่ง ต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค.63 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนเดินทางกลับจากต่างประเทศ ผ่านการกักตัวควบคุมโรคแล้ว 251,023 คน อยู่ระหว่างกักตัว 13,649 คน พบผู้ติดเชื้อ 1998 ราย

@@@……พล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับ ขอให้ทุกเหล่าทัพ เร่งสำรวจความพร้อมของบุคลากรแพทย์ทหารและแพทย์อาสาของกองทัพ เพื่อประเมินความพร้อมในการสนับสนุนและทำงานร่วมกับ สธ.อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ รพ.สนาม มีมาตรฐานเทียบเคียงกัน รองรับผู้ป่วยระดับต่ำที่ไม่มีอาการรุนแรงที่มีจำนวนมาก พร้อมทั้งขอให้ทุกเหล่าทัพ เพิ่มความเข้มข้นมาตรการป้องกันในหน่วยทหารและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ในการปฏิบัติงานที่ร่วมกันลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายโรคที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

@@@……พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ติดตามและกำชับให้ทุกหน่วยทหารดำรงความช่วยเหลือส่วนราชการ ให้การสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการรักษาพยาบาลอาทิ เตียงนอน ที่นอน โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในพื้นที่ต่างๆตามที่ได้รับการประสานจากหน่วยงานด้านสาธารณสุข โดยได้สั่งการให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก และ กรมแพทย์ทหารบก  จัดตั้ง ”โรงพยาบาลสนามกองทัพบก”ในพื้นที่ค่ายทหารหรือสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อดูแลรองรับประชาชน กำลังพล และครอบครัว ที่ติดเชื้อและมีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการ รวมทั้งผู้ที่ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลมาและอาการทุเลาลงแล้ว เพื่อเป็นการลดภาระด้านการรักษาพยาบาลให้กับโรงพยาบาลสาธารณสุขในจังหวัดต่างๆ 

@@@……นอกจากนี้กองทัพบกยังได้สนับสนุน เตียงเหล็ก ที่นอนและอุปกรณ์เครื่องนอนจำนวน 200 ชุด ให้กับ โรงพยาบาลสนาม ของ กทม ณ. โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน  ซึ่งเป็นการขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้ติดเชื้อโควิดจากเดิม 300 เตียง เพิ่มอีก200 เตียง โดยกองทัพบกได้ขนส่งอุปกรณ์ดังกล่าวจากกรมพลาธิการทหารบกไปยังโรงพยาบาลผู้สูงอายุฯเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย.64  ส่วนที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กองทัพบกโดย ศูนย์การทหารราบ ได้สนับสนุนเตียงสนาม 70 ชุดพร้อมเครื่องนอนให้กับโรงพยาบาลหัวหิน เพื่อจัดตั้ง รพ.สนาม ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการหัวหิน รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่  9 เม.ย.64 

@@@……สำหรับความคืบหน้าในการจัดเตรียมสถานที่โรงพยาบาลสนามของกองทัพบกในพื้นที่ กทม.คือที่ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. รองรับได้ 200 เตียง นั้น ปัจจุบันกองทัพบกได้ส่งทหารช่างเข้าปรับปรุงอาคารจำนวน 5 หลังในพื้นที่ดังกล่าว ที่จะใช้เป็น อาคารนอน ห้องน้ำ รวมถึงอาคารที่ใช้เป็นสถานที่ทำงานและที่พักของบุคลากรทางการแพทย์และได้ดำเนินการติดตั้งรั้วโดยรอบโรงพยาบาลสนามเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ในภาพรวมขณะนี้กองทัพบกได้จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ไว้แล้วจำนวน 12 พื้นที่ทั่วประเทศสามารถรองรับได้ 2,220 เตียง

@@@……พล.อ.อ. แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ สังกัดกรมแพทย์ทหารอากาศ ณ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ โดยมี พล.อ.ต.หญิง อิศรญา สุขเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ

@@@……ผบ.ทอ. ได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ห้องจุลชีววิทยา กองพยาธิกรรม , ห้องตรวจระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) และห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ  ซึ่งทางโรงพยาบาลกำลังเตรียมการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ทั้งการตรวจหาเชื้อและการ บริหารจัดการเตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ให้แก่กำลังพลกองทัพอากาศและประชาชนทั่วไปที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภายในและภายนอกกองทัพอากาศ

@@@……จากนั้น ผบ.ทอ. ได้เดินทางไปยังอาคารฝึกและทดสอบสมรรถภาพกองทัพอากาศ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงและติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อรองรับการเปิดใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ขนาด 140 เตียง สามารถให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์จากกรมแพทย์ทหารอากาศ และโรงพยาบาลจุฬา ภรณ์ ตลอดจนส่วนสนับสนุนต่าง ๆ

 @@@……พล.ร.อ. เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจาก นาวาเอก Mathew Bake ผู้ช่วยทูตทหารเรือสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ว่านักเรียนนายเรือ ปุณระพี ประกิจ ชั้นปีที่ 1 ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายเรือประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยตั้งอยู่ที่เมืองแอนนาโปลิส มลรัฐแมรี่แลนด์ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศสหรัฐอเมริกา ห่างไปประมาณ 65 ไมล์ สำหรับนักเรียนนายเรือ ปุณระพี ประกิจ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 61 นายเรือรุ่น 118 จบมัธยมจาก สาธิตปทุมวัน การศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ จะใช้เวลา 5 ปี ซึ่ง นักเรียนนายเรือ ปุณระพี ฯ จะเดินทางไปศึกษาในเดือน มิ.ย. 2564 นี้และจะสำเร็จการศึกษาในเดือน มิ.ย. 2569

………………..

คอลัมน์ : ”Military Key

โดย…. ”รหัสมอร์ส” 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img