“มั่นคง” ห่วงม็อบรุนแรงหวังเรียกแขกร่วมล้มรัฐ

ฝ่ายความมั่นคง ประเมินผู้ชุมนุมน้อยลง ห่วงม็อบใช้ความรุนแรงหวังเรียกมวลชนร่วมล้มรัฐบาล ด้าน ผบ.ทหารสูงสุด ประชุมผบ.เหล่าทัพนัดสุดท้ายขอบคุณที่ช่วยกันดูแลประชาชน

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https: //thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่  25 ก.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มจะดีขึ้น ตัวเลขยังคงขึ้น ๆ ลง ๆ แต่หากคนไทยทุกคนช่วยกันยกการ์ดให้ขึ้นสูงและปฏิบัติตามมาตรฐานของกระ ทรวงสาธารณสุข เชื่อว่าอีกไม่นานประเทศไทยสามารถเปิดประเทศได้แน่นอน

@@@…….สําหรับความเคลื่อนไหวทางการเมือง ฝ่ายความมั่นคงยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ และพบว่ากลุ่มเห็นต่างยังคงเคลื่อนไหวจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยข้อเรียกร้องหลักคือต้องการให้ปล่อยตัวแกนนําที่ถูกคุมขัง ในความผิดในคดี ม.112 หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ แนวโน้มคาดว่ากลุ่มเห็นต่างจะยังคงจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ต่อไป จนกว่าจะได้รับการสนองตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่การจัดกิจกรรมของกลุ่มทะลุแก๊ซ และแนวร่วมยังคงรวมตัวพยายามปลุกเร้าให้มวลชนทําการยั่วยุเจ้าหน้าที่ให้บังคับใช้กฎหมายควบคุมฝูงชน เพื่อสร้างภาพเหตุการณ์ความรุนแรง หวังให้สื่อมวลชนในประเทศและสื่อต่างชาติ นำไปขยายผลต่อ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวต่อไป

@@@…….อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มที่มุ่งปั่นป่วนบ้านเมืองให้วุ่นวายจะยังคงพยายามรักษาสภาพบนถนนต่อเนื่องต่อไป แต่ดูเหมือนว่ามวลชนเข้าร่วมมีจำนวนน้อยลง และอายุเฉลี่ยก็น้อยลงเรื่อยๆ ด้วย กิจกรรมบนถนนผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นวันสำคัญที่กระตุ้นให้ผู้คนออกมาร่วมกันขับไล่รัฐบาลครั้งยิ่งใหญ่ สุดท้ายก็จบไปโดยไม่เกิดแรงกระแทกใด ๆ ต่อรัฐบาล แต่ในทางกลับกัน ความเบื่อหน่ายของประชาชนได้เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

@@@…….การยุยงให้เด็กนักเรียนอายุน้อยร่วมเผาทำลายป้อมตำรวจ และทรัพย์สินของทางราชการ ถือเป็นเรื่องเลวร้ายที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ..การแย่งชิงการนำกลุ่มม็อบผิดกฎหมายบนถนน กับแนวคิดวิธีการล้มรัฐ ล้มสถาบัน ของฝ่ายการเมืองบางกลุ่มที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการแย่งชิงมวลชน ปรับปรุงกระแสความนิยมจากประชาชนรองรับการเลือกตั้งรอบต่อไป ไม่ว่ามันจะมาถึงเมื่อไร ..สิ่งเหล่านี้เป็นต้นนั้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า จำนวนมวลชนที่เข้าร่วมกับม็อบบนถนนผิดกฎหมายเพื่อขับไล่รัฐบาล ล้มรัฐ ล้มสถาบัน จากนี้ไป จะไม่มากไปกว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ย. แน่นอน และมีแนวโน้มแผ่วลงเรื่อย ๆ สิ่งที่น่ากังวล คือ การตัดสินใจใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นเพื่อเรียกแขก ซึ่งก็อาจทำให้เกิดภาพลบต่อฝ่ายม็อบมากขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมืองใกล้ชิดต่อไป

@@@…….ในการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งสุดท้าย โดยมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 4 กองบัญชาการกองทัพไทย โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ทุ่มเท เสียสละ ร่วมแรง ร่วมใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาจนสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้สำเร็จไปได้ด้วยดี

@@@…….สำหรับการประชุม เป็นการสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของกองทัพไทย ดังนี้ ด้านการพิทักษ์ รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้านการป้องกันประเทศ กองทัพไทยได้จัดและวางกำลังป้องกันชายแดน รวมทั้งบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนอย่างประสานสอดคล้อง ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ด้านการรักษาความมั่นคงของรัฐ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญต่าง ๆ ของประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ด้านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ ให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศโดยเฉพาะการพัฒนาความร่วมมือทางทหาร และ ด้านการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน กองทัพไทยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจในท้องถิ่นทุรกันดาร ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

@@@……สำหรับภารกิจของกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้แสดงความห่วงใยในการสับเปลี่ยนกำลังประจำปี พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ภายใต้ข้อกำหนดของ ศบค., โดยเฉพาะมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล และมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal)ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง  รวมทั้งสั่งการให้หน่วยที่สับเปลี่ยนกำลังดำเนินการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 เมื่อเข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อการป้องกันโรค ส่วนกำลังพลที่กลับมาที่ตั้งปกติ ก็จะทำการตรวจคัดกรองและดำเนินมาตรการป้องกันโควิด-19 เช่น การแยกกักตัวสังเกตอาการให้ปลอดเชื้อก่อนทุกนาย เพื่อให้ทั้งสองส่วนมีความพร้อมในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่

@@@……กองทัพเรือ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์สมุททานุภาพกองทัพเรือ ณ กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กองทัพเรือมีสถานที่ปฏิบัติงานของหน่วยงานภายในกองทัพเรือในการติดตาม ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายระดับชาติในการพัฒนาสมุททานุภาพของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม วิจัย และพัฒนายุทธศาสตร์ หลักนิยมและยุทธวิธี ซึ่งจะเอื้อให้การทำงานด้านวิชาการเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว สามารถผลิตงานวิชาการที่มีคุณภาพ มีสถานที่พร้อมที่ที่เพียงพอและทันสมัยที่จะรองรับการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการขนาดใหญ่ เพื่อระดมความคิดเห็นและเผยแพร่ความรู้ไปในวงกว้าง 

@@@……ปิดท้ายกันด้วยงานเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการ….โดยโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาราช ได้จัดพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของ พล.อ.อ.แอร์บูล  สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ณ ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาราช ในโอกาสนี้ ผบ.ทอ.ได้กล่าวคำขอบคุณและอำลา พร้อมทั้งให้โอวาทเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ แก่ข้าราชการกองทัพอากาศ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และนักเรียนนายเรืออากาศ ที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ ให้ดำรงคุณงามความดี ความตั้งใจให้มั่นคง พร้อมช่วยกันสร้างสรรค์พัฒนาหน่วยงาน ให้มีความเจริญก้าวหน้า อีกทั้งมีความสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีระเบียบวินัย เสริมสร้างความรักความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญ ต่อการพัฒนากองทัพอากาศในทุกมิติให้เจริญก้าวหน้ามั่นคงอย่างยั่งยืน.

 ………………………

 คอลัมน์ “Military Key”

 โดย “รหัสมอร์ส”