วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSเปิดโปงขบวนการ“ทุนสีเทา” ถอดรหัส “ชูวิทย์”ได้แบ็คดีหรือมีใบสั่ง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เปิดโปงขบวนการ“ทุนสีเทา” ถอดรหัส “ชูวิทย์”ได้แบ็คดีหรือมีใบสั่ง

บรรดานักรบในห้องแอร์หรือนอกห้องแอร์พรรคเพื่อไทย (พท.) คงนึกไม่ถึง ไม่อยากเชื่อปม “ตู้ห่าว” หรือชื่อไทย “ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์” นักธุรกิจชาวจีน ที่ได้สัญชาติไทย ซึ่งถูกกล่าวหา พัวพันธุรกิจสีเทาๆ ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย  กลายเป็นข่าวดังติดหน้าสื่ออย่างต่อเนื่องจาก จะเข้ามาพัวพันกับพรรคและเครือข่ายตนเองไปได้

ทั้งๆที่ช่วงแรกสมาชิกแกนนำพรรคฝ่ายค้านบางคน อาจตีอกชกตัวด้วยความดีใจ หลังมีข่าว “ตู้ห่าว” บริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 3 ล้านบาท จนทำให้มีการนำเรื่องไปยื่นร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่า เป็นธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย รับเงินจากชาวต่างชาติจริง บทลงโทษถึงขั้นแรงต้องยุบพรรค

แม้กระทั่ง “เต้น-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ซึ่งสวมบท ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ยังออกมารับลูก ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ในชื่อเรื่อง “หัวใจไม่หยุดเต้น EP.58” พุ่งเป้าไปที่ “เครือข่ายตู้ห่าว” หวังต้องการให้สังคมเข้าใจว่า อำนาจฝ่ายบริหารปัจจุบัน อาจเข้าไปมีส่วนช่วยเหลือธุรกิจสีเทา เพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางอย่าง

“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงภาพย้อนหลังไปเราจะเห็นว่า “ตู้ห่าว” คนนี้ นอกจากทำมาหากินสีเทาใต้ดินแล้ว ยังเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้บริจาคเงินเข้าบัญชี มีหลักฐานในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เฉพาะที่มีหลักฐานก็สามล้านนะครับ แล้วใครจะกล้าฟันธงมั้ยว่าไม่มีการให้กันนอกระบบ ไม่มีการเติมเงินให้พรรคการเมืองนี้เอาไปใช้จ่ายในสนามเลือกตั้ง”

นี่ไงครับ! คนพวกนี้ถึงเข้ามาก่อการอยู่ในประเทศไทยได้ แล้วพอพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลมาสามปีกว่าๆ ที่เพิ่งด่ากันจบไปหยกๆ ไงครับ กรณีรัฐบาลจะแก้ประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ 1 ล้านดอลลาร์ แล้วซื้อที่ดินได้ 1 ไร่ ถ้าผ่านไปบังคับใช้ ใครครับจะมาก่อน? ก็คนพวกนี้ไงครับ

ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม หมู่บ้านหรูๆ หลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ราคา 30 ล้าน 60 ล้าน 100 ล้าน คนพวกนี้ยกโขยงกันมาซื้อยกโครงการ ที่ซอยลาซาล หมู่บ้านมี 66 หลัง เครือข่าย “ตู้ห่าว” และพวก ซื้อไปแล้ว 50 หลัง โดยนอมินีเป็นคนไทย คอนโดบางแห่งซื้อยกชั้น ยกสองชั้น ยกสามชั้น

บ้านเดียวบางหลังราคา 100 ล้าน ใช้นอมินีคนไทย ไปเป็นผู้ซื้อนี่ถ้าชาวบ้านไม่ช่วยกันด่า เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเครือข่ายทุนสีเทานอกระบบเหล่านี้จะครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ในประเทศไทยไว้มากมาย ก็ให้นอมินีคนไทยซื้อต่อๆ กัน คนละไร่ๆ 50 ไร่ 100 ไร่ เขาทำได้!”

ใครเห็นท่าที ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย คงมองออกว่า ต้องการขย่มฝ่ายตรงข้าม แต่น่าเสียดายดันทำการบ้านน้อย ตามข้อมูลไม่สุด แทนที่จะทำให้เป้าหมายเสียรังวัด กลับถูกย้อนศร จนต้องปรับเกมแก้ตัวไม่ทัน

ขณะที่ปมต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา “ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” อดีตนักการเมือง ซึ่งทำธุรกิจคนกลางคืน มีสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลหลากหลายอาชีพ ออกมาเล่นบทหมูไม่กลัวน้ำร้อน เดินหน้าเปิดโปงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกเรื่องมีน้ำหนัก มีข้อมูล หลายเรื่องถูกตรวจพบเป็นข้อเท็จจริง มีการขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังนำหลักฐานไปมอบให้ “สองบิ๊กสีกากี” ที่มีโอกาสก้าวไปนั่งในตำแหน่ง “ผบ.ตร.ในอนาคต” คือ “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผบ.ตร. และ “บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” รองผบ.ตร. จนมีการตรวจค้นและอายัดทรัพย์สินของนอมินี “ตู้ห่าว” อย่างต่อเนื่อง เหมือนต้องการพิสูจน์การทำงานของสองนายตำรวจดัง จะมีความกล้าหาญกับการตรวจสอบปมร้อนหรือไม่

ซึ่งผลพวงจากเปิดเผยข้อมูลของ “ชูวิทย์” ทำให้สังคมรับรู้ว่า การได้สัญชาติไทยของ “ตู้ห่าว” เกิดขึ้นจากการอนุมัติ และให้ความเห็นชอบในสมัย “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” อดีตหัวหน้าพรรคพท. ขณะดำรงตำแหน่งรมว.มหาดไทย ใน รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนักธุรกิจคนดังยังถูกตรวจพบว่า เป็นหลานเขยของ “อดีตผบ.ตร.-อดีตรองนายกฯ” ของฝ่ายบริหารชุดเดียวกัน   

อีกทั้งผลพวงจาการตรวจสอบ ที่กลายเป็นเป็นข่าวคราวใหญ่โต เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้น หนีไม่พ้นกรณีหมู่บ้าน “แกรนด์ บางกอก บูเลอร์วาร์ด” ซอยลาซาล สุขุมวิท ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท เอสซี แอสเสท ของ “ตระกูลชินวัตร” มีทั้งหมด 66 หลัง โดยขายหลังละ 35-50 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งถ้าคำนวณเป็นเงินสด หากขายหลังละ 50 ล้านบาท ก็จะอยู่ในวงเงิน ประมาณ 2,500 ล้านบาท 

เกิดเป็นคำถามและมีเสียงวิจารณ์ตามมา เงินก้อนนี้ที่นำมาซื้อ มีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นกระบวนการต่างแทน ที่เกี่ยวข้องกับได้สัญชาติไทยของ “ตู้ห่าว” หรือไม่

สำหรับ “บริษัท เอสซี แอสเสท” เป็นบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ถือหุ้นประกอบด้วย “แพทองธาร ชินวัตร” เจ้าของ นโยบายแลนด์สไลด์ เพื่อหวังพาพ่อกลับบ้าน 28.82%, “พิณทองทา ชินวัตร” ภรรยาของ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ประธานบริหาร 27.89%, “บรรณพจน์ ดามาพงศ์” พี่ชายคุณหญิงพจมาน 4.77% และ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร 2.78%  รวมแล้วเฉพาะครอบครัวชินวัตร ถือหุ้นในบริษัท เอสซี แอสเสทฯ รวมกว่า 64% ดังนั้นธุรกรรมของทุนสีเทากับโครงการตระกูล “ชินวัตร” จึงมีคำถามตามมา

แม้จะมีคำชี้แจงจาก “สมบูรณ์ คุปติมนัส” เลขานุการบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกเอกสารชี้แจงมีเนื้อหาว่า บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีข่าวเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทา ตามที่มีการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทากว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทนั้น บริษัทใคร่ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า

1) บริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี โดยยึดหลัก ไม่กระทำผิดกฏหมาย บ้านทุกหลังในทุกโครงการ ขายให้เฉพาะคนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น

2) ในการซื้อขายบ้านพร้อมที่ดิน บริษัทกำหนดให้ผู้ซื้อจะต้องชำระเงินผ่านธนาคารเท่านั้น

3) ผู้ถือหุ้นบริษัทไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการซื้อขายบ้านของบริษัทในทุกกรณี 

แต่ “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” นักวิชาการชื่อดัง ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า…คนไทย 50 คนซื้อบ้าน รับโอนจากบริษัทอสังหาฯ แล้วมีคนจีนต้องการซื้อต่อ ปรากฏว่าคนไทยทั้ง 50 ราย พร้อมใจกันขายให้คนจีนทั้ง 50 คนเลย ฟังดูอัศจรรย์มากเลยนะคะ เจ้าของโครงการที่เป็น “ลูกเจ้าของคอก” ยังเงียบอยู่ ไม่พูดอะไรเลย เพราะกรณีนี้ “งานเข้าจริงๆ” ยากที่จะหาคำอธิบายใดๆ มาชี้แจง ว่าทำไมคนต่างชาติจึงเป็นลูกค้าซื้อบ้าน ทั้งๆ ที่กฎหมายไม่อนุญาต

ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ คนของตนเองดันออกมาพูดยืนยันว่า เรื่องที่พูดกันเป็นเรื่องจริง จนมีคนหลายคนเชียร์ให้ขุดต่อ อย่าได้หยุด ขุดให้เต็มที่ไปเลย

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ

ตามมาด้วย “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” นักร้องเรียนชื่อดังอีกคนหนึ่ง ออกมาเปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึง สำนักงานคณะกรรมการกราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบบัญชีเงินลงทุนของ “ศราวุธ เพชรพนมพร” ส.ส.อุดรธานี พรรคพท. กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 ว่า ได้ยื่นบัญชีเงินลงทุนในบริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด ของนางนุดีพร เพชรพนมพร มูลค่า 7,500,000 บาท โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวเป็นหนึ่งในธุรกิจของ “ตู้ห่าว” และมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง และมีภรรยาของเขามีหุ้นในลำดับต้นๆ อยู่ด้วย

เรืองไกร กล่าวอีกว่า จากข้อเท็จจริงตามข่าว เมื่อย้อนไปตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายศราวุธ เพชรพนมพร ที่ยื่นต่อป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งส.ส. พรรคพท. เมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 ซึ่งแจ้งชื่อคู่สมรส คือ นางนุดีพร เพชรพนมพร ในส่วนเงินลงทุนมีการแจ้งไว้เพียง 4 รายการ แต่ไม่มีการแจ้งรายการเงินลงทุน บริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด ในชื่อของนางนุดีพร เพชรพนมพร ไว้แต่อย่างใด

เช่นเดียวกับ “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ไต่สวนเอาผิดนักการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งของพรรคการเมือง ที่เข้าไป เกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา เข้าข่ายฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่ห้ามไม่ให้พรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง กระทำการหรือส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวน หรือคุกคามความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน

“สมาคมฯเห็นว่า ไม่อาจจะปล่อยให้ทางตำรวจดำเนินการตรวจสอบทางคดีอาญา และนอมินีเพียงฝ่ายเดียว ในส่วนนักการเมืองหรือพรรคการเมือง ต้องมีส่วนเข้ามารับผิดชอบ ในเรื่องนี้โดยตรง จึงเป็นอำนาจของ กกต.ที่มีหน้าที่ดูแลกำกับพรรคการเมือง จะต้องดำเนินการไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วย แล้วหากพบว่ามีความผิด โดยมีนักการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง และพรรคการเมืองเกี่ยวข้องจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเพื่อยุบพรรค ตามมาตรา 92 (3)”

งานนี้ต้องยอมรับ “ชูวิทย์” รับเครดิตไปเต็มๆ ในฐานะเป็น “ต้นเรื่อง” กับการ “เปิดโปงขบวนการทุนสีเทา” ถึงขนาด “กระทรวงยุติธรรม” มอบตำแหน่งให้เป็นที่ปรึกษาเลขาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพคิด (ป.ป.ส.) รวมทั้งยังมมอบเข็มเชิดชูเกียรติ ยุติธรรมธำรง หลังร่วมแจ้งเบาะแสยาเสพติด ซึ่งถ้าหากใครติดตามดูข้อมูลต่างๆ ที่อดีตนักการเมืองชื่อดังนำมาเปิดเผย คงเชื่อว่า “จอมแฉคนดัง” คงไม่ได้ทำตามลำพังแน่ ต้องมี “ทีมงานชุดใหญ่” หรืออาจมี “ผู้มากบารมี” ให้การหนุนหลัง อันเนื่องมาจากคอนเนคชั่นที่มาแต่ในอดีตอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่า คนกลุ่มไหนจะเป็นเป้าหมายในการถูกเปิดโปง พรรคการเมืองไหนจะได้รับผลดี ได้ประโยชน์ จากผลพวงของการจากการตีแผ่ครั้งนี้ แม้บางคนอาจมองยาก เนื่องจากะสองพรรคการเมืองใหญ่ได้รับผลกระทบทั้งคู่ แต่บทสรุปสุดท้าย เชื่อว่า ใครก็มองคำตอบออก

……………

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย… “แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img