วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSหมดสภาพ-ทนไม่ไหว? “เพนกวิน-พวก” ยอมรับเงื่อนไขศาล
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

หมดสภาพ-ทนไม่ไหว? “เพนกวิน-พวก” ยอมรับเงื่อนไขศาล

ถือเป็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมาย เมื่อ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกมาเปิดเผยจุดยืน แกนนำราษฎร ที่ใช้สัญลักษณ์ชูสามนิ้วในการเคลื่อนไหว ต่อการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหลังศาลอาญานัดสวนคำร้อง ขอปล่อยตัวชั่วคราววันที่ 6 พ.ค.นี้

บรรดาฮาร์ดคอร์ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน”, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” และ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบอตทอมบูลส์” ซึ่งใครติดตามการทำกิจกรรมนักเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มนี้ จะรับรู้ว่า นอกจากข้อเรียกร้อง 3 ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2.ต้องยกร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.) ฉบับใหม่ ผ่านกระบวนการการสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) 3.ต้องมีการปฏิรูปสถาบัน

การทำกิจกรรมหลายครั้ง “เพนกวิน” และพวก มักปราศรัยพาดพิงสถาบัน ใช้คำพูดรุนแรงและหยาบคาย จนถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดสถาบัน ตามฐานความผิดกฎหมายอาญามาตรา 112  โดยเฉพาะ “นายแอมมี่” ถึงขั้นก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ และหลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ จนถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ที่ผ่านมานายแอมมี่และพวก พยายามยื่นประกันตัวหลายครั้งหลายหน แต่ศาลอาญาไม่อนุญาต

ก่อนหน้านี้เครือข่ายแกนนำสามนิ้ว “สมยศ พฤกษาเกษมสุข”, “จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา” หรือ “ไผ่ ดาวดิน”, “ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม” หรือ “หมอลำแบงค์” ซึ่งถูกจองจำด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นประกันตัว และยอมรับเงื่อนไขต่อศาล หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จะไม่กล่าวพาดพิงถึง สถาบันพระมหากษัตริย์อีก

ขณะที่ “กฤษฎางค์ นุตจรัส” ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมที่ศาลจะมีการไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เพนกวิน, รุ้ง และ แอมมี่ ว่า จะไต่สวนให้ศาลเห็นว่าจำเลยคดีนี้เป็นคดีเดียวกับนายสมยศ และนายจตุภัทร์ ที่ได้ประกันไปก่อนหน้านี้ จึงสมควรได้รับการประกันตัวเช่นกัน ซึ่งเรายอมรับในเงื่อนไขที่ศาลเคยออกข้อกำหนดไว้กับนายสมยศและนายจตุภัทร์

คือห้ามมิให้จำเลยทั้งสองทำกิจกรรม ที่จะทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นได้รับอนุญาต และให้มาศาลตามนัด ซึ่งได้แจ้งลูกความทั้งหมดแล้ว ทุกคนบอกว่า ถ้าเงื่อนไขแบบนายสมยศกับนายจตุภัทร์ทุกคนรับได้ จากนี้เมื่อถึงเวลาไต่สวน จำเลยก็จะยืนยันเกี่ยวกับเรื่องปฏิบัติตามเงื่อนไขให้ศาลได้ฟังเอง โดยหลักทรัพย์ที่เราเตรียมไว้เป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาท

คำให้สัมภาษณ์ของทนายความ ซึ่งดูแลคดีความให้แกนนำสามนิ้ว สร้างความแปลกใจ ให้ใครหลายคน เนื่องจากที่ผ่านมา แกนนำสามนิ้วฮาร์ดคอร์ แสดงอาการต่อต้านกระบวนยุติธรรม ใช้วิธีอดอาหาร ไม่ยอมรับกระบวนการพิจารณาคดี  โดยเฉพาะ “เพนกวิน” เคยแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในระหว่างการพิจารณคดี จนถูกศาลตัดสินลงโทษมาแล้ว

อีกทั้งแกนนำราษฎรซึ่งถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ในคดีกฎหมายอาญามาตรา 112 มักไม่ยอมรับเงื่อนไขต่อศาล  โดยเฉพาะเรื่องการไม่พูดจาพาดพิงสถาบัน รวมถึงนักวิชาการและแนวรวมสามนิ้ว ต่างก็ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า การปล่อยตัวต้องไม่มีเงื่อนไข ดังนั้นการที่เพนกวิน และพวกประกอบด้วย รุ้ง และแอมมี่ ย่อมมีข้อสงสัยและมีคำถามเกิดขึ้น ทำไมเปลี่ยนท่าที่ยอมรับเงื่อนไข ไม่พูดพาดพิงสถาบันอีก

หรือจะเกี่ยวข้องกับ แถลงการณ์ของสำนักงานศาลยุติธรรม เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 64 หลังผู้ชุมนุมกลุ่มรีเดมชุมนุมหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ตอนหนึ่งระบุว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นบริเวณศาลอาญาเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่บุคคลจำนวนหนึ่งใช้ความรุนแรงด้วยการขว้างปาสิ่งของ ใช้เครื่องมือยิงวัสดุเข้ามาในอาคารศาล การใช้วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง จนเกิดความเสียหาย ความรุนแรงและไม่สงบขึ้นนั้น

เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH

นอกจากจะเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาลอาญา ถือไม่ได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นในระบอบประชาธิปไตยและอันเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบธรรมภายในกรอบของกฎหมาย

อีกทั้งยังมีลักษณะของการก้าวล่วงใช้ความรุนแรงเพื่อแทรกแซง โดยหวังผลให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาไปในทางหนึ่งทางใด ตามที่กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงมุ่งประสงค์ โดยไม่ต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์ของกฎหมาย อันเป็นการมุ่งทำลายความอิสระของตุลาการตามรัฐธรรมนูญ  

นอกจากการใช้ความรุนแรงดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันยังมีพฤติกรรมทำนองขู่เข็ญและสร้างความหวาดกลัวไม่เพียงแก่บุคลากรในศาลยุติธรรมเท่านั้น หากแต่ยังมีการขู่เข็ญและสร้างความหวาดกลัวไปยังบุคคลในครอบครัวของผู้พิพากษาและบุคลากรในศาลยุติธรรมด้วย ทั้งๆ ที่บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาพิพากษาคดีแต่อย่างใด พฤติกรรมดังกล่าวที่มีการกระทำในลักษณะเป็นขบวนการ ใช้สื่อโซเชียลต่างๆ

เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH

ล้วนมุ่งหวังให้เกิดผลในทำนองเดียวกับการใช้ความรุนแรงข้างต้น ที่ต้องการให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดี หรือมีคำสั่งในทางที่ตนเองหรือขบวนการของตนต้องการ โดยไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ของกฎหมาย จึงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็น หรือการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญอันชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย

ในการนี้ สำนักงานศาลยุติธรรม จึงขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้ตรวจสอบการกระทำและพยานหลักฐานที่ปรากฏ หากมีการกระทำใดที่เป็นการละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอน และกระบวนการของกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็น และใช้เสรีภาพของตนอย่างสันติ ด้วยความสงบ และงดเว้นการกระทำใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิต เป็นภยันตรายแก่ร่างกาย หรือสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินไม่ว่าของส่วนบุคคลหรือของทางราชการ และให้การดำเนินกระบวนพิจารณาต่างๆ ดำเนินไปตามครรลองของกฎหมาย ที่มีการตรวจสอบและถ่วงดุลตามที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ยื่นคำร้องคดีละเมิดอำนาจศาล รวม 3 ชุด กล่าวหา น.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 22 ปี, นายณัฐชนน ไพโรจน์ อายุ 21 ปี สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง อายุ 28 ปี แกนนำกลุ่มราษฎรนนทบุรี ฐานประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล และกระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญา ว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลอาญา พ.ศ.2564  

ถ้าใครติดตามเครือข่ายของม็อบสามนิ้ว จะมีการใช้ปะโยชน์ทางโซเชียล เพื่อดึงคนให้เข้ามารวมกิจกรรม อย่างเช่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก – Free YOUTH ได้มีการจัดตั้งกลุ่มรีเด็ม ม็อบหัวรุนแรง และโพสต์ข้อความปลุกระดม บงการและชี้นำในการชุมนุมตามเวลาและสถานที่เป้าหมายต่างๆ ซึ่งแต่ละครั้งจะมีการใช้ความรุนแรงเข้าปะทะเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน

FB / iLaw

ผลงานล่าสุดคือ การทำกิจกรรมเมื่อวันที่ 2 พ.ค. บริเวณหน้าศาลอาญา จนนำมาสู่การออกแถลงการณ์จากสำนักงานศาลยุติธรรม เพราะกลุ่มรีเด็มใช้ความรุนแรงด้วยการขว้างปาสิ่งของ ใช้เครื่องมือยิงวัสดุเข้ามาในอาคารศาลอาญา ทั้งการใช้วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง ขว้างปาสิ่งของทั้งไข่ พลุ ก้อนหิน ประทัดยักษ์ และหัวน็อต จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนาย

เมื่อ “เพนกวิน” และพวก ตัดสินใจยอมรับเงื่อนไข ถ้าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว จะไม่พูดพาดพิงสถาบันอีก ก็ต้องรอดูว่า จะทำได้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่หาช่องลอดทางกฎหมาย เพราะยิ่งวันเข้าเป้าหมายยิ่งใกล้เรือนจำเข้าไปทุกที

…………………………………

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย….“แมวสีขาว”    

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img