วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSโผไม่พลิก“บิ๊กเด่น”ผบ.ตร. “บิ๊กต่อ”ขอเล่นบทคนคุมเกม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โผไม่พลิก“บิ๊กเด่น”ผบ.ตร. “บิ๊กต่อ”ขอเล่นบทคนคุมเกม

แม้ยังไม่มีความชัดเจน จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ต่อสถานภาพของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในฐานะ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลครบ 8 ปี จะสิ้นสุดเมื่อใด

แต่การนัดหมายประชุม คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เพื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเพื่อทดแทนการเกษียณอายุราชการและหมุนเวียนเพื่อความเหมาะสม ในวันจันทร์ที่ 29 ส.ค.65 เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ก็สะท้อนให้เห็น “พล.อ.ประยุทธ์” มั่นใจเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาล จะไม่ส่งผลกระทบใดใดทั้งสิ้นกับตนเอง

ยิ่งปีนี้มีเก้าอี้ว่างไล่ตั้งแต่ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” (ผบ.ตร.) ในฐานะแม่ทัพสีกากี ลงไปถึงระดับผู้บังคับการ (ผบก.) รวมแล้ว 137 ตำหน่ง โดยมีตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่าง 6 ตำแหน่ง, ผบช.ว่าง 13 ตำแหน่ง, รอง ผบช.ว่าง 36 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 77 ตำแหน่ง สังคมยิ่งให้ความสนใจ

ตามรายชื่อผู้มีสิทธิ์ขึ้นดำรงตำแหน่ง “ผบ.ตร.” มีอยู่ 3 ราย เรียงตามลำดับอาวุโส “บิ๊กหิน-พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ” จเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณปี 2566, “บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” รอง ผบ.ตร. (นรต.38) เกษียณปี 2566 และ “บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์” รอง ผบ.ตร. (นรต.40) เกษียณปี 2567 โดย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะเป็นผู้เสนอรายชื่อให้ที่ประชุมก.ต.ช.ที่มีนายกฯ เป็นประธาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

แทบทุกเสียง-มาทุกโผ ต่างเชื่อมั่นว่าเก้าอี้ผบ.ตร.คงหนีไม่พ้น “บิ๊กเด่น” นอกจากทำงานเข้าตาแกนนำรัฐบาล มีข่าวว่า ได้รับแรงหนุนจาก “บิ๊กปั๊ด” รวมทั้งนักเรียนเตรียมทหาร (ตท.22) ที่จะยกแผงเข้าดูแลงานความมั่นคง เว้นเสียแต่จะ เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง แบบไม่คาดฝัน การปรับทัพสีกากีก็คงต้องมาว่ากันใหม่

ส่วนตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.-ผบก. นั้น มีตำแหน่งว่างดังนี้ รอง ผบ.ตร. 4 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 6 ตำแหน่ง, ผบช. 13 ตำแหน่ง, รอง ผบช. 36 ตำแหน่ง และ ผบก. 77 ตำแหน่ง ที่น่าสนใจ อาทิ รอง ผบ.ตร. คาดว่า “บิ๊กป๋อ-พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน” ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1, “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 (นรต.47), “บิ๊กต่าย-พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” (นรต.41) และ “บิ๊กต่อ-พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะได้เลื่อนมาติดยศ “พล.ต.อ.” ในตำแหน่งหลัก รอง ผบ.ตร.

อย่างไรก็ตามมีข่าว “พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข” ผช.ผบ.ตร. อาจจะสอดแทรกเข้ามาแทนคนใดคนหนึ่ง ซึ่งคงต้องลุ้นกันว่า “แบ็คใคร” จะมีพลานุภาพมากกว่ากัน              

ส่วนตำแหน่งระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ที่หลายคนให้ความสนใจ  คงหนีไม่ “ผบช.น.” ซึ่งเรียกติดปากว่า “น.1”  หลังมีข่าว “บิ๊กราญ-พล.ต.ท.สำราญ นวลมา” จะขยับขึ้นเป็น “ผช.ผบ.ตร.” ก็มีแคนดิเดทอย่างน้อย 4  คน  ที่หวังชิงเก้าอี้สำคัญนี้

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร

ทั้ง “พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร” (นรต.38) ผบช.ภ.1 ซึ่งอยากกลับมานั่งเก้าอี้ “นครบาล” ก่อนเกษียณ ส่วนอีก 3 คน ระดับรอง ผบช.น. ไล่เรียงไปตั้งแต่ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก (นรต.40), พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ (นรต.47), พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ (นรต.48) แต่คาดว่าที่ประชุม ก.ตร.น่าจะเคาะชื่อ “พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก” ขึ้นมาเป็น “น.1” คนใหม่

ส่วนตำแหน่ง ผบช.สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท. ที่ในแวดวงสีกากีต่างรับรู้กันว่า เป็นหน่วยงานเกรดเอบวก หลายคนหมายปอง มีข่าว “บิ๊กแจง-พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง” ซึ่งดูแลหน่วยงานนี้ ต้องขยับขึ้นเป็น “ผช.ผบ.ตร” จึงคาดหมายกันว่า “พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา” (นรต.40) รอง ผบช.ก. จะได้รับมอบหมายให้ดูแลหน่วยงานนี้

แม้จะมีคู่แข่งที่เข้ามาชิงเก้าอี้สำคัญนี้หลายคน ทั้ง พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ (นรต.47) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ (นรต.48) พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ (นรต.46) รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ (นรต.39) รอง ผบช.สตม.

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช

อย่างไรก็ตาม ทั้งตำแหน่ง “น.1” และ “ผบช.สอท.” ข่าวบางกระแสระบุว่า “บิ๊กต่อ” มีส่วนสำคัญกับการสนับสนุน “พล.ต.ต.จิรสันต์” และ “พล.ต.ต.วรวัฒน์” ซึ่งใครตามข่าวก็คงรู้ว่า “บิ๊กต่อ” มีลุ้นนั่งเก้าอี้ผบ.ตร. หลัง “บิ๊กเด่น” เกษียณอายุราขการในปี 2566 จึงไม่ใช้เรื่องแปลก ถ้า “พล.ต.ท.ต่อศักดิ์” จะมีบทบาทในการจัดวาง “ขุนพลสีกากี” เพื่อให้มาเป็นฐานกำลังของตนเองในอนาคต

ส่วนในพื้นที่ภูธรนั้น เริ่มที่ภาค 1 “พล.ต.ท.จิรพัฒน์” คงไม่มีการขยับ เช่นเดียวกับ “พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง”  ผบช.ภ.2  คาดว่าจะอยู่ที่เดิม ส่วนเก้าอี้ภาค 8 ที่ว่างลง “พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์” (นรต.47) รองผบช.ภ.8 ขึ้นแทน สำหรับตำแหน่งอื่นๆ น่าจะอยู่ที่เดิมเป็นส่วนใหญ่ อาทิ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช (นรต.50) ผบช.ก., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6, พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ ผบช.ภ.7

อย่างไรก็ตาม คงมีคำถามที่หลายคนสงสัยคือ ทำไม “บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ” ถึงไม่ขยับขึ้นเป็น “ผช.ผบ.ตร.” เพื่อไปลุ้นชิงเก้าอี้ “แม่ทัพสีกากี” ในอนาคต เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะ กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ รับผิดชอบภารกิจมากมาย ดังนั้นถ้าได้นายตำรวจ ที่มีศักยภาพไม่เทียบเท่า “บิ๊กก้อง” ก็อาจมีปัญหาในการทำงาน ทำให้ผู้มีอำนาจจำเป็นต้อง ให้ “พล.ต.ท.จิรภพ” ทำหน้าที่สำคัญไปก่อน ซึ่งในอนาคต หากมีนายตำรวจที่มีความสามารถ สร้างผลงานให้องค์กร จนสังคมยอมรับเข้ามาทำหน้าที่แทนได้  “ผบช.ก.” คงขยับในตำแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อไปมีลุ้นเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ในอนาคต

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล

ในขณะที่ แม่ทัพสีกากีคนที่ 13 และ 14 ได้รับการคาดหมายว่าจากแวดวงสีกากี ใครจะได้รับมอบหมายในตำแหน่งที่สำคัญนี้ แต่อย่าลืมว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” (ตร.) เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ ทั้งดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม เป็นกลไกสำคัญของฝ่ายบริหาร จึงไม่แปลกที่หลายภาคส่วน จะให้ความสนใจหน่วยงานนี้เป็นพิเศษ

แม้กระทั่งกระทั่งการคาดหมายถึง “ผบ.ตร.คนที่ 15” ซึ่งน่าจะเป็นการ ชิงดำกันระหว่าง “บิ๊กโจ๊ก” กับ “บิ๊กต่าย” หรืออาจะมีรายชื่อ “บิ๊กสีกากี” คนใหม่โผลขึ้นมาอีก เพราะเมื่ออำนาจการเมืองเปลี่ยน ย่อมส่งผลกระทบกับทุกองคาพย ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนประเทศ ล้วนทั้งเป็น “ตัวแปรสำคัญ” ที่ใครก็ยากจะปฎิเสธได้ ดังนั้นอะไรที่ว่าแน่ บางทีก็ไม่แน่เสมอไป

…………………..

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย….“แมวสีขาว”                                                                                    

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img