วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS‘มั่นคง’ ชี้ ’ม็อบ’ หวังใช้ความรุนแรงเรียกแขก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘มั่นคง’ ชี้ ’ม็อบ’ หวังใช้ความรุนแรงเรียกแขก

ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมใช้เด็กและเยาวชนเป็นตัวเดิน หวังเรียกให้ผู้เห็นต่างเข้าร่วมขับไล่ “ลุงตู่” ฝ่ายความมั่นคง มองหากไม่มีความรุนแรงเรียกแขกด้วยความเคียดแค้นชิงชัง จำนวนผู้ชุมนุมอาจลดน้อยลงจนไม่มีพลัง และแรงผลักเพียงพอให้เกิดผลในระดับชาติ

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeyNews  ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 21 ส.ค.64 การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวเลขยังไม่ได้ลดลง ทุกหน่วยงานต่างระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ 

@@@…….ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สถานการณ์ทางการเมืองก็ไม่ได้เบาลง มีแต่จะรุนแรงขึ้น จะเห็นได้จากการจัดกิจกรรมของกลุ่มเห็นต่าง ยังคงพยายามกดดันให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลาออก โดยใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นสถานที่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อต้องการตอกย้ำข้อเรียกร้องและสร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายตนเอง ขณะเดียวกันได้สนับสนุนให้มวลชนวัยรุ่นก่อเหตุจลาจลรายวันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ทั้งนี้ หากไม่สามารถดําเนินการต่อมวลชนกลุ่มนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม อาจทําให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายได้ อย่างไรก็ตาม ทางทหาร พร้อมอยู่ หากตำรวจร้องขอ ทั้งนี้ หากใช้กำลังทหาร ภาพจะดูเสมือนภาครัฐกำลังเน้นใช้ความรุนแรง ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว มิได้เป็นเช่นนั้น แต่เข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้ช่วยพนักงานเจ้าหน้าที่นั่นเอง 

ม็อบอนุสาวรียชัยสมรภูมิ 16 ส.ค. / cr @thalufah

@@@……โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมที่ช่วงหลัง ๆ จะเป็นเด็กและเยาวชนที่มีบทบาทเข้ามาเคลื่อนไหว การที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุยังน้อย แสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยามด้วยความหยาบคายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เป็นตำรวจนั้น ถือเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานชัดเจน เหตุการณ์ความรุนแรงที่ปรากฎ ล้วนแล้วแต่เริ่มด้วยการก่อม็อบผิดกฎหมายที่ละเมิดกฏหมายหลายฉบับ และไม่ยอมปฏิบัติตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ร้องขอแล้วทุกครั้ง ด้วยข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ มิใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่มผู้ชุมนุม หรือไม่มีหน้าที่ที่จะให้ความเห็นทางการเมืองใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย และอำนวยการให้ประชาชนอยู่ภายใต้กฏหมายเหมือนกันทุก ๆ คนไป หากแต่ผู้ชี้นำ ได้มุ่งมั่นสร้างความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้กลุ่มผู้ชุมนุมอายุน้อยไร้เดียงสาที่โกรธแค้น เข้าต่อตีกับตำรวจด้วยความรุนแร

ง 

ม็อบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 17 ส.ค.

@@@……ฝ่ายความมั่นคง เห็นว่าประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นทางการเมืองเพื่อให้การชุมนุมก่อม็อบผิดกฏหมายบนถนน ยังคงดำเนินการได้ต่อเนื่องต่อไป มิฉะนั้นแล้ว หมายถึง หากไม่มีความรุนแรงเรียกแขกด้วยความเคียดแค้นชิงชังแล้ว จำนวนผู้ชุมนุมอาจลดลงมากเกิน จนไม่มีพลัง และแรงผลักเพียงพอให้เกิดผลในระดับชาติ หรือในรัฐสภาฯ ได้…..สิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงกังวลมากที่สุด คือ สถานที่ และเวลา ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมที่นิยมมุ่งใช้ความรุนแรง ได้เลือกไว้นั้น ล่อแหลมต่อการใช้อาวุธปืนด้วยกระสุนจริงมาสร้างสถานการณ์อย่างมาก

โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ตัวอย่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะกำลังกระทำผิดกฏหมาย หรือกำลังก่อม็อบผิดกฏหมาย มีให้เห็นอยู่เนือง ๆ กฏหมายที่มีอยู่ทั้งหมดคุ้มครองพนักงานเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง แต่ไม่คุ้มครองผู้กระทำผิดกฏหมาย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่ากลุ่มที่มุ่งล้มรัฐ ล้มสถานบัน ที่พยายามจะคว่ำ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ให้ได้นั้น ดูท่าทีแล้วไม่น่าประสบความสำเร็จได้ ..

การหาเสียงสร้างความนิยมเก็บสะสมไว้ของกลุ่มการเมือง และพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งในรอบต่อไปซึ่งอีกไม่นานจะมาถึงต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญของฝ่ายการเมืองจากนี้ไป 

@@@……กลับมาสู่ภารกิจกองทัพ…..พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ประชุมติดตามการสนับ สนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในภาพรวมฝ่ายความมั่นคง ทหารตำรวจ ยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1-12 ส.ค.64 จับกุมได้ 1,864 คน สำหรับการควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งจุดตรวจและด่านตรวจบริเวณรอยต่อจังหวัดสีแดงเข้ม และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วตรวจในพื้นที่ เพื่อลดการเคลื่อนย้ายและจำกัดกิจกรรมตามเคหสถานที่เป็นปัญหา โดยยังพบพฤติ กรรมขาดความรับผิดชอบ รวมกลุ่มดื่มสุรา มั่วสุมเสพยาและเล่นการพนันต่อเนื่อง 


@@@……ขณะเดียวกัน กองทัพได้เร่งขยายขีดความสามารถทางการแพทย์ใน รพ.ทหารแต่ละเหล่าทัพ โดยจัดตั้งห้อง ICU รองรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่ม 80 เตียง และผู้ป่วยสีเหลือง 306 เตียง ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งจัดตั้ง รพ. สนาม และ CI ในพื้นที่หน่วยทหารทั่วประเทศเพิ่ม ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด พร้อมกันนี้ ได้เรียกระดมบุคลา กรทางการแพทย์แถว 2 กว่า 500 คน เข้ามาเสริมการทำงาน เพื่อรองรับการดูแลประชาชน  สำหรับ รพ. สนาม ใน มทบ.11 ในพื้นที่ กทม. อยู่ระหว่างปรับเพิ่มให้สามารถรองรับการตรวจเชื้อคัดกรองโรคได้เพิ่ม 500 คน ต่อวัน ในลักษณะขับรถยนต์มารับการตรวจ (Drive Thru) ขณะที่ รพ.สนามศูนย์คัดกรอง สโมสรกองทัพบก ในพื้นที่ กทม. มีประชาชนมารับการบริการแล้วเกือบ 10,000 คน ให้บริการครบวงจรตรวจคัดกรองเชื้อ เอ๊กเรย์ปอด พบแพทย์ รับตัวเข้ารักษาในระบบ  รวมทั้งจ่ายยาและพากลับบ้าน


@@@……ด้านกองทัพบกได้พัฒนาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นราชการทหาร โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการ เน้นการบูรณาการของหน่วยงานในกองทัพบก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัครมากยิ่งขึ้น รวมถึงกำหนดคุณสมบัติให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่และภารกิจของกองทัพบก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังพลในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังพลต้นน้ำ คือทหารกองประจำการที่มีความมุ่งมั่น มีใจรัก และจิตอาสา ส่งเสริมต่อยอดสู่เส้นทางของทหารอาชีพอย่างเป็นระบบ โดยจะดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มในส่วนของการคัดเลือกบุคคลเป็นนายทหารระดับชั้นประทวน ปรับการคัดเลือกจากหลากหลายช่องทางจากหน่วยต้นสังกัดที่รับผิดชอบ เป็นระบบการคัดเลือกจากส่วนกลาง มีขั้นตอนการดำเนินการ และแนวทางการปฏิบัติรูปแบบเดียว กัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการกำหนดแนวทางและจัดทำระบบรับสมัครแบบออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศ ตลอดจนเตรียมความพร้อมของสนามสอบต่างๆ กระจายตามภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

@@@……นายทหารที่จะเกษียณฟังทางนี้ ทางกองทัพบกใช้กฎระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในอาคารบ้านพักของข้าราชการและลูกจ้างประจำในสังกัด ทบ. พ.ศ.2553 โดยคณะทำงานพิจารณาแล้วเห็นว่า ให้ผู้หมดสิทธิพักอาศัยเนื่องจากเกษียณอายุราชการพร้อมด้วยบริวารจะต้องย้ายออกจากอาคารบ้านพักอาศัยภายใน 30 ก.ย.ของปีที่เกษียณอายุราชการ เพื่อให้สอดคล้องกับคำทักท้วงของ สตง.โดยผู้ที่เกษีญรอายุราชการจะสามารถพักอาศัยบ้านพักของทางราชการได้เฉพาะผู้ที่ กองทัพบก อนุโลมเท่านั้น …..เด็กๆ เก็บของ

 

@@@……กองทัพเรือ  โดย โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า  กรมแพทย์ทหารเรือ ให้บริการฉีดวัคซีนป้อง กัน COVID – 19 ในการนี้กำลังพลจิตอาสา 904 สังกัดกองทัพเรือ  ได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัค   ซีน ป้องกันโควิด  – 19 ณ อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด – 19 ในครั้งนี้ เป็นผู้อาศัยในพื้นที่เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ และเขตธนบุรี ซึ่งมีโรคประจำตัว รวมถึงสตรีมีครรภ์ ที่อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ พระภิกษุสงฆ์ และผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลสมเด็จ พระปิ่นเกล้า จะจัดให้มีการฉีดวัคซีน ให้แก่ผู้ที่ลงทะเบียนในวันที่ 24 ส.ค.และ วันที่ 27 ส.ค.2564 ระหว่างเวลา 08.00 น. ถึง 12.00 น.

 ………………………

 คอลัมน์ : “Military Key”

โดย… “รหัสมอร์ส” 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img