วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSนับถอยหลังยุบสภา‘พรรคบิ๊กตู่’พร้อมแล้ว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นับถอยหลังยุบสภา‘พรรคบิ๊กตู่’พร้อมแล้ว

ถึงตอนนี้เรียกได้ว่าประตูไปสู่การ ยุบสภาฯ เปิดกว้างพร้อมหลังปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง คือ การแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขตทั่วประเทศ โดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เสร็จสิ้นลงและมีการประกาศลงในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ต้องดูกันว่า จันทร์นี้ 20 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาฯ อย่างที่มีกระแสข่าวหรือไม่ ที่ก็มีความเป็นไปได้สูงแล้ว

เพราะรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลยอมรับกันเองว่า การประชุมครม.เมื่อวันอังคาร 14 มี.ค.ที่ผ่านมา คือการประชุมครม.นัดสุดท้ายอย่างเป็นทางการของรัฐบาล และหากจะมีการประชุมครม.วันอังคารที่ 21 มี.ค.นี้ ก็จะเป็นการประชุมครม.รักษาการ ที่หลังจากนี้จะไม่มีเรื่องสำคัญๆ เข้าสู่การพิจารณามากแล้ว ดังนั้น ก็คาดกันว่า 20 มี.ค.นี้ น่าจะมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้ง

โดยขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 บัญญัติว่า “ภายในห้าวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวันแต่ไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวใช้บังคับ วันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร”

ดังนั้น หากพล.อ.ประยุทธ์ยุบสภาฯช่วงวันจันทร์นี้ 20 มี.ค. ทางกกต.ก็ต้องนัดประชุมภายในไม่เกินวันศุกร์ที่ 25 มี.ค. เพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ที่ก็น่าจะเป็นไม่วันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค. ก็สัปดาห์ถัดไป 14 พ.ค.

เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้กกต.จะประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งออกมาแล้ว แต่พบว่า “ว่าที่ผู้สมัครส.ส.” จากหลายพรรคการเมือง ก็ยังไม่พอใจ พากันออกมาส่งเสียง สวด “กกต.” กันอย่างหนัก ว่าแบ่งเขตเลือกตั้งแบบลักลั่น โดยเฉพาะการโยกแขวง-อำเภอ จากเขตหนึ่งไปอีกเขตหนึ่ง ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันทางการเมืองกันเกิดขึ้น จนมีการประกาศจะไปร้องต่อ ศาลปกครอง เพื่อคัดค้านการแบ่งเขตดังกล่าว

เช่นความเห็นของ “สัมพันธ์ ตั้งเบญจผล” อดีตส.ส.สุโขทัย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องสู้กับทีมของสมศักดิ์ เทพสุทิน และเพื่อไทย ระบุว่า การแบ่งเขตในพื้นที่สุโขทัย เป็นการแบ่งเขตที่พิสดาร และไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเขตเลือกตั้งที่ 3 สุโขทัย กกต.นำเอาพื้นที่ของอำเภอศรีสำโรงและอำเภอเมืองไปรวมกับพื้นที่ของอำเภอทุ่งเสลี่ยมและอำเภอสวรรคโลก ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา อำเภอเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในเขตเลือกเดียวกันมาก่อน มีการเอาแต่ละตำบลของหลายๆ อำเภอมายำรวมกันในเขตเดียว โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 3 จึงผิดหลักการของกฎหมายอย่างยิ่ง ทั้งที่ตามกฎหมายเลือกตั้งส.ส. การแบ่งแยกตำบลนั้น ให้คำนึงถึงชุมชนที่ราษฎรมีการติดต่อกันเป็นประจำในลักษณะการเป็นชุมชนเดียวกัน การยิ่งแบ่งหลายอำเภอในเขตเลือกเดียว จึงเป็นการยิ่งขัดต่อกฎหมาย

“การแบ่งเขตเลือกตั้ง กกต.ต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่แบ่งตามใจตัวเองหรือตามใครสั่งมาจึงจำเป็นต้องพึงบารมีศาล โดยจะไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ให้การแบ่งเขตของจังหวัดสุโขทัยในครั้งนี้เป็นโมฆะ และหากศาลสั่งให้เป็นโมฆะ คงต้องฟ้อง กกต. ต่อ ป.ป.ช. กรณีปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบ”

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี

นั่นคือในระดับจังหวัด ขณะที่ในส่วนกลาง ก่อนหน้านี้ ก็มีคำร้องที่ “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง​ ขอให้พิจารณาวิธีการชั่วคราวโดยเร่งด่วน เพื่อขอให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง

ซึ่งประเด็นที่ทาง “อรรถวิชช์” ร้องไปคือประเด็นว่า การแบ่งเขตที่ออกมา มีการรวมเฉพาะแขวงโดยไม่มีเขต (อำเภอ) หลักมาเป็นเขตเลือกตั้งใหม่ ถือเป็นการกระทบสิทธิประชาชน ทำให้เกิดความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม กระบวนการพิจารณาคดีของศาลปกครองนั้นค่อนข้างใช้เวลานาน ต้องดูว่า ที่คนจาก “พรรคชาติพัฒนากล้า” ขอให้พิจารณาวิธีการชั่วคราวโดยเร่งด่วน สุดท้ายแล้ว “ศาลปกครอง” จะดำเนินการอย่างไร จะมีการออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ แต่ยังไง…ก็คงไม่ทันกับการยุบสภาฯ ภายในสัปดาห์หน้าแน่นอน

ขณะเดียวกัน ฝ่ายกกต.ก็ดูจะมั่นใจว่า สามารถชี้แจงเรื่องนี้ได้ หากศาลปกครองรับคำร้องไว้พิจารณาโดยหากศาลปกครอง มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาและมีการออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทำนองให้ระงับการแบ่งเขตในพื้นที่ กทม.ไว้ก่อน ก็อาจส่งผลกระทบต่อการจัดเลือกตั้งได้ แต่หากไม่มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว การเดินหน้าจัดเลือกตั้ง ก็เดินต่อไปได้ตามปกติ แต่ละพรรคการเมือง ก็ต้องไปลุ้นทำศึกเลือกตั้งกันต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ขณะเดียวกัน จากที่มีการพูดกันทางการเมืองก่อนหน้านี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะพยายามดึงเรื่องการยุบสภาฯออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้ พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความพร้อมในการลงเลือกตั้งมากที่สุดนั้น มาถึงตอนนี้ก็พบว่า “รวมไทยสร้างชาติ” มีความพร้อมเต็มที่แล้ว แม้อาจจะไม่ถึงกับเท่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่นๆอย่างภูมิใจไทย แต่ตอนนี้การจัดตัวผู้สมัครส.ส.ระบบเขต ก็เกือบครบหมดแล้ว

จนมีการวางคิวการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ไว้ดังนี้ 21 มี.ค. เวลาแถลงเปิดตัวผู้สมัครภาคกลาง, วันที่ 22 มี.ค. เปิดตัวผู้สมัคร ภาคใต้กับกทม., วันที่ 23 มี.ค. เปิดตัวผู้สมัครภาคเหนือ และวันที่ 24 มี.ค. เปิดตัวผู้สมัครภาคอีสาน รวมถึงการวางคิวเดินสายหาเสียงของพล.อ.ประยุทธ์ในต่างจังหวัดไว้เช่น 22 เม.ย. ปราศรัยที่พิษณุโลก และในวันที่ 29 เม.ย.ปราศัยที่จ.เชียงใหม่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เสียงวิจารณ์ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ยื้อยุบสภาฯ เพื่อให้ “รวมไทยสร้างชาติ” พร้อมที่สุดนั้น หากดูจากสภาพความเป็นจริง ก็จะเห็นได้ว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่พูดเสมอไป

เพราะอย่างที่เห็น กกต.กว่าจะประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขตได้ ก็ปาเข้าไปกลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 17 มี.ค. ดังนั้นหากพล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาฯวันที่ 20 มี.ค.หรือวันที่ 22 มี.ค. ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการยื้ออะไร เพราะการจะยุบสภาฯเพื่อให้มีการเลือกตั้งได้ ต้องมีการแบ่งเขตเลือกตั้งจากกกต.ก่อน เนื่องจากเลือกตั้งรอบนี้ มีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นมา 50 เขต จากตอนเลือกตั้งปี 2562 เพราะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเขตเลือกตั้งส.ส.จาก 350 เขตเป็น 400 เขต ทำให้กกต.ต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จนเป็นที่มาของความล่าช้าในการแบ่งเขตเลือกตั้งรวมถึงการยุบสภาฯด้วย

แต่เมื่อวันนี้ นับถอยหลังเตรียมยุบสภาฯแล้ว ทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ การแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ที่ประกาศออกมา แต่ยังไง ก็ต้องไปลงเลือกตั้งอยู่ดี ส่วนกลางทางระหว่างเตรียมเลือกตั้ง จะต้องสะดุดลง หากศาลปกครองชี้ว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าวทำผิดกฎหมาย หรือไม่ ก็รอลุ้นระทึกกัน

……………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย… พระจันทร์เสี้ยว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img