ความขัดแย้งวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน “มั่นคง” ชี้ ไม่ขยายไปกว่านี้

เรื่องความมั่นคงภายในประเทศยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เรื่องของการสู้รบระหว่างรัสเซีย ยูเครน ยังเป็นที่จับตามองว่าจะขยายกลายเป็นสงครามหรือไม่ 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ THEKEYNEWS ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 12 มี.ค. 2565 เรื่องของสถานการณฺการเมือง ช่วงที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ โดยมีแกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วน โดยเฉพาะจากพื้นที่ภาคอีสานเดินทางไปพบ ฝ่ายความมั่นคง วิเคราะห์เป็นไปได้ว่า มีนัยต้องการสื่อสารไปถึงบรรดาสมาชิก และฐานเสียง ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้มั่นใจว่า นายทักษิณ ยังคงให้การดูแลสนับสนุนทางการเงินกับบรรดา สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป 

@@@……กลับมาที่เมืองไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่1/2565 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ  สมช.  ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้รับทราบ ผลการปฎิบัติงานตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้วงวันที่ 20 ธ.ค.64 ถึงวันที่ 10 ก.พ.65  ซึ่งภาพรวมสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ จชต. มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และประชาชนได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยดีที่ผ่านมา รวมถึงรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานตามแผนปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีแนวโน้มและโอกาสปรับลดพื้นที่เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง

@@@…… จากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา เห็นชอบตามข้อเสนอของ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้าในการขอขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ จชต. ยกเว้น อ.ศรีสาคร ,อ.สุไหงโก-ลก ,อ.แว้ง ,อ.สุคิริน จ.นราธิวาส  อ.ไม้แก่น ,อแม่ลาน จ.ปัตตานีและ อ.เบตง ,อ.กาบัง จ.ยะลา ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่  20 มี.ค.ถึงวันที่ 19 มิ.ย.65 โดยเป็นการขยายระยะเวลา ครั้งที่ 67 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สามารถดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป 

@@@…… พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ทภ.4 ,กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้าให้เข้มงวดงานด้านการข่าว และเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดน รวมถึงเร่งพิจารณาการปรับลดพื้นที่ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ และส่งเสริมเศรษฐกิจ และให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย พร้อมทั้งขอบคุณ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยงาน ที่ได้ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ ทุ่มเท จนกระทั่ง สถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ตามลำดับ และ ขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือ เป็นอย่างดี ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัย ควบคู่กับการพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี อย่างยั่งยืน ต่อไป

@@@…… พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ โครงการสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช บ้านคลองซอยที่ 9 หมู่ที่ 9 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมี พล.อ. จีรัชญ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และ พล.ต.กฤษฏิ์ชัย จำนงค์เนียร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับฟังการบรรยายสรุปจาก สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา 

@@@…… หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมพื้นที่การปฏิบัติงาน โคก หนอง นา โมเดล ในโครงการสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช มีพื้นที่ดำเนินการรวมทั้งสิ้น 127 ไร่ แบ่งการดำเนินการ 3 ส่วนประกอบด้วย พื้นที่ส่วนที่ 1 จำนวน 60 ไร่ จัดสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมดำเนินการโดย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พื้นที่ส่วนที่ 2 จำนวน 27 ไร่ จัดสร้างเป็นแปลงเกษตรสาธิตดำเนินการโดย บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์  พื้นที่ส่วนที่ 3 จำนวน 40 ไร่ จัดสร้างเป็น โคก หนองนา โมเดล ดำเนินการโดย สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สนับสนุนวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามในการดำเนินการ 

@@@…… ส่วนที่ 3 สร้าง โคก หนอง นาโมเดล ขนาดพื้นที่ 40 ไร่ ซึ่งมีกิจกรรมที่กำหนดตามแผนงาน 3 ส่วนได้แก่ 1. งานปรับพื้นที่ตามรูปแบบการขุดดิน โคก หนอง นาโมเดล ขนาดพื้นที่ 40 ไร่ 2. งานก่อสร้างเส้นทางผิวจราจรลูกรัง กว้าง 6 เมตร ระยะทาง 930 เมตร  3. งานองค์ประกอบโครงการ ได้แก่ สิ่งปลูกสร้าง และพื้นที่การเกษตร ทั้งนี้ การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว เพื่อใช้เป็นรมณียสถานที่เอื้อต่อการปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนาสำหรับพระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไปและใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืนต่อไป

@@@…… พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงพิธีอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประดิษฐาน ณ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล จ.ลพบุรี ซึ่งกองทัพบกได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์มาประดิษฐานในค่ายทหารแห่งนี้ เมื่อ 6 มีนาคม 2565 โดยได้ประกอบพิธีด้วยความเรียบร้อยสง่างามสมพระเกียรติ พระบรมราชานุสาวรีย์ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่เป็นสิริมงคล เป็นศูนย์รวมพลังแห่งความจงรักภักดี และเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ จ.ลพบุรี ซึ่งหน่วยทหารในพื้นที่สามารถนำกำลังพล ครอบครัว ส่วนราชการ รวมถึงประชาชนทั่วไปเดินทางเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 และชมภูมิทัศน์โดยรอบได้โดยสะดวก

@@@……นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้ความสำคัญในเรื่องการปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน โดยจากสถิติในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตรวจพบผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่ยังคงมีความพยายามลักลอบเข้าไทยในจำนวนที่ไม่ลดลง กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดต่อไปโดยเฉพาะชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และ 3 ควบคู่ไปกับการสกัดกั้นยาเสพติดที่จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัย เนื่องจากรูปแบบการลักลอบขนยาเสพติดมีกลุ่มติดอาวุธร่วมในการขนย้าย โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบกสามารถตรวจยึดยาเสพติดได้ ยาบ้า 17,069,515 เม็ด, กัญชา 1,864 กิโลกรัม และจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ 366 ครั้ง  5,333 คน

@@@……และเนื่องจากในเดือนมีนาคมนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อน ประกอบกับสภาพอากาศที่แปรปรวน ผู้บัญชาการทหารบก กำชับให้หน่วยทหารได้เตรียมการช่วยเหลือประชาชน มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อให้เกิดความพร้อมในการรับมือทุกสถานการณ์ อาทิ พายุฤดูร้อน ภัยแล้ง อัคคีภัย ไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยทหารของกองทัพบกได้ทุ่มเทดูแลประชาชนในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะการดูแลผู้ด้อยโอกาส เด็กและเยาวชนที่นอกจากหน่วยทหารจะดำเนินการตามศักยภาพแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ และผู้มีเมตตาเข้ามาร่วมให้การสนับสนุน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยทำเรื่องดีๆ ช่วยเหลือประชาชนอย่างเข้มแข็ง ในขณะเดียวกันในเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำถึงการดูแลกำลังพลให้มีความปลอดภัย เคร่งครัดในการป้องกันการติดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขและให้ค่ายทหารทุกพื้นที่มีการปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามสถานการณ์โรค  

@@@……ล่าสุด กองทัพบกได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานสายด่วน ศปม.ทบ.” ณ โรงเรียนทหารสื่อสาร กรมการทหารสื่อสาร กทม. เพื่อเป็นศูนย์รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนผ่านสายด่วน1330  จำนวน 80 คู่สาย ปฏิบัติหน้าที่ในเวลาราชการ รองรับการให้บริการกับประชาชนที่โทรแจ้งข้อมูล หรือขอความช่วยเหลือ ให้เข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามที่รัฐบาลบริหารจัดการ ได้แก่ การลงทะเบียนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่, ติดตามการให้บริการ กรณีไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานติดต่อเกิน 6 ชั่วโมง, การร้องเรียนร้องทุกข์, รับเรื่องหาเตียง โดยในแต่ละวันกองทัพบกจัดกำลังพล 90 นาย ประจำศูนย์ประสานงานสายด่วนฯ สำหรับกระบวนการรับข้อมูลจนถึงการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จะเป็นไปตามระบบของ สปสช. 

@@@……นาวาเอก พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด มอบประกาศนียบัตร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมทั้งเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของกำลังพล ให้กับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 534 ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน โดยมี เรือเอก สุภาพ นนทวงศ์ ผู้บังคับกองร้อยและกำลังพลในกองร้อย เป็นผู้แทนรับมอบ ซึ่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ได้กล่าวชื่นชมถึงความกล้าหาญ และเสียสละ กับกำลังพลผู้เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถยนต์ส่วนบุคคล ณ บริเวณเนินหน้ากองร้อย จนปลอดภัย อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ในการเป็นที่พึ่ง และบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน เพื่อเป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ว่า “รวมใจภักดิ์  รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา”

@@@……มาดูความคืบหน้าในโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนของกองทัพอากาศ…พล.อ.ต.ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยเหตุผลความจำเป็นที่ต้องจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนว่า ตาม พรบ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551  มาตรา 21 ระบุให้ กองทัพอากาศมีหน้าที่เตรียมกำลังกองทัพอากาศ การป้องกันราชอาณาจักรและดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังกองทัพอากาศ ตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม มีผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ  

@@@……กองทัพอากาศได้พิจารณาความคุ้มค่าในการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีโดยมุ่งเน้นคุณภาพเหนือปริมาณ เพื่อการป้องปรามและรู้ผลแพ้ชนะในการใช้กำลัง รวมทั้งสามารถทวีกำลังและเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพ ตลอดจนสร้างความมั่นคงร่วมกับมิตรประเทศในภูมิภาค กองทัพอากาศจึงได้กำหนดให้จัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีสมรรถนะสูงยุคที่ 5 มาทดแทนเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบเดิมที่ล้าสมัย อันจะก่อให้เกิดความได้เปรียบของกำลังทางอากาศในการผนึกกำลังป้องกันประเทศ (United Defense) สนับสนุนการปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพอื่น และยังเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ในการป้องปราม (Deterrence) หรือการป้องกันเชิงรุก (Active Defense) ตลอดจนสามารถร่วมปฏิบัติการทางทหารกับประเทศในภูมิภาคได้ ตามหลักคิดการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงร่วมกับมิตรประเทศในภูมิภาค 

@@@……เรื่องความชัดเจนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่กองทัพอากาศต้องการ กองทัพอากาศยังคงดำรงเจตนารมณ์เช่นเดิมในเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่การดำเนินการที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดทั้งหมดจะอยู่ในขั้นตอนต่อไป ภายหลังจากการเจรจากับประเทศผู้ขาย อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีตามที่กองทัพอากาศสนใจจะให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีนั้น เป็นเทคโนโลยีทางทหารชั้นสูง มีชั้นความลับกำกับ ถือเป็น Military Know how จึงต้องถูกควบคุมจากประเทศผู้ผลิตอย่างเคร่งครัดโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศผู้ผลิต อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่ากองทัพอากาศเรามีความชัดเจนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีในสิ่งที่เราต้องการและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒ นากองทัพไทยและประเทศชาติในระยะยาวแน่นอน

@@@……สำหรับสถานการณ์ความมั่นคงโลก และการเมืองระหว่างประเทศในประเด็นวิกฤติรัสเซีย – ยูเครน ช่วงที่ผ่านมา และจากนี้ไปนั้น ฝ่ายความมั่คง ประเมินว่า แม้จะเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว สถานการณ์ภาพรวมยังถือว่าทรงตัว แต่มีแน้วโน้มที่จะค่อย ๆ คลี่คลายจากเวทีการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งโดยตรง ในรอบที่ 4 และรอบต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งต่างฝ่ายต่างรับรู้ความต้องการที่แท้จริงต่อกันโดยวัตุประสงค์ทางทหารไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่เป็นประเด็นทางการเมืองที่มีที่มาจากประวัติศาสตร์ และการละเมิดพันธะสัญญาที่ตกลงกันไว้ในอดีต

@@@……การตัดสินตกลงใจของรัฐบาลยูเครนที่พาประเทศให้กลายเป็นแนวปะทะในสงครามเย็นใหม่ อาจถือเป็นการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง รวมทั้งการตัดสินใจแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการใช้กำลังของรัสเซีย ก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเช่นกัน .. ทั้งนี้ เชื่อว่า การขยายตัวเป็นสงครามขนาดใหญ่ไปกว่านี้ จะไม่เกิดขึ้น รวมทั้งการใช้กำลังทหารจากนี้ไป น่าจะลดความรุนแรงลงได้ เนื่องจาก ทุกฝ่ายต่างเข้าใจดีถึงต้นทุนที่ต้องจ่ายจากความสูญเสียทั้งชีวิตผู้คนในพื้นที่สู้รบ และทรัพย์สินที่เสียหาย รวมทั้งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และระบบพลังงานโลก .. นอกจากนี้ การที่ยูเครน พาตัวเองให้กลายเป็นแนวปะทะระหว่างมหาอำนาจ อาจส่งผลต่อความอยู่รอดของชาติ และสุ่มเสี่ยงต่อการสิ้นชาติอย่างมากในประเด็นความมั่นคง ซึ่งประเทศไทย ได้เคยเห็นตัวอย่างลักษณะนี้ และประสบกับสถานการณ์เช่นนี้ด้วยตัวเองมาแล้วเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมาในช่วงสงครามเย็นก่อนหน้านี้ 

@@@……ดังนั้น การวางตำแหน่งของไทยต่อวิกฤติรัสเซีย – ยูเครน ครั้งนี้ จึงควรเป็นการแสดงท่าทีในการส่งเสริมให้เกิดสันติภาพด้วยการเจรจาทางการทูตให้ลุล่วงโดยเร็ว การร่วมมือกับนานาชาติในภารกิจด้านมนุษยธรรม และการจัดเตรียมกำลังรักษาสันติภาพให้พร้อมไว้ รวมทั้งแสดงท่าทีเป็นกลาง และมุ่งดำเนินนโยบายพึ่งตนเองให้มากที่สุด กลายเป็นความจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ .. ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องต่อไป ..

 ……………

 คอลัมน์  : “Military Key”

 โดย …“รหัสมอร์ส”