เป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาทันที..หลัง คณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กำลังจะเสนอให้ มหาเถรสมาคม หาทางออก กรณีมีพระตุ๊ด-พระแต๋วมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมทั้งป้องกันมิให้กลุ่มคนรักร่วมเพศ พระเกย์ กะเทย เข้ามาบวช
เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ในวงการคณะสงฆ์ แม้คำว่า “บัณเฑาะก์” หรือ “คนสองเพศ” หมายความว่า ในตัวคนเดียวแต่มีอยู่สองเพศทั้งหญิงและชาย ถือเป็นข้อห้ามบวชตามพระธรรมวินัย
ซึ่งอาจจะไม่เข้าข่ายคำว่า พระตุ๊ด กะเทย หรือเกย์
แต่กลุ่มรักร่วมเพศ หรือ พระตุ๊ด กะเทย และเกย์ เป็นที่รับรู้กันว่า ในวงการสงฆ์คณะสงฆ์..มีอยู่เป็นจำนวนมาก
ซึ่งเรื่องนี้ “คนเสนอ” ที่เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการศาสนาฯ ในฐานะคน “เชียงใหม่” คงรับรู้ข้อมูลได้เป็นอย่างดี
“เปรียญสิบ” เคยพูดมานานแล้วว่า ปัญหาเรื่องนี้คณะสงฆ์ต้องหาทางออกและแก้ไข
เพราะพระตุ๊ดแต๋วหรือเกย์บางรูป ต้องยอมรับ “สร้างปัญหา” ให้กับวงการคณะสงฆ์จริง ๆ
โดยเฉพาะชอบแสดงออกทาง “สื่อสาธารณะ” และมี “พฤติกรรมไม่เหมาะสม”
แต่ขณะเดียวกันมีคนประเภทนี้หลายรูปที่เข้ามาบวชแล้ว..เป็นพระเณรที่ดีในวงการคณะสงฆ์ ช่วยกิจการพระพุทธศาสนาได้มาก ก็มีเป็นจำนวนมาก
“เปรียญสิบ” คงไม่ต้องบอกว่า เจ้าคณะภาค, เจ้าคณะจังหวัด รูปไหน เป็นตุ๊ด เป็นเกย์ หรือ มีพฤติกรรม “อีแอบ” แบบไหน
เป็นเอาว่า..เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมาธิการศาสนา แต่มิใช่ทั้งหมด
แค่ป้องกันและปรามเป็นพอ..ไม่ถึงกับห้ามบวชหรือเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสังคมคณะสงฆ์
ซึ่งเรื่องนี้ในวงการคณะสงฆ์..ก็ต้องป้องกันด้วย มิใช่ให้คนพวกนี้เข้ามามีบทบาทในกิจการคณะสงฆ์ จนสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับสังคมพระสงฆ์เรา
โดยเฉพาะเจ้าคณะจังหวัดบางจังหวัด ต้องมิให้คนกลุ่มนี้เข้ายุ่มย่ามงานวัด กิจการคณะสงฆ์จนกลายเป็น “แหล่งซ่องสุม” ทำสิ่งที่ไม่ดีงาม
ส่วนวัดเป็นที่ทราบดีว่า “บางวัด” มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ “ทั้งวัด”
การป้องกันและปรามทั้งพฤติกรรมและคำพูดที่ลงท้ายแบบ “ฆราวาส” รวมทั้งใช้สัพนามแทนตัวเองว่า “ผม” หรือ “ฉัน” ไม่ใช้คำว่า “อาตมา” หรือ “อาตมภาพ”
ปรากฏมีอยู่เยอะจริง ดังคำปรารภของ “กมธ.ศาสนา”
เรื่องนี้แก้ไม่ยาก..เพราะแค่คำพูด
แต่ที่แก้ยาก..คือ กลัวมีพระตุ๊ด พระแต๋ว หรือ พระเกย์ ซ่องสุม จัดหาเด็กหนุ่ม ๆ หรือลวนลามลูกหลานชาวบ้านมากกว่า..
หากเจอคนกลุ่มนี้ ทางออกมีทางเดียวคือต้อง “จับสึก” ให้หมด
……………….
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย….“เปรียญสิบ” : riwpaalueng@gmail.com
