วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“ปชป.”เลือดยังไม่หยุดไหล ไม่จบแค่“ไตรรงค์”ไขก๊อก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ปชป.”เลือดยังไม่หยุดไหล ไม่จบแค่“ไตรรงค์”ไขก๊อก

เป็นจริงอย่างที่หลายฝ่ายคาดการไว้ว่า “พรรคสีฟ้า-ประชาธิปัตย์” ยังจะมี “เลือดไหลออก” ปรากฏออกมาให้เห็นอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะใกล้ถึงเดทไลน์สุดท้าย ของการสังกัดพรรคการเมืองก่อนลงเลือกตั้งตามกฎหมาย

รายล่าสุด ก็เป็นถึงระดับอดีตรองนายกฯ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย อดีตส.ส.สงขลาและบัญชีรายชื่อหลายสมัย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาถึง 36 ปี นั่นก็คือ “ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี”

ที่ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการเมื่อ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาในหนังสือลาออกระบุว่า….

“ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการต่อไป”

โดยแม้ต่อมา ดร.ไตรรงค์จะโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ส่วนตัวถึงการลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยย้ำว่า “ขอมีลมหายใจเป็นของตนเอง #ใส่เสื้อฟ้าเป็นครั้งสุดท้าย #36ปีกับพรรคประชาธิปัตย์” ที่มีเนื้อหาหลายบรรทัด แต่พบว่า ดร.ไตรรงค์ก็ไม่ได้บอกชัดๆ ว่า จะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองใด โดยบอกแต่เพียงว่า มีพรรคการเมืองมาติดต่อขอให้ไปร่วมงานด้วยประมาณห้าพรรคการเมือง

กระนั้น ข่าวหลายกระแส มีการต่อจิ๊กซอว์กันว่า พรรคใหม่ที่ดร.ไตรรงค์น่าจะไปอยู่ด้วย น่าจะเป็น “พรรครวมไทยสร้างชาติ”

เพราะมีการมองกันว่า “ไตรรงค์” มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนใน “รวมไทยสร้างชาติ” ที่หลายคนเป็นอดีตคนประชาธิปัตย์ที่แยกตัวออกมา โดยเฉพาะสามหัวหอกหลัก “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรค “เอกนัฎ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการพรรค “วิทยา แก้วภราดัย” รองหัวหน้าพรรค ผนวกกับแนวทางการเมืองหลายอย่างของ “รวมไทยสร้างชาติ” น่าจะตอบโจทย์การเมืองที่ “ไตรรงค์” ต้องการมากที่สุด

แม้จะมีการมองกันว่า ก่อนหน้านี้ “ไตรรงค์” เคยให้สัมภาษณ์แสดงความชื่นชมการทำงานของ “อดีตสี่กุมาร” อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ สองแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทยไว้เยอะ รวมถึง ก็มีข่าวว่า “นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยที่สนิทกับ “ไตรรงค์” อย่างมากสมัยอยู่กับประชาธิปัตย์ ก็เคยไปชวน ไตรรงค์เข้าพรรคสร้างอนาคตไทยถึงบ้านพักย่านประชาชื่น แต่วงการเมือง ก็ยังเชื่อว่า “ไตรรงค์” น่าจะตัดสินใจไปที่รวมไทยสร้างชาติ มากที่สุด

เหตุเพราะก่อนหน้านี้ “เนเน่-รัดเกล้า สุวรรณคีรี” บุตรสาวไตรรงค์ ได้ไปร่วมเปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ วันประชุมใหญ่พรรคที่สโมสรราชพฤกษ์ เมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยวันดังกล่าว ก็ยังมี “เจือ ราชสีห์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาธิปัตย์ ในปัจจุบัน และอดีตส.ส.สงขลาไปร่วมปรากฏตัวด้วยพร้อมกับ อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ เช่น “โกวิทย์ ธารณา” อดีต ส.ส.กทม. “สามารถ มะลูลีม” อดีตส.ส.กทม.เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าให้จับตา “ไตรรงค์” หลังจากนี้ อาจจะเข้าไปช่วยงานเป็นที่ปรึกษาให้กับคนในรัฐบาลด้วย ส่วนจะเป็นใครนั้น ข่าวว่า งานนี้ อาจได้ร้องว้าว   

และเมื่อเหลียวมองกลับมาที่พรรคประชาธิปัตย์ พบว่า ทั้งคนในพรรคและนอกพรรค ก็ยังมองและเชื่อกันว่า เลือดไหลออก หลังจากนี้ยังจะมีอีก ยังไม่หมดแค่ที่ดร.ไตรรงค์เท่านั้น ส่วนจะเป็นใคร ชื่อไหน กันบ้าง ก็มีการให้จับตามองกันไว้หลายชื่อ

ที่น่าแปลกใจ หลายคนในประชาธิปัตย์ที่อาจจะย้ายออก พบว่า “จุดหมายปลายทาง” อาจจะเป็นที่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เสียด้วย

ไม่ว่าจะเป็น “เจ๊โอ๋-รังสิมา รอดรัศมี” ส.ส.สมุทรสงคราม 5 สมัย ที่อยู่คนละสายกับกลุ่มจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่าหลังมีข่าว “รังสิมา” จะย้ายออกจากประชาธิปัตย์ ทำให้แกนนำพรรคมีการจับเข่าพูดคุยเป็นการส่วนตัว เพื่อโน้มน้าวให้อยู่กับพรรคต่อไป โดยมีการให้สัญญาใจว่า หากเลือกตั้งรอบหน้า ประชาธิปัตย์ ได้เป็นรัฐบาล “เจ๊โอ๋” มีสิทธิ์ได้เป็นรัฐมนตรีแน่นอน

แล้วก็ยังมี “แม่เลี้ยงติ๊ก-ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เป็น ส.ส.มาแล้ว 5 สมัย โดย “ศิริวรรณ” เป็นนักการเมืองในสายอดีต กปปส.เดิม โดยข่าวว่า “วิทยา แก้วภราดัย” รองหัวหน้าพรรค รวมไทยสร้างชาติ ได้มีการติดต่อ “แม่เลี้ยงติ๊ก” ให้ย้ายพรรคมาอยู่ด้วย แต่สุดท้าย ต้องดูว่า “ศิริวรรณ” จะย้ายมาหรือไม่ ทว่า หากดูจาก เส้นทางในประชาธิปัตย์ของแม่เลี้ยงติ๊ก น่าจะไม่โตไม่กว่านี้ เพราะเลือกตั้งรอบหน้า มีโอกาสจะอยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์แบบอันดับ “เสี่ยง” จะไม่ได้เป็นส.ส. ส่วนจะไปลงส.ส.เขตที่จังหวัดแพร่ พื้นที่เลือกตั้งเดิม ก็คงยากแล้ว เพราะห่างเหินพื้นที่ที่จังหวัดแพร่มานาน ทำให้สู้ “เพื่อไทย” ยากเลยน่าจะทำให้ “แม่เลี้ยงติ๊ก” คงต้องหาพรรคใหม่สังกัด

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกเช่น “เจือ ราชสีห์” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่กว่าจะได้เลื่อนชื่อมาเป็นส.ส. ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนสภาก็ครบวาระแล้ว แต่ปัญหาคือ “รอบหน้า” พื้นที่เดิมคือ เขต 1 สงขลา หมดโอกาสลงแล้ว เพราะทับซ้อนกับลูกชาย “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค-ผอ.เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ “เจือ” ก็ต้องหาพรรคใหม่สังกัด เพราะรอบหน้า หากไม่ย้าย ก็ต้องไปลงบัญชีรายชื่อ ที่อันดับคงลุ้นเป็นส.ส.ได้ยาก

รวมถึงยังมีอีกหลายคน เช่น “พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร” ส.ส.นครปฐม เขต 1 ที่เลือกตั้งรอบที่แล้ว กว่าจะเข้าสภาฯมาได้ เลือดตาแทบกระเด็น เพราะชนะ “อนาคตใหม่” แบบเฉียดฉิว คนนี้ก็มีข่าวว่าจะย้ายพรรคไปรวมไทยสร้างชาติเช่นกัน เป็นต้น

และยังมีข่าวว่าอาจจะมีอีกบางชื่อนอกจากนี้ แต่หลายคน อาจกำลังชั่งน้ำหนัก ประเมินทิศทางลมอยู่ เช่น “เสี่ยไก่-จุติ ไกรฤกษ์” รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีข่าวมาตลอดก่อนหน้านี้ว่า จะมาที่รวมไทยสร้างชาติ แต่ข่าวว่าหลัง “จุติ” เคลียร์กับ “จุรินทร์” โดยยืนยันว่าไม่ย้ายแน่นอน จนทำให้ไม่มีการปรับ “จุติ” ออกจากรัฐมนตรี เลยน่าจะทำให้แนวโน้ม “จุติ” คงอยู่กับประชาธิปัตย์ต่อไป

ขณะที่คนอื่นๆ ที่มีข่าวว่าจะย้ายพรรค ก็มีเช่น “แนน-บุณย์ธิดา สมชัย” ส.ส.อุบลราชธานี แต่รายนี้ จะย้ายไป “ภูมิใจไทย” หลังไปร่วมปรากฏตัวในงานวันเกิด “เนวิน ชิดชอบ” ที่บุรีรัมย์มาแล้ว โดยไม่แน่ อาจจะย้ายไปพร้อมกับ “วุฒิพงษ์ นามบุตร” ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน ก็เป็นได้

ส่วนชื่ออื่นๆ ที่จะย้ายพรรคบางคนพบว่า ย้ายเพราะมีปัญหากับกลุ่มแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ที่คุมพรรคในเวลานี้ ทำให้หากอยู่ต่อ ก็ไม่มีที่ยืนทางการเมือง ต้องหาพรรคใหม่ เช่น “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี ที่เป็นส.ส.เขตในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประชาธิปัตย์ “คนเดียว” ในเวลานี้ โดยที่ผ่านมา “อันวาร์” มีปัญหางัดข้อกับกลุ่มจุรินทร์มาตลอด จนกลุ่มจุรินทร์ใช้ไม้แข็ง ไม่ส่ง “อันวาร์” ลงเลือกตั้งรอบหน้า เพราะไปเอาคนอื่นมาลงแทน ทำให้ “อันวาร์” ต้องย้ายไปพรรคอื่น ที่แนวโน้มตอนนี้อาจเป็น “พลังประชารัฐ” หลังก่อนหน้านี้ข่าวว่าไปดีลกับหลายพรรคเช่น สร้างอนาคตไท-ประชาชาติ แต่ไม่ลงตัว เลยต้องมาพลังประชารัฐเสียเลย

นอกจากนี้ ก็มีข่าวว่า “รวมไทยสร้างชาติ-ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ” ก็มีการติดต่อ “อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์” ทั้งอดีตส.ส.กทม. และอดีตส.ส.เขตในพื้นที่ต่างๆ เพื่อชวนให้ย้ายมาเข้าพรรค โดยจะเลือกเฉพาะคนที่มีคะแนนเสียงดูแล้ว เลือกตั้งรอบหน้า พอมีลุ้นชนะ ที่พบว่า หลายคนก็ตอบตกลงแล้ว โดยมีการเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไว้บ้างแล้ว

ทำให้เชื่อได้ว่า ภาวะเลือดไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์ คงไม่จบแค่ชื่อของ “ไตรรงค์” เป็นคนสุดท้ายแน่นอน

……………………………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img