วันอังคาร, เมษายน 23, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSสอบเส้นทางการเงิน-ไล่กล้องวงจรปิด เมื่อเว็บพนันพัวพัน“ผู้รักษากฎหมาย”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สอบเส้นทางการเงิน-ไล่กล้องวงจรปิด เมื่อเว็บพนันพัวพัน“ผู้รักษากฎหมาย”

ม่มีใครปฏิเสธ บทบาทและความสำคัญของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดังนั้นจึงไม่ใช้เรื่องแปลก ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล มักเข้ามา แทรกแซง และ ครอบงำองค์กรนี้ ด้วยอำนาจหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง บังคับใช้กฎหมายให้มีความเท่าเทียมกับในสังคม

บางครั้งยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จนบางยุคบางสมัยถูก “อดีตผู้นำรัฐบาลบางคน” สร้างองค์กรสีกากี ให้กลายเป็น “รัฐตำรวจ” นำมาใช้เป็นกลไก เพื่อสนองตอบผลประโยชน์ตัวเอง จนขาดความน่าเชื่อถือ แม้กระทั่งใน ยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งทำงานต่อเนื่องมา ตั้งแต่มีการยึดอำนาจช่วงเดือนพ.ค.2557 กินเวลามาถึง 8 ปี แต่การปฏิรูปตำรวจ ก็ยังไม่เห็นผลที่เป็นรูปธรรม

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การคลี่คลายการเสียชีวิตของ “นิดา พัชรวีระพงษ์” หรือ “แตงโม” นักแสดงสาวชื่อดัง ซึ่งตกเรือสปีดโบ้ท เสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. แต่ผ่านมาเดือนกว่าๆ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) ก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้ จึงไม่ใช้เรื่องแปลก ในระหว่างการคลี่คลายคดีดาราสาวชื่อดัง การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง แถมยังส่งผลให้สให้ “นักสืบสายโซเชียล” ต่างช่วยกันระดมค้นหาหลักข้อมูลต่างๆ บางคนถูกวิจารณ์ว่า หิวสื่อ-หิวแสง” ออกมาชี้นำการสอบสวน จนทำให้สังคมเกิดความสับสน กลายเป็นปัญหา ทำให้ตร.ถูกวิจารณ์จากสังคม

แต่บางทีข่าวลบในบางคดี อาจช่วยกลบข่าวร้ายที่ทำให้ “นายตำรวจระดับสูง” ไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นใหญ่ขึ้นมา เพราะอาจกระทบกับความน่าเชื่อถือ และมีผลต่ออนาอนาคตของ “บิ๊กสีกากีบางราย” ซึ่งเกี่ยวพันไปถึง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องร้อนๆ ที่กลายเป็นคดีฉาวตามมา และเกี่ยวข้องกับ “พฤติกรรมนายตำรวจบางคน” จนถูกดำเนินคดีและให้ออกจากราชการ 

เริ่มมาจากเมื่อวันนี้ 30 มี.ค. เฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” ของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” โพสต์ภาพหญิงรายหนึ่งเข้ามาขอคำปรึกษาทางกฎหมาย โดยมีข้อความระบุว่า “ให้คำปรึกษาเคสสุดท้ายของวัน น้องคนนี้เล่นพนัน ได้เงินจากเว็บเกือบ 2 ล้าน สุดท้ายมีชายฉกรรจ์หลายสิบคนอ้างตัว เป็นตำรวจไซเบอร์ ขอตรวจค้นอุ้มตัวน้อง สามีและลูก 11 ขวบ ขู่จนยอมให้เงิน 400,000 บาท แถมพระหนึ่งองค์


พรุ่งนี้ผมจะสอบถามไปทางผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ว่าบุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจตามคลิปกล้องวงจรปิด ใช่ตำรวจไซเบอร์จริงหรือไม่ ถ้าใช่ทำไมถึงไปทำงานให้กับ เจ้าของเว็บการพนัน แถมตำรวจเชียงใหม่มาอายัดบัญชีน้องคนนี้ อ้างว่าเกี่ยวข้องกับเว็บการพนัน โดยโยงไปเว็บอื่นที่น้องไม่เคยรู้จัก เหมือนเป็นการป้องเว็บที่เกี่ยวข้องจริงๆ” พร้อมกันนี้ ยังได้โพสต์ภาพชายสองคนขับรถ ระบุว่า “ชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์”

ต่อมา “บิ๊กแจง” พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้ออกมากล่าวถึงกรณีหญิงสาวรายหนึ่ง หอบหลักฐานเข้าร้องเรียน “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” หลังถูกแก๊งชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ อุ้มรีดเงินที่ได้จากเว็บพนันไป 4 แสน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากปรากฏพบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ตามที่กล่าวอ้าง และได้สั่งการให้ดำเนินการ ทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด หรือ ให้ลงโทษ ไล่ออกจากทางราชการ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทำเสียขวัญกำลังใจ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติดี และหากเป็นกลุ่มคนที่มิใช่เป็นเจ้าหน้าที่จริงตามที่กล่าวอ้าง ก็เร่งติดตามมา ดำเนินกฎหมายโดยเร็ว พร้อมกำชับการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมาย ผิดก็ว่าไปตามผิด ดำเนินด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง / cr : @policetv.tv

“ที่ผ่านมา ได้เน้นย้ำและกำชับหน่วยงานในสังกัดทุกภาคส่วนเรื่องการประพฤติปฏิบัติหน้าที่ ภายใต้อำนาจหน้าที่ที่ได้รับตามกฎหมายทำงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม เป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่เป็นโจร ใช้อำนาจหน้าที่ข่มเหงรังแกประชาชน หรือ ใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ เรียกรับผลประโยชน์ เพื่อประโยชน์อื่นใด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจ ในการทำงานของตำรวจไซเบอร์ที่เป็นตำรวจยุคใหม่ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง” ผบช.สอท.ระบุ

ขณะที่ “พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ” รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ทาง พ.ต.ต.คม รอดเภา สารวัตรสังกัด บช.สอท. ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ดังนี้ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง และร่วมกันทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ

จากนั้นได้นำตัวไป ขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งศาลได้อนุมัติให้ฝากขัง นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานของศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 5 ราย ในข้อหาเดียวกัน ซึ่งจะมีการติดตามจับกุมตัวต่อไป

พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยอีกว่า ส่วนที่ถูกออกหมายจับ เป็นข้าราชการตำรวจสังกัด บช.สอท. 1 นาย อดีตข้าราชการตำรวจ 1 คน พลเรือน 3 คน ทั้งนี้ พิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องหาได้แล้วทั้งหมด 6 คน และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นต่อไป

จากการตรวจสอบเบื้องต้นของตำรวจ สน.บางนา และตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 พบว่า มีผู้เกี่ยวข้อง 10 คน ทั้งนี้ ขอให้ผู้เสียหายสบายใจ เพราะข้าราชการตำรวจที่ไปข่มขู่ ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฝากขังไปแล้ว 1 ราย ส่วนที่ เหลือถูกออกหมายจับ ไปแล้วเช่นกัน ซึ่งจะดำเนินคดีให้ครบทุกราย และขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ ถ้ามีผู้ใดมาข่มขู่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ขอให้แจ้งเข้ามา เราพร้อมดำเนินการให้ความคุ้มครองตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่

ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายยังไม่ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมนั้น จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีหรือไม่  พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ตำรวจสามารถดำเนินการได้ในจุดหนึ่ง แต่พอมีข้อสงสัยที่อยากจะซักถามเพิ่มเติม ก็จำเป็นต้องสอบถามจากผู้เสียหายในบางเรื่องบางประเด็น จากคำให้การในวันที่ 25 มี.ค. และการทำงานของตำรวจ ก็สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำผิดได้จำนวนหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ ตำรวจได้ดำเนินการไปเยอะแล้ว หากยังไม่มั่นใจประสานมาโดยตรงที่ตำรวจที่ผู้เสียหายไว้วางใจหรือจะประสานมาโดยตรงที่ผมได้ ยืนยันว่า เราทำงานอย่างเต็มที่ ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ

ส่วนเว็บไซต์พนันออนไลน์ ในคดีนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบชื่อเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า เว็บไซต์ได้ปิดเว็บไปแล้ว ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งสองนายจะทำเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ซึ่งทาง ผบช.สอท. ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่าได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และวันนี้ได้สั่งการให้ ผกก.สน.บางนา ทำเรื่องไปถึง ผบก.สอท.2 และ ผบก.สอท.5 อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ดำเนินการทางวินัย ตามระเบียบต่อไป

ต้องยอมรับว่า ถ้าหากไม่มีข่าวการคลี่คลายการเสียชีวิตน้องแตงโม ข่าวการรีดทรัพย์ของผู้รักษากฎหมาย มีพฤติกรรมข่มขู่นักเล่นพนัน ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ ยิ่งก่อนหน้านั้นมีมักมีข่าว “บช.สอท.” และตำรวจหลายหน่วย ต่างออกปฏิบัติการล่จับเว็บพนันรูปแบบต่างแบบรายวัน แต่จับเท่าไหร่ก็ไม่หมดซักที

จนเกิดคำถามว่า การจับกุมในรูปแบบนี้ ต้องการถอนโคนจริงหรือไม่ บางทีการขยายผลตรวจสอบเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งมีผู้รักษากฎหมายเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญ โดยเฉพาะในยุค “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็น ผบ.ตร. มีความตั้งใจจริงมากน้อยแค่ไหน กับการทำความจริงในคดีตำรวจไซเบอร์ อุ้มรีดเงินที่ได้จากเว็บพนันไป 4 แสน ให้สังคมได้รับรู้ทุกแง่ทุกแง่ทุกมุม

ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ การติดต่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆ  และ การไล่ภาพในกล้องวงจรปิด ชายสองคนขับรถ ที่ถูกระบุว่าเป็น “ชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์” ซึ่งบุกเข้าข่มขู่หญิงสาว ที่เล่นพนันได้เงินจากเว็บเกือบ 2 ล้านบท จุดหมายปลายทองของบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจไซเบอร์ เดินทางไปยังที่ไหน  

อย่าลืมว่า ที่ผ่านมา “บช.สอท.” ถือเป็นหน่วยงานระดับ A+ ด้วยอำนาจที่ครอบจักรวาล และปัจจุบันโลกของการสื่อสาร ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ การใช้โซเชียลแทบทั้งนั้น คนบางกลุ่ม ผู้รักษากฎหมายบางคน จึงอาศัยช่องทางดังกล่าว มาแสวงหาผลประโยชน์

ถ้าผู้มีอำนาจในตร.ไม่เร่งตัดเนื้อร้าย  ไม่ขุดรากถอนโคน หนทางที่จะย้อนกลับมาสร้างความเสื่อมเสียให้องค์กรสีกากี ก็มีหนทางเกิดขึ้นได้อีกแน่ๆ

ขณะที่ “พล.ต.ท.สำราญ นวลมา” ผบช.น. ออกมาให้ความเห็นกรณีจับกุมตำรวจ บช.สอท. 2 นาย ร่วมกับพวกอุ้มรีดเงินผู้เสียหายที่เล่นพนันออนไลน์ 4 แสนบาทว่า ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สน.บางนา ออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย และวันที่ 4 เม.ย. ในวันนี้จะขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม 4 ราย ข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง” ไม่ใช่ตำรวจและอดีตตำรวจ เป็นบุคคลธรรมดาที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ส่วนทำหน้าที่อะไรต้องดูจากสำนวนอีกครั้ง หลังจากนี้ หากสอบปากคำแล้วพยานหลักฐานไปถึงใครก็ขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้นมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องเพียงเท่านี้

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข / @policetv.tv

ส่วน “ผบ.ตร.” ยังไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ ในคดี ไม่รู้อยู่ในภาวะน้ำท่วมปาก หรือเล่นบทลอยตัว แต่ในที่สุดก็หนีความจริงไม่พ้น หรือเกรงว่า ในที่สุดเรื่องจะพัวพันถึง “ใคร” ยิ่งมีเสียงร่ำลือกันว่า หน่วยงานรัฐบางแห่ง ถึงขั้นใช้กระสอบ ใส่เงินที่มาจากการเก็บส่วย

………………………..

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย….“แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img