วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSยุค“สิทธิ”อยู่เหนือ“จารีตสังคม” วิบากกรรมจึงตกอยู่กับพระสงฆ์
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ยุค“สิทธิ”อยู่เหนือ“จารีตสังคม” วิบากกรรมจึงตกอยู่กับพระสงฆ์

“เปรียญสิบ” เป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคล ภายใต้ “กฎหมาย” บวกด้วย “ความรับผิดชอบ” ต่อสังคม ซึ่งหมายถึง “จารีตประเพณี” ที่บรรพบุรุษพ่อแม่ปู่ย่าตายายของเราอบรมสั่งสอนกันมา 

ระยะหลายปีมานี้ระบบ “ทุนนิยม” ประเภท “ขาดความรับผิดชอบ” ต่อสังคม ไม่ใส่ใจต่อ วัฒนธรรมประเพณี กำลังกลายเป็นเชื่อ “มะเร็ง” คอยกัดความเชื่อและวัฒนธรรมประเพณีของประเทศไทยไปยังน่าใจหาย ตัวอย่างในอดีตไม่ต้องพูดถึงทั้งเรื่องการแต่งกายเลียนแบบพระการนำสัญลักษณ์ทางศาสนาไปทำอะไรที่ไม่บังควร นั่นเป็นเรื่องของอดีต

ยกตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีค้าร้านชาบูนำ “บาตร” ซึ่งถือเป็น 1 ใน 8 ที่เป็นของใช้สำหรับพระภิกษุในพระพุทธศาสนาที่เราเรียกว่า “อัฐบริหาร” หรือบางแห่งเรียกว่า “สมณบริขาร” นำไปใช้เป็นหม้อชาบู เรื่องแบบนี้หากร้านมี “จิตสำนึก” รับผิดชอบชั่วดี อันไหนรู้ว่า เหมาะ-ไม่เหมาะ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่า “บาตร” คือ ของใช้ในพระพุทธศาสนา เราควรเคารพสัญลักษณ์ศาสนา หากแม้ไม่เคารพ ก็ควร “เกรงใจ” สัญลักษณ์ทางศาสนาแบบนี้

หรือล่าสุด มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มีฉาก สามเณรกอดผู้หญิง แม้ผู้กำกับจะบอกว่า ผู้หญิงที่สามเณรกอดนั่นคือ แม่  ซึ่งหากมอบในทาง “เจตนา” ก็ไม่ผิดอะไรทางพระวินัย แต่หากเรายึด คำสั่งสอนของพระอุปัชฌาย์อาจารย์จากรุ่นสู่ รู้ว่า แม้จะเป็นโยมบรรดาก็จับต้องมิได้ ถือว่า “ไม่เหมาะ”

พระสงฆ์

“เปรียญสิบ” เห็นด้วยที่กองเซ็นเซอร์ “ตัดทิ้ง” ตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อมิให้หนังเรื่องอื่นเอาเยี่ยงอย่าง??

เดียวนี้สังคมไทยมักมี ชายก็ไม่ใช่ หญิงก็ไม่เชิง ประเภท “ครึ่งบก-ครึ่งน้ำ” แสดงความคิดเห็นโดยคำนึงถึง “สิทธิ” มากกว่า “จารีตประเพณี” หลายครั้งดูแล้วเลยเถิด และคนกลุ่มนี้ไปดูเถิดเป็นพวกพูดเก่ง กล้าแสดงออก สื่อติดต่อได้ง่าย ดีไม่ดีเป็นพวกเดียวกันกับสื่อบางรายการหรือบางพวกคือ “ตุ๊ด-เกย์” ด้วยกัน  

สังเกตหลายครั้ง คำตอบ และ คำพูด ไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีในความเป็น “คนวัด” หรือคนเคย “บวชเรียน” มาก่อน ทั้งๆ ที่บ้างเรื่องตอบไปแล้ว รู้อยู่แล้วว่า มันกระทบต่อ..ความเชื่อในพระพุทธศาสนา

และสื่อยุคนี้ก็แปลก แทนที่จะไปสอบถามพระผู้ใหญ่ พระนักวิชาการหรือนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ดันไปถาม “พวกเดียวกัน” และตั้งคำถามเหมือนต้องการ “ธงคำตอบ” ล่วงหน้าไว้แล้ว

อันนี้ไม่นับรวมการสร้าง “คอนเทนต์” ของสื่อโซเซียลบางสื่อบางกลุ่มที่ใช้ “สัญลักษณ์” ทางศาสนาไปเพิ่มยอดวิวยอดไลค์เพื่อจะได้เงิน ความโลภ ความอยากได้เงิน อยากมีชื่อเสียง ทำลาย สิ่งดีงาม ความเชื่อ จารีตประเพณี “จิตสำนึก” สิ่งดีงามไปเกือบหมดสิ้น สิ่งประการทั้งปวงเหล่านี้หากหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่จัดการ หากคณะสงฆ์และชาวพุทธปล่อยให้เรื่องเหล่านี้สะสมหมักหมมไปเรื่อย ๆ มันจะกัดกร่อนทำลายสถาบันหลักและสถาบันศาสนาไปทีละนิด ๆ   

ยุดนี้จึงถือว่าเป็นยุควิบากกรรมของคณะสงฆ์…แท้ ๆ

……………………..

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย…“เปรียญสิบ”: riwpaalueng@gmail.com

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img