วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“3 ป.” เล่นบทสงครามตัวแทน!! “พปชร.”ระส่ำ-“รัฐบาล”สะเทือน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“3 ป.” เล่นบทสงครามตัวแทน!! “พปชร.”ระส่ำ-“รัฐบาล”สะเทือน

ใครตามการเมือง อาจเปรียบเทียบสถานการณ์ “พรรคพลังประชารัฐ” (พปชร.) เหมือนผิวน้ำที่ราบเรียบ  แต่ภายใต้ความราบเรียบ ก็มีความแปรปรวนซุกซ่อน ยิ่งคนบางกลุ่มพยายามสร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้นในบิ๊กบราเธอร์ ซึ่งถูกขนานนามว่า  “3 ป.”

หลังมีข่าวการจัดตั้งพรรคใหม่ๆ ที่ถูกสร้างให้เป็นทางเลือกของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี อยู่อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดความสัมพันธ์ ต้องถึงขั้นแตกหักกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในทางการเมืองย่อมถูกขยายผล ย่อมถูกตีความ 

แม้กระทั่ง “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” อดีตนายกรัฐมนตรี ยังใช้เวลาระหว่างสนทนาในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา กล่าวถึงกล่าวถึงพรรคใหม่ของ “นายกฯลุงตู่” โดยระบุว่า “ไทยสร้างสรรค์…ชื่อ คล้ายๆ ไทยสร้างไทย อยู่นะครับ” และว่า “ผมได้ข่าวว่าคนตั้งพรรคไทยสร้างสรรค์ คือ ปลัดฉิ่ง (เฉลิม พรหมเลิศ  อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย)”  

เมื่อผู้ดำเนินรายการ สอบถามว่า คิดเห็นอย่างไร หลังจากที่มีนักข่าวไปถามนายกฯ ว่าจะไปตั้งพรรคใหม่หรือเปล่าแล้วนายกฯเงียบ โทนี่ ได้กล่าวตอบว่า “โดยกฎหมายบอกว่า การนิ่งเฉย ถือเป็นการยอมรับ”

และเมื่อถามถึงพรรคใหม่นั้น โทนี่ กล่าวต่อว่า ผมคิดว่า ท่านถนัดขึ้นชิงช้า คือให้คนโล้ให้ แล้วนั่งชิงช้า ไม่ค่อยถนัดทำเองหรอก สมมติว่า พรรคไทยสร้างสรรค์ พปชร. ต่างคนต่างทำไป ไม่รู้ว่า 2 พรรคเสนอชื่อนายกฯคนเดียวกันได้หรือเปล่า ถ้าตั้งใหม่ มันน่าจะเหนื่อยหน่อย เพราะ brand awareness คือ ความรับรู้ของชื่อพรรค ยังไม่สูงนัก ผลสุดท้ายในที่สุด การเลือกตั้ง คาริสม่าของผู้นำพรรคก็มีส่วน ต้องได้ผู้นำที่มีคาริสม่า

ทักษิณ ชินวัตร

จริงๆ ไม่ใช้เรื่องแปลก กับท่าที “โทนี่” กรณีออกมาวิจารณ์หัวหน้ารัฐบาล อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ทำให้ “นายทักษิณและพวกพ้อง” ต้องหลุดจากอำนาจ เลยยังเจ็บแค้น เมื่อมีโอกาสก็ย่อมหาช่องทางดิสเครดิต จ้องทำลายฝ่ายตรงข้าม เพราะมีผลต่อการเลือกตั้งในอนาคต แต่จะว่าไปท่าทีหัวหน้ารัฐบาล กรณีมีกลุ่มคนตั้งพรรค ขึ้นมาสนับสนุน เพื่อชิงเก้าอี้นายกฯครั้งที่สาม ก็ดูคลุมเครือชอบกล ไม่ตอบรับตอบปฏิเสธ ย่อมถูกตีความไปต่างนานา ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา 

ลองขนาด “บิ๊กป้อม” ซึ่งใครติดตามข่าวสารการเมือง ก็คงจะเห็นว่า ไม่ค่อยตอบข้อซักถาม สื่อมวลชนแบบยาวๆ แต่พอถูกถามเรื่อง “น้องเล็กของ 3 ป.” จะไป ตั้งพรรคการเมืองใหม่  “พี่ใหญ่ 3 ป.” ยังออกมาให้ความเห็นแบบเป็นเรื่องเป็นราว เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ อาจไปอยู่กับพรรคไทยสร้างสรรค์ โดย พล.อ.ประวิตรตอบด้วยเสียงดัง “พล.อ.ประยุทธ์มีอยู่พรรคเดียว นายกฯ จะไปตั้งพรรคอะไร ไม่ไปหรอก และจะมาเมื่อไหร่ก็มาเลย เรื่องนี้ให้ไปถามคนออกข่าว”

ส่วนคำถามว่า เตรียมใบสมัครไว้ให้พล.อ.ประยุทธ์แล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นายกฯจะสมัครทำไม เพราะพรรคพปชร. สนับสนุนอยู่แล้ว นายกฯไม่ต้องมาเป็นสมาชิกพรรค จะมาเป็นทำไม เราอยู่กับนายกฯ อยู่แล้ว ไปออกข่าวกันเอง ไปพูดกันเอง ให้ไปถามคนปล่อยข่าวแล้วมาบอกด้วย เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่มีการไปตั้งพรรคสำรองเตรียมไว้ให้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่มี มีพรรคเดียวก็จะเอาตัวไม่รอด

ท่าที “พล.อ.ประวิตร” คงต้องการส่งสัญญาณไปถึง “พล.อ.ประยุทธ์” ให้รู้ว่า พรรคแกนนำรัฐบาลยังสนับสนุนนายกฯอยู่ การแยกตัวออกไป จะส่งผลกระทบกับ “พปชร.” ทั้งเรื่องจำนวนส.ส. และเงินทุนที่จะได้รับการสนับสนุน ส่งผลเสียต่อการเลือกตั้ง และกระทบความสัมพันธ์ของ “3 ป.” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา-ฉัตรชัย พรหมเลิศ

อีกทั้งการจุดประเด็นข่าวการจัดตั้ง “พรรคไทยสร้างสรรค์” มีแกนนำ กปปส.ที่เคยทำงานอยู่ใน พปชร. รวมทั้ง “ปลัดฉิ่ง” ซึ่งมักมีข่าวเป็นตัวละครสำคัญ ในการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นระยะๆ รวมทั้งอดีตนายตำรวจใหญ่บางคน แม้ข่าวเรื่องนี้จะจางหายไป แต่ก็ยังไม่มีใครกล้ารับลูก ไม่มีใครออกมารับสมอ้าง 

บางทีอาจเกี่ยวข้องกับชะตากรรม “บิ๊กมีสี” เมื่อเล่นบทเหยียบเรือสองแคม ในช่วงการเคลื่อนไหวให้มีการปรับเปลี่ยน กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรคแกนนำรัฐบาล เป้าหมายเพื่อล้างเครือข่ายของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคพปชร. ให้ไร้พลัง มีอำนาจต่อรองน้อยที่สุด

แต่ในเมื่อพี่ใหญ่แห่ง “บูรพายัคฆ์” ยังเลือกปกป้องผู้กองคนดัง ชะตากรรมของ “อดีตบิ๊กมีสี” ซึ่งมีอำนาจชี้นำ กก.บห. บางคน ก็เลยต้องอดลุ้นชิงตำแหน่งสำคัญ ไม่ได้รับการสนับสนุน อย่างไรก็ตามการซื้อใจหัวหน้ารัฐบาล ในประเด็นเรื่องร้อนๆ ที่ผ่านพ้นไป อดีตนายตำรวจคนดังอาจได้รับอานิสงส์ มีลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี  หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกิดขึ้นในอนาคต เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ ทั้ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ รมช.แรงงาน ซึ่งทั้งสองตำแหน่ง ถือเป็นโควต้าของ “พล.อ.ประวิตร” ซึ่งจะขยายรอยร้าวของ “3 ป.” ให้เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ  

มาถึงวันนี้ “ร.อ.ธรรมนัส” และ “น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ก็ยังเดินเคียงข้างหัวหน้าพรรคพปชร.ไปยังพื้นที่ต่างๆ ในฐานะคนที่ได้รับความไว้วางใจ ทั้งๆ ที่เคยถูกดดันจากแกนนำกลุ่มต่างๆ ในพรรค ให้ลดบทบาทผู้กองคนดัง แต่ก็ไม่ทำให้ “บิ๊กป้อม” ต้องจำยอมรับต่อกระแสกดดันที่เกิดขึ้น เลยทำให้สถานการณ์ของพรรคแกนนำรัฐบาล มีความไม่แน่นอน ในอนาคตจะเป็นพรรคใหญ่ หรือแปลงสภาพเป็นพรรคขนาดกลาง เพื่อรอเข้าร่วมรัฐบาล

แกนนำกลุ่มสามมิตรบางคนถึงกับปรารถว่า หากยังปล่อยให้ “ร.อ.ธรรมนัส” มีบทบาทในพรรคมากกว่าคนอื่นๆ ในอนาคต “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งดูแลกลุ่มสามมิตร อาจตัดสินใจนำพาส.ส. ประมาณ 30 กว่าชีวิต ย้ายออกจากพรรค เพื่อไปหาแหล่งพักพิงใหม่ หรือขอกลับไปทำงานร่วมกับ “พรรคเพื่อไทย” (พท.) ซึ่งเชื่อว่าบีไฮน์เดอะซีน ที่อยู่เบื้องหลังแกนนำพรรคฝ้ายค้าน ก็พร้อมอ้าแขนรับ เพราะในทางการเมืองใครก็รู้ รมว.อุตสาหกรรม เป็นคนใจถึง มือหนัก ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของส.ส.กลุ่มสามมิตรมาตลอด

แกนนำกลุ่มสามมิตร

ช่วงที่ผ่านมา “นายสุริยะ” และพวก ก็เล่นบท คนดีไม่มีเคยตีรวน แม้จะผิดหวังกับกับการไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแล “กระทรวงพลังงาน” ไม่ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งสำคัญในพรรค เคยเล่นบทเลือกข้างในช่วง “พล.อ.ประยุทธ์” เผชิญวิกฤติการเมืองครั้งสำคัญ ดังนั้นทั้งความจริงใจและเงินทุน หากมีการยุบสภาฯเกิดขึ้น เชื่อว่าพรรคการเมืองไหน ก็พร้อมอ้าแขนรับ “กลุ่มสามมิตร”

หรือเมื่อไม่นานมานี้ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพปชร. เพื่อนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 12 ของพล.อ.ประยุทธ์ ออกมาชี้แจงสาเหตุ ที่ย้ายเข้าสังกัดพรรคกล้า ว่า พรรคพปชร.อยู่แบบนี้อยู่ยากมากในการเลือกครั้งหน้า เพราะทิ้งสมาชิกเก่าหมด ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ คิดว่าจะไม่มี ส.ส.พรรคพปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่คู่แข่งทางการเมืองในภาคใต้

ขณะที่ “พล.อ.ประวิตร” ตอบคำถามนักข่าว กรณี “พ.อ.สุชาติ” ย้ายไปสังกัดกัดพรรคกล้าว่า ขอให้ไปถามพ.อ.สุชาติเอง ส่วนจะส่งผลกระทบต่อความสั่นคลอนภายในพรรคหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มีผล ก่อนระบุต่อว่า “ย้ายแล้วทำไมล่ะ ย้ายก็ย้ายไปสิ”

ท่าทีดังกล่าว มีบางคนตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นเพราะหัวหน้าพรรคพปชร. ไม่พอใจพ.อ.สุชาติ หลังออกมายืนยันจับมือ “ปลัดฉิ่ง” จัดตั้งพรรคใหม่พร้อมชูจุดขาย “นายกฯลุงตู่” โดยมองว่า เหมือนจะมาทำลายบรรยากาศ ระหว่างพี่น้อง 2 ป. ที่กำลังไปได้สวย แต่กลับจะนำส.ส.พรรคพปชร.พื้นที่ภาคใต้ ไปซบอกพรรคของปลัดฉิ่ง ซึ่งเป็นการ หักหน้าพล.อ.ประวิตร ที่นั่งเป็นหัวหน้าพรรคอยู่

บางทีปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับ 3 ป. อาจจะเป็น เรื่องแรงยุของกองเชียร์ บรรดาคนใกล้ชิดที่ไม่อยากให้คนที่รัก ต้องอยู่อย่างไร้บทบาท แต่ขึ้นชื่อว่า สงครามไม่ว่าจะเป็นตัวแทนตัวจริง ย่อมมีผลลัพธ์ตามมา 

อยู่ที่ว่า ใครจะได้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้น!!!!

…………………..

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย “แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img