วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“เผือกร้อน-ดันสุดเพดาน”เลิกม.112 แต่ยากจะถึง“เส้นชัย”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เผือกร้อน-ดันสุดเพดาน”เลิกม.112 แต่ยากจะถึง“เส้นชัย”

ข้อเรียกร้อง-การเคลื่อนไหวแบบสุดเพดานให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของกลุ่มเคลื่อนไหวม็อบสามนิ้ว ในรูปแบบของ “คณะราษฎรยกเลิก112” หรือ “ครย.112”

หากถามใจแกนนำกลุ่มดังกล่าวที่เปิดหน้าเคลื่อนไหว รวมถึงกลุ่มที่หลบอยู่ข้างหลังการเคลื่อนไหวว่า คาดหวังว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าว จะเกิดผลเป็นรูปธรรมหรือไม่ในอนาคตอันใกล้?

เชื่อเถอะว่า ทั้งหมดต่างรู้ดีอยู่แล้วว่า ยากจะสำเร็จ

เพียงแต่ที่ต้องเคลื่อนไหว ก็เพื่อให้เป็นประเด็นทางสังคม-การเมืองตามมา โดยเฉพาะกับเป้าหมายเพื่อเลี้ยงกระแสของม็อบสามนิ้วเอาไว้ และโยนประเด็นเรื่อง 112 ไว้เป็นหัวเชื้อในการเคลื่อนไหวรอบต่อๆ ไป แต่รอบนี้ เพื่อให้การเคลื่อนไหวของแนวร่วมม็อบ กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมมากขึ้น หากจะแค่เสนอให้ แก้ไข-ปรับปรุง 112 แบบเดิม มันก็ธรรมดาไป จึงต้องยกระดับเพดานเรื่อง 112 จากเดิมแค่เสนอให้ “แก้ไข-ปรับปรุง” มาเป็น “ยกเลิก”

ซึ่งลำพังแค่ “แก้ไข-ปรับปรุง” ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในทางการเมือง โดยเฉพาะการพิจารณาถึงข้อเท็จจริงเรื่องการแก้ไขที่จะสำเร็จได้ จะต้องใช้กระบวนการทางรัฐสภา เพื่อแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งด้วยจำนวนเสียงที่จะสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ชุดปัจจุบัน ที่ “พลังประชารัฐ” เป็นแกนนำและมี “ภูมิใจไทย” กับ “ประชาธิปัตย์” เป็นพรรคร่วมหลัก

สามพรรคนี้ที่ประกาศชัดไม่เอาด้วยกับการแก้ไข 112 รวมเสียงส.ส.ทั้งสามพรรค ผนึกกัน ยังไงมันก็ยากอยู่แล้ว ที่จะแก้ไขได้ในสภาฯ

ขณะที่ “สภาสูง-วุฒิสภา” ทั้งหมดก็มาจากคสช.สรรหา-คัดเลือก ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ก็เป็นระดับผู้ใหญ่ เป็นอดีตข้าราชการ ซึ่งล้วนผูกพันกับสถาบันฯ ดังนั้นเรียกได้ว่า สว.แทบทั้งหมด 250 ดูแล้ว ก็ไม่มีใครเอาด้วยกับเรื่องแก้ไข 112 แน่นอน

แล้วนี้ ม็อบสามนิ้ว ถึงขั้นยกระดับ ไม่เอาแล้ว แก้ไข แต่ให้ยกเลิกไปเลย มันจึงเป็นข้อเรียกร้อง สุดเพดาน ที่ส.ส.ในสภาฯโดยเฉพาะจากฝ่ายรัฐบาลและสว. ยากจะเอาด้วย

สิ่งเหล่านี้ในทางการเมืองและจำนวนเสียงในรัฐสภา ที่ประเมินได้ง่ายๆ อยู่แล้วว่า ไม่มีทางที่เรื่องให้ยกเลิก 112 จะสำเร็จได้ เพราะแค่แก้ไข ยังแตะต้องไม่ได้ แล้วจะไปถึงขั้นยกเลิกเลย มันจะเป็นได้ยังไง

เรื่องแบบนี้ แกนนำม็อบสามและกองหนุนให้ยกเลิก 112 ต่างก็รู้กันดี ว่าไม่มีทางสำเร็จ

เพียงแต่ที่กลุ่มม็อบสามนิ้ว-นักเคลื่อนไหวการเมือง-นักวิชาการที่สนับสนุนเรื่องนี้ ต้องแอ็กชั่นออกมา ก็เป็นเรื่องของ การสร้างกระแสเพื่อหล่อเลี้ยงการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วเอาไว้ต่อไปเรื่อยๆ ส่วนผลสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับรัฐสภาชุดปัจจุบัน

ม.112 / cr : @thaksinofficial

ยิ่งเมื่อ “เพื่อไทย-ทักษิณ ชินวัตร” เล่นบท “ชักเข้าชักออก” ที่เรียกกัน “สู้ไปกราบไป” หลังพยายามจะโหนกระแส หวังเรียกเรตติ้ง คะแนนจากกลุ่มแนวร่วมม็อบสามนิ้วเพื่อแย่งคะแนนกับพรรคก้าวไกล แต่สุดท้าย “เพื่อไทย” ก็กลับลำ ไม่กล้าเดินหน้าต่อ ปัดเผือกร้อนทิ้งโดยใช้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง เพื่อกันตัวเองออกจากเผือนร้อนนี้ 

หลังหัวค่ำตกดึก 31 ต.ค. แกนนำเพื่อไทย บอกจะเอาข้อเสนอยกเลิก 112 เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา แต่ผ่านไปแค่ 1-2 วัน  แกนนำพรรคอย่าง “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดแถลงข่าว “เพื่อไทย” จะไม่เป็นตัวตั้งตัวตีในการให้ส.ส.เพื่อไทย เข้าชื่อกันเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 อย่างแน่นอน

จากนั้น “โทนี่-ทักษิณ ชินวัตร” ที่สถานะการเมืองก็คือ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงเสียงจริง ก็ออกมาเบรกว่า มาตรา 112 ตัวบทกฎหมายไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่คนใช้ และพูดแบบหล่อๆ สไตล์ ประคองตัว ออกห่างๆ แนะให้มีการเปิดพื้นที่พูดคุยเรื่องนี้

ท่าทีของ “เพื่อไทย-ทักษิณ” เลยโดนกองเชียร์สามนิ้ว และกลุ่มหนุนยกเลิก 112 ถล่มยับในโลกโซเชียลมีเดีย เสียรังวัดไปไม่ใช่น้อย

เมื่อ “เพื่อไทย” ที่ตอนนี้มีส.ส.มากที่สุดในสภาฯ ยังไม่เอาด้วยกับการแก้ไข-ยกเลิก 112 ท่าทีดังกล่าว ซึ่งน่าจะผูกพันไปถึงการเลือกตั้งรอบหน้า ที่ “เพื่อไทย” ก็คงไม่เอานโยบายเรื่องแก้ 112 ไปหาเสียงแน่นอน อีกทั้ง ก็เชื่อได้ว่า ถึงต่อให้หลังเลือกตั้ง ชนะเลือกตั้งได้ส.ส.มากสุด และเกิดได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาจริงๆ ก็ฟันธงได้ว่า “เพื่อไทย” ก็จะไม่แตะเรื่อง 112 แน่นอน

เมื่อพรรคการเมืองที่มีส.ส.ในสภาฯมากสุดในเวลานี้ และถูกคาดหมายว่า ก็น่าจะได้ส.ส.มากสุดในการเลือกตั้งครั้งหน้าเช่นกัน ยังไม่เอาด้วยกับการยกเลิก 112

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเวลานี้ ที่มีพรรคการเมืองหลักอยู่ในปีกนี้อย่าง “พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา” จุดยืนก็ชัดว่า ไม่แตะ 112

เห็นได้จากหลังประชุมครม.เมื่อ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ย้ำกับที่ประชุม ครม. และขอย้ำกับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนอีกครั้งว่า ในนามของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 อย่างแน่นอน

เพียงเท่านี้ ก็เห็นเด่นชัด เส้นทางการไปให้ถึงการยกเลิก มาตรา 112 ของกลุ่มแนวร่วมม็อบสามนิ้วและอีกบางกลุ่มโดยเฉพาะ “คณะก้าวหน้า” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ยากจะสำเร็จได้

ถึงล่าสุด “คณะก้าวหน้า” จะไม่ยอมถอย โดยมีการรณรงค์ผ่านสื่อของคณะก้าวหน้า ให้ประชาชนเข้าไปร่วมลงชื่อ “ยกเลิก 112”

ขณะที่ “ธนาธร” ก็ออกมา เปิดหน้าชักชวนกองหนุนให้ไปร่วมลงชื่อดังกล่าว โดยระบุในทวิสเตอร์ของตัวเองว่า “อย่าปล่อยให้ประชาชนต้องต่อสู้โดยลำพัง ไปร่วมลงชื่อเพื่อ #ยกเลิก112 กันครับ”

ทำให้ดูแล้วเรื่อง 112 คงไม่จบง่ายๆ แม้ข้อเรียกร้องสุดเพดานดังกล่าว หากจะทำผ่านรัฐสภา ยากจะไปถึงเส้นชัย แต่แนวร่วมเคลื่อนไหวเรื่องนี้ คงไม่เลิกง่ายๆ และจะเคลื่อนไหวทางความคิด สร้างกระแสดังกล่าว ต่อไปเรื่อยๆ โดยอาจคาดหวังว่า วันข้างหน้า แนวคิดข้อเรียกร้องดังกล่าว คนจะขานรับมากขึ้น จนทำให้ พรรคการเมือง-นักการเมือง ยากจะปฏิเสธข้อเรียกร้องสุดเพดานดังกล่าว

ที่แน่นอนว่า หากสถานการณ์ไปถึงจุดนั้น ความเห็นที่แตกต่างกันของคนในสังคมเวลานี้ ในเรื่อง 112 อาจทำให้สังคม อยู่ในช่วงอ่อนไหวได้ หากไม่เตรียมการรับมือกันไว้ให้ดี

……………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย..“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img