วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSล้วง“วงใน”กลิ่นตุๆ ประมูลอาหารสภาฯ “บิ๊กการเมือง-เซเลบบันเทิง”มีเอี่ยว!!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ล้วง“วงใน”กลิ่นตุๆ ประมูลอาหารสภาฯ “บิ๊กการเมือง-เซเลบบันเทิง”มีเอี่ยว!!!

ต้องดูว่า หลัง ส.ส.176 คนเคลื่อนไหว เข้าชื่อในหนังสือร้องเรียนต่อ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องไม่พึงพอใจการบริการอาหารและเครื่องดื่ม ที่คอยจัดให้กับส.ส. ที่รัฐสภา เวลามีการประชุมสภาฯ และคณะกรรมาธิการฯ แล้วหลังจากนี้ “ชวน” ประธานสภาฯ จะทำอย่างไรต่อไป

ที่น่าสนใจก็คือ พบว่าใน 176 คนดังกล่าว มีส.ส.พรรคก้าวไกล แค่คนเดียวร่วมลงชื่อ คือ “สมเกียรติ ถนอมสินธุ์” ส.ส.กทม. เขตบางนา แต่ตัว “สมเกียรติ” เป็นคนที่พรรคก้าวไกล ไม่ส่งลงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเขตบางนา จนเจ้าตัวออกมาโวยวายเมื่อปีที่แล้ว และต้องไปหาพรรคการเมืองใหม่สังกัด ดังนั้นก็เท่ากับ…ในทางการเมือง “สมเกียรติ” ก็ไม่ใช่คนของพรรคก้าวไกลมานานแล้ว ดังนั้น ที่ไปร่วมลงชื่อด้วย จึงเป็นการแสดงออกทางการเมืองของตัวเองล้วนๆ ที่เห็นแตกต่างจากส.ส.ก้าวไกลปัจจุบัน

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของส.ส.ร้อยกว่าคนดังกล่าว พบว่า ต้องการให้มีการตรวจสอบ “คณะกรรมการคัดเลือกบริษัท ที่เข้ามารับงานจัดหาอาหารและเครื่องดื่มให้กับส.ส. ในปัจจุบัน”

หลังที่ผ่านมา พบปัญหามากมายในการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มของส.ส. เช่น เกิดเหตุเชื้อเพลิงอุ่นอาหารลุกไหม้ในห้องอาหาร ส.ส. 2 ครั้ง-อาหาร และเครื่องดื่มไม่หลากหลายและไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอาหารอิสลาม 

ชวน หลีกภัย

งานนี้ส.ส.ทั้งสภาฯ กำลังวิจารณ์กันแซ่ดไปทั่วรัฐสภาว่า “ชวน-ประธานสภาฯ” จะรับไปดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนดังกล่าวหรือไม่ หรือจะไม่ขยับทำอะไรทั้งสิ้น เพียงเพราะว่า เรื่องนี้เป็นงานในภารกิจ ที่มอบหมายให้กับ “สุชาติ ตันเจริญ” รองประธานสภาฯจากพรรคพลังประชารัฐ ที่จะย้ายไปพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ซึ่งเป็นคนรับผิดชอบมาร่วมสี่ปี จึงไม่อยากก้าวก่ายงาน

แต่ที่แน่ๆ ข่าวว่า หลังจากนี้ จะมีส.ส.บางส่วน เคลื่อนไหวเอาเรื่องนี้เข้า คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร” ที่มี “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเป็นประธาน เพื่อหวังให้กรรมาธิการป.ป.ช. เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ ที่ถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาฯโดยตรง

ที่ก็ไม่รู้ว่า กรรมาธิการป.ป.ช.ของสภาฯ จะเกิดการเกรงอกเกรงใจใครบางคนในสภาฯที่เกี่ยวข้องกับการประมูลการบริการอาหารและเครื่องดื่ม ของสภาฯ ที่ร่ำลือกันว่า เป็น “ระดับบิ๊กในสภาฯ” จนไม่กล้าขยับอะไรหรือไม่

กระนั้น หลายคนก็ยังเชื่อว่า “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” คงไม่ยอมเสียชื่อ เพราะที่ผ่านมา กรรมาธิการชุดนี้ลุยสอบทุกเรื่องหากมีใครร้องเรียนมา แล้วเป็นเรื่องที่พอ “มีมูล” ก็เข้าไปลุยตรวจสอบ เรียกคนที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงหมด แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสภาฯแท้ๆ แถมส.ส.ร้อยกว่าคนเข้าชื่อกัน แสดงความไม่พอใจการบริการอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าว ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเรื่องนี้ “มีกลิ่นตุๆ” มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ถ้า “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” กับกรรมาธิการฯ ทำเฉย งานนี้คงเสียยี่ห้อ เสียเครดิต “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” แน่นอน

เพราะเรื่องนี้จริงๆ มีกลิ่นไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ เดือนพ.ย.2565 ที่ตอนนั้น “เดอะแจ็ค-วัชระ เพชรทอง” อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปแถลงที่สภาฯว่า ได้ยื่นหนังสือถึง “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการคัดเลือกผู้ประกอบการจัดอาหาร และเครื่องดื่มให้ส.ส.

“เดอะแจ็ค-วัชระ ขาลุย” แถลงไว้ตอนนั้นว่า จากการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยนางพรพิศ เพชรเจริญเลขาธิการสภาฯ มีคำสั่งเรื่องแต่งตั้งผู้ประกอบการเพื่อให้บริการอาหาร และเครื่องดื่มฯ ซึ่งในวันที่ 3-4 พ.ย.2565 ปรากฎข่าวว่า ข้าราชการที่เป็นกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ในห้องอาหารรับรอง ส.ส. ถูกนักการเมืองซึ่งมีอำนาจในสภาฯ โทรศัพท์ข่มขู่บังคับข้าราชการซึ่งเป็นกรรมการบางคนให้ลงคะแนนให้ผู้ประกอบการรายหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับส.ส.พรรคสีส้ม และยังมีข่าวว่ามีการให้เงินจำนวน 10,000 บาท กับส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อประเมินแบบสอบถามความพึงพอใจในรสชาติอาหาร และบริการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดจริยธรรม และหลักการของประธานสภาฯ จากข่าวดังกล่าวแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ควรพิสูจน์ว่า เป็นความจริงหรือไม่ และหากพิจารณาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้การบริหารบ้านเมืองให้มีความโปร่งใสและสุจริต ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ นักการเมืองในสภาฯยังไม่ละเว้น จึงขอประธานสภาฯ สั่งชะลอการประกาศผลผู้ให้บริการอาหารฯ และสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการ และส.ส.ที่เป็นตัวแทนให้ตอบแบบสอบถามรสชาติอาหาร และบริการ

วัชระ เพชรทอง

“ผมต้องการให้มีการตรวจสอบ เพราะมีการล็อบบี้เต็มคาราเบล บิ๊กนักการเมืองให้กรรมการช่วยลงคะแนนให้นักการเมืองพรรคสีส้ม ผมจึงอยากให้พรรคก้าวไกล ไปสอบสวนส.ส.ในพรรคของท่านด้วย ว่ามีส.ส.ท่านใดไปดำเนินการด้วยหรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลเป็นคนรุ่นใหม่ชอบความโปร่งใสตรวจสอบได้ จึงอยากให้หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งกรรมการสอบคู่ขนานกับทางสภาฯก็จะเป็นเรื่องดี” วัชระ ระบุไว้เมื่อ 7 พ.ย. 2565

และต่อมาก็มีส.ส.บางส่วนพยายามเคลื่อนไหวขอให้ “ชวน-ประธานสภาฯ” เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จนบางคนเคยซักถามความคืบหน้ากับ “ชวน” กลางห้องประชุมสภาฯ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า

จนมีข่าวว่าต่อมา สภาฯก็ตัดสินให้ บริษัทที่ชนะการคัดเลือกให้จัดหาอาหาร-เครื่องประจำสภา เป็น บริษัทแห่งหนึ่ง ที่เป็น “หลังบ้าน” ของผู้กำกับหนังคนดังฯถือหุ้น ที่ล่าสุด “ผู้กำกับหนังคนดังกล่าว” ก็เคลื่อนไหวผ่านพื้นที่โซเชียลมีเดียของตัวเองด้วความไม่พอใจอย่างรุนแรง ที่มีส.ส.ร้อยกว่าคน มาเข้าชื่อแสดงความไม่พอใจการจัดการอาหารและเครื่องดื่ม ของบริษัทของภรรยาและตัวเองก็มีหุ้นอยู่ด้วย

ความไม่พอใจดังกล่าว ว่าไปก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะการมาถูกดิสเครดิตว่า บริษัทของภรรยาและตัวเองมีหุ้นอยู่ด้วย ขาดความพร้อมในการให้บริการ และไม่ตระหนักต่อความปลอดภัยและสิทธิของส.ส. ที่พึงได้รับตามงบฯที่เบิกจ่ายอย่างพอเพียง มันก็ทำให้เสียเครดิตการทำธุรกิจ ที่ไม่เป็นผลดีต่อการจะไปประมูลงานลักษณะแบบนี้ที่อื่น มันก็ต้องเดือดเป็นธรรมดา

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด กรรมาธิการของสภาฯ คือ “กรรมาธิการป.ป.ช.” รวมถึงกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือ “คณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ” ที่มี “อนันต์ ผลอำนวย” ส.ส.กำแพงเพชร เป็นประธานฯ ควรต้องลงมาตรวจสอบและเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง โดยเฉพาะ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้ามาให้บริการอาหารและเครื่องดื่มของสภาผู้แทนราษฎร ดังกล่าว ว่ามีหลักเกณฑ์การพิจารณาอย่างไร และทำไม บริษัทดังกล่าวถึงชนะการประมูล เพื่อให้เรื่องนี้เกิดความโปร่งใส ไม่เป็นที่ครหา พูดกันในวงกว้างไปทั่วสภาฯ จนลามออกมาข้างนอกสภาฯว่า เรื่องนี้มี “กลิ่นไม่ค่อยดี” จนกลายเป็นเรื่องติดลบของสภาฯก่อนครบวาระ ทำนองขนาดเรื่องอาหาร-เครื่องดื่ม ยังกลิ่นตุๆ คนภายนอกจะมองสภาฯ “ติดลบ” แน่นอน

สัปปายะสภาสถาน

โดยข่าววงในที่ ทีมข่าว thekey.news รู้มาก็คือ งานนี้ไม่ได้มีแค่ “บิ๊กการเมืองในสภาฯ” อักษรย่อ “ส.” เข้ามาเกี่ยวข้องในการล้วงลูกการประมูลเท่านั้น แต่มี “คนนอก” ที่เป็นเซเลบวงการสายบันเทิงคนดัง เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งยังโยงไปถึงนักการเมืองคนดัง ของพรรคสีส้ม “ก้าวไกล” เสียด้วย จนทำให้คนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาประมูลดังกล่าว กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก และหลายคนเกิด “ลูกเกรงใจ” ก็เลยทำให้การประมูลจบออกมา แม้ก่อนหน้านี้ “เดอะแจ็ค-วัชระ” จะออกมาปูดว่า เรื่องนี้มีกลิ่นไม่ดี…ก็ตาม

บอกเลยว่า เรื่องนี้จะเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องท้ายๆ ก่อนสภาฯชุดนี้กำลังจะสิ้นสภาพ ที่เหลือเต็มที่หากไม่ยุบสภาฯ ก็ไม่เกิน 23 มี.ค. เพราะหาก “ชวน” ไม่ทำอะไรสักอย่าง มันก็น่าจะทำให้ ฉายา “ชวน ซวนเซ” ที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งให้ อาจทำให้ส.ส.ร้อยกว่าคนที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ คงเห็นด้วยกับสื่อมวลชนที่ให้ฉายาดังกล่าวกับประธานสภาฯ

มันจึงควรอย่างยิ่งที่ “ชวน-ประธานสภาฯ” จะต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่ใช่นิ่งเฉยต่อหนังสือร้องเรียนของส.ส.ร้อยกว่าคน เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะข่าวว่า หากตรวจสอบกันขึ้นมาจริงๆ ถึงขั้นอาจทำให้ “คนที่เกี่ยวข้อง” สุ่มเสี่ยงจะโดนขยายผลเอาผิดฐานฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ที่สามารถส่งเรื่องให้คณะกรรมการป.ป.ช.ไต่สวนได้เลยด้วยซ้ำ

บอกเลย หาก “ชวน” และ “กรรมาธิการของสภาฯ” เอาจริง งานนี้หลายคนมีหนาว อาหารและเครื่องดื่ม อาจทำเอาจุกในลำคอ !!

…………………………………

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img