วันพุธ, เมษายน 24, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSสัญญาณ "โควิดรอบ 2"... ข่าวร้ายท้ายปี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สัญญาณ “โควิดรอบ 2″… ข่าวร้ายท้ายปี

คงไม่ต้องถกเถียงแล้วว่า ไทยเกิดระลอกสองแล้วหรือยังจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจเสียหายมากน้อยแค่ไหนเมื่อมี “สัญญาณ” จากกรณีเกิดเหตุการณ์สุดช็อกคืนวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมผ่านมา ที่มีการระดมตรวจแรงงานเมียนมาเพื่อสืบหาต้นตอของโควิดระบาดที่ “ตลาดกุ้ง” จังหวัดสมุทรสาครพันกว่าคน พบมีคนติดโควิด-19 มากถึง 548 คน อัตราการพบผู้ติดเชื้อต่อผู้เข้าตรวจ 43% นับว่าสาหัสมาก ระหว่างที่เขียนต้นฉบับตัวเลขยังไม่นิ่ง แต่เชื่อว่าตัวเลขคงสูงอย่างน่าใจหายแน่ๆ

ใครๆ ก็รู้ๆ ว่า จังหวัดสมุทรสาครคือ “เมืองหลวงของแรงงานเมียนมา” โดยแท้ ประมาณกันว่ามีแรงงานชาวเมียนมาที่ทำมาหากินจำนวนมาก บางข้อมูลบอกว่า 2.3 แสนคน บางแหล่งบอกว่า มีราว 4 แสนคนเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าหากสถิติตรวจพบแบบ 1 ต่อ 1 เป็นไปได้ว่า อาจจะมีแรงงานพม่าติดโควิด-19 นับแสนคน

แม้ว่ารัฐบาลจะมั่นใจว่าจะคุมสถานการณ์ได้เพราะ แรงงานเมียนมา อยู่ร่วมกันเป็นชุมชนเดียวกัน ไม่ได้อยู่กระจัดกระจายง่ายต่อการควบคุมก็ตาม

cr / สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร

ว่ากันว่า สภาพที่พักอาศัยความเป็นอยู่ของแรงงานเมียนมานั้น มีทั้งอยู่รวมกันป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ แต่ละหมู่บ้านอยู่กันเป็นหมื่นคนมี 3-4 หมู่บ้าน ที่เหลืออาศัยอยู่กันตามแฟลตของโรงงาน ตามบ้านเช่า สภาพความเป็นอยู่จะอยู่รวมกันห้องละ 8 คน แบ่งเตียงกันนอนกะละ 4 คน ทำอาหารหม้อใหญ่ๆ กินได้ 3-4 วันและจะกินรวมกัน สภาพของแรงงานเหล่านี้ มักอยู่อาศัยกันอย่างแออัด จึงติดต่อกันได้ง่าย

แต่ที่น่าเป็นห่วงตรงที่การติดเชื้อรอบนี้ ต่างกันกับครั้งก่อนๆ เพราะทุกๆ ครั้งเราสามารถจับที่ต้นตอว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แต่รอบนี้เรียกได้ว่า “หมดสิทธิ์” ยังไม่รู้ว่าต้นตอมาจากไหน อย่างกรณีที่ตรวจพบผู้ป่วยเมื่อวันเสาร์ แสดงว่าป่วยมาแล้วอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เดินทางไปไหนมาไหน ไปพบใครมาบ้าง

เหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นการส่งสัญญาณว่า มีโอกาสที่โควิด-19 จะระบาดรอบ 2 ในบ้านเราค่อนข้างแน่ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับประเทศสิงคโปร์ ที่มีคนป่วยนับหมื่นคน เป็นแรงงานต่างชาติเกือบ 100% ที่ต่างกันคือสิงคโปร์มีขนาดเล็กกว่าไทย สภาพที่พักคนงานและการจัดการไทยดีกว่าไทย

ปัญหาของเราเที่ยวนี้มาจากแรงงานต่างชาติคาดว่าทั้งประเทศมีราว 5 ล้านคน มีทั้ง พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม แต่ส่วนใหญ่เป็น แรงงานจากเมียนมา เกือบครึ่งลักลอบเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ ตามป่าทึบ โดยจ่ายใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งสีเขียว สีกากี นักการเมืองท้องถิ่น และผู้มีอิทธิพลตามแนวชายแดนที่เห็นแก่ได้ เพื่อแลกกับการมีงานทำ

cr / สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร

เท่าที่สังเกตุหลายๆ ประเทศที่มีการติดเชื้อมากๆ แม้ในประเทศที่มีการควบคุมดูแลได้ดี มักจะพลาดจากแรงงานต่างชาติเกือบทั้งสิ้น ของไทยเราก็เช่นกัน ที่ผ่านมาสาเหตุที่เราติดน้อย จนตัวเลขเป็นศูนย์ ติดต่อกันหลายเดือน เพราะเราเน้นตรวจคนไทยที่มีอาการ กับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่ไม่เคยมีการสุ่มตรวจ แรงงานต่างชาติ ที่เข้ามาขายแรงงานในไทย

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า สมุทรสาคร คือ ตลาดกลาง ที่มีคนจากกรุงเทพฯและที่ต่างๆ เกือบทั่วประเทศเข้ามาและนำสินค้าไปขายต่อกระจายไปหลายพื้นที่ และเป็นศูนย์กลางธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารและอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มีทั้งส่งออกต่างประเทศด้วย

รวมถึงเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่ เป็นอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม ที่เข้ามาตั้งในยุคแรกๆ ทำให้สมุทรสาครกลายเป็นศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศอีกด้วย จึงถือว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไม่น้อย

เมื่อรัฐบาล “ล็อกดาวน์” จังหวัดสมุทรสาครจะไม่กระทบแค่จังหวัดใกล้เคียงที่มีธุรกิจเชื่อมโยงกันอย่างสมุทรสงคราม สมุทรปราการ ราชบุรี เพชรบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และกรุงเทพฯเท่านั้น แต่จะกระทบไปทั่วทั้งประเทศเลยทีเดียว

นี่คือข่าวร้ายส่งท้ายปีแถมเป็นข่าวแบบ “บิ๊กเบิ้ม” เสียด้วย รอบนี้รัฐบาลคงต้องยกเครื่องการบริหารจัดการโควิด-19 ใหม่ทั้งหมด ถ้ายังแก้ปัญหาแบบเดิมๆ เอาไม่อยู่แน่ๆ ถึงตอนนั้นไม่ต้องถามว่า โควิดจะระบาดรอบ 2 หรือไม่ แต่อาจจะต้องถามว่าระบาดเมื่อไหร่???

………………………………….

คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง

โดย : ”ทวี มีเงิน”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img