วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS18 ธ.ค.“ประชุมใหญ่ปชป.” แต่เลือดยังไหลออก“ไม่หยุด”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

18 ธ.ค.“ประชุมใหญ่ปชป.” แต่เลือดยังไหลออก“ไม่หยุด”

“พรรคประชาธิปัตย์” กำลังจะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 วันเสาร์ที่ 18 ธ.ค.2564 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ

โดยเป็นการประชุมใหญ่ที่ต้องทำตามพ”ร”บ.พรรคการเมืองฯ ซึ่งวันดังกล่าวจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่างลง จากกรณี “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และ “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี ลาออกจากรองเลขาธิการพรรค

มีการคาดหมายกันว่า “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองประธานวิปรัฐบาล จะเข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรคปชป.อย่างเต็มตัว เพื่อนำทัพ ปชป.กลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ในภาคใต้อีกครั้ง เพราะเลือกตั้งรอบหน้า พรรคปชป.มีเดิมพันสำคัญคือต้องเอาเก้าอี้ส.ส.ภาคใต้ กลับคืนมาให้ได้ หลังเลือกตั้งรอบที่แล้วได้มาแค่ 23 เก้าอี้เพราะถูก “พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ประชาชาติ” แย่งเก้าอี้ไปเพียบ จนทำให้ปชป.กลายเป็นพรรคขนาดกลาง

อย่างไรก็ตาม เฉพาะหน้า “แกนนำพรรคปชป.” โดยเฉพาะสองคีย์แมนสำคัญ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรค-เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค คงต้องแก้ปัญหา เรื่อง “เลือดไหลออก-ทัพแตก” ที่เป็นปัญหาภายในให้ได้เสียก่อน เพราะดูจากสถานการณ์ภายในพรรคปชป.ยามนี้แล้ว ปัญหาเลือดไหลออกคงไม่หยุดแค่ที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต ส.ส.พัทลุงแปดสมัย-อดีตรมว.วัฒนธรรม-อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเตรียมลาออกจากพรรคปชป. ที่อยู่มา 29 ปี เพื่อไปอยู่กับพรรคการเมืองตั้งใหม่ ซึ่งก็คือพรรคสี่กุมาร อดีตพลังประชารัฐ

เพราะล่าสุดก็มีแนวโน้มจะมีคนในพรรคลาออกกันไปอีกหลายคน อย่างรายล่าสุดที่ตกเป็นข่าวก็คือกรณีของ “สามารถ มะลูลีม” อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์สองสมัย ที่สอบตกในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพราะแพ้ให้กับ “อนาคตใหม่” อาจจะกลายเป็นอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์คนล่าสุด ที่โบกมือลาพรรคประชาธิปัตย์ ไปอยู่กับกลุ่มการเมือง-พรรคการเมืองอื่น  

หลังเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา เขาได้รับการแต่งตั้งจาก “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เป็น “ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” โดยเป็นที่รู้กันว่า “บิ๊กวิน-พล.ต.อ.อัศวิน” คือแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.อิสระ โดยการสนับสนุนของพรรคพลังประชารัฐ

ทำให้มีการจับตามองว่า “สามารถ” อาจจะเตรียมไปร่วมงานกับพลังประชารัฐในการเลือกตั้งรอบหน้า แต่ตอนนี้ก็จะไปช่วยเสริมทีพให้กับ “พล.ต.อ.อัศวิน” ในช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก่อน เพื่อสร้างฐานเสียงทำคะแนนในกลุ่มชาวไทยมุสลิมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีอยู่หลายเขต ไม่ใช่แค่เขตเลือกตั้งเดิมของ “สามารถ” คือย่านสวนหลวง-ประเวศ-เท่านั้น อีกทั้งตอนนี้ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตเดียวกับ “สามารถ” ที่แพ้ให้กับ “อนาคตใหม่” เช่นกัน คือ “ธันวา ไกรฤกษ์” ก็ออกจากพลังประชารัฐไปแล้ว ทำให้ “พลังประชารัฐ” ดัน “สามารถ” เสียบแทนได้ทันที

คำถามทางการเมืองจึงตามมาว่า “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์” หัวหน้าพรรคปชป. “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาธิการพรรคปชป. รวมถึงแกนนำพรรคปชป.คนอื่นๆ เช่น “องอาจ คล้ามไพบูลย์” รองหัวหน้าพรรคปชป.ดูแลกทม. จะแก้ปัญหาเลือดไหลออก-ปชป.ทัพแตกอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ก็มี อดีตส.ก.-ส.ข. ระดับเกรดเอของปชป. ทยอยลาออกจากปชป.ไปอยู่กับทั้ง “เพื่อไทย-พลังประชารัฐ-ไทยสร้างไทย” จำนวนมาก

แม้ที่ผ่านมา ปชป.จะยิงแคมเปญ “เลือดใม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ” ด้วยการดึง “อดีตส.ส.ปชป.” กลับเข้าพรรค เช่น อดีตส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เลือกตั้งรอบที่แล้ว ย้ายออกไปอยู่กับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ตอนนี้หลายคนก็ย้ายกลับปชป.แล้ว ไม่ว่าจะเป็น “เจะอามิง โตะตาหยง-สุรเชษฐ์ แวอาแซ-กูอาเซ็ม กูจินามิง” เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ได้ ผู้สมัครหน้าใหม่ที่จะมาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่เช่น การได้ “เมธี อรุณ” นักร้องนำวงลาบานูน มาเตรียมส่งลงสมัครส.ส.นราธิวาส เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม คนก็มองว่า หลายคนที่เดินเข้าปชป.เวลานี้ ชื่อชั้นยังไม่ถึงกับน่าจะสร้างความมั่นใจได้วา ปชป.จะได้เก้าอี้-คะแนนเพิ่ม หากเทียบกับคนที่มีข่าวว่าอาจจะออกจากพรรคปชป.

เพราะอย่าง “อันวาร์ สาและ” ที่เป็นส.ส.ปัตตานี ซึ่งเป็นส.ส.เขตในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนเดียวของปชป. ก็มีข่าวว่า เลือกตั้งรอบหน้า หากเคลียร์กับกลุ่มจุรินทร์ไม่ได้ ก็มีหลายพรรคการเมืองเตรียมอ้าแขนรับเข้าพรรค ไม่ว่าจะเป็น “พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย” เป็นต้น รวมถึงแม้แต่กับ “พรรคใหม่สี่กุมาร” ก็อาจตามจีบอยู่เช่นกันเพื่อให้ไปอยู่กับ “นิพิฎฐ์” ด้วยกัน

รวมถึงก็มีข่าวว่า อดีตส.ส.กทม.ปชป.บางคน ก็กำลังคิดจะแยกวง ออกไปอยู่พรรคอื่นเช่นกัน อาทิเช่น สองพี่น้อง “จันทรพิทักษ์” คือ “วิลาศ-สุรันต์ จันทร์พิทักษ์” สองอดีตส.ส.กทม.ปชป. ก็มีกระแสข่าวว่าหลายพรรคก็ชวนให้ไปอยู่ด้วย เพราะอย่าง “วิลาศ” เองก็เป็นอดีตส.ส.กทม.พลังธรรม จึงมีความคุ้นเคยกับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่กำลังเร่งทำพื้นที่ในกทม.ให้กับพรรคไทยสร้างไทยอยู่ อย่างไรก็ตาม ก็มีข่าวว่าแกนนำพรรคปชป. อย่าง “คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช” รมช.ศึกษาธิการ ก็พยายามรั้งไม่ให้สองพี่น้องตระกูลจันทร์พิทักษ์ ย้ายออกจากพรรคปชป. และก็มีอดีตส.ส.กทม.อีกหลายคน ที่หลังเลือกตั้ง 2562 จบไปแล้วโดยสอบตก หลายคนก็แทบไม่เดินเข้าพรรคปชป.เลย

ไม่ว่าจะเป็น “นาถยา เบ็ญจศิริวรรณ” หรือ “นาถยา แดงบุหงา” อดีตส.ส.กทม.ปชป. และอดีตนักแสดงชื่อดัง ซึ่งเลือกตั้งรอบที่แล้ว แพ้ให้กับ “พลังประชารัฐ” แบบหมดรูป และก่อนหน้านั้น ก็มีข่าวว่าจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย แต่เปลี่ยนใจนาทีสุดท้าย หรือ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” ลูกเลี้ยงสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.กทม.หนึ่งสมัย-อดีตโฆษกกปปส.  ที่แพ้ให้กับ “จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์” จาก “อนาคตใหม่” ที่ตอนนี้อยู่พรรคก้าวไกลและเลือกตั้งรอบหน้าข่าวว่า “จิรวัฒน์” จะย้ายไปอยู่เพื่อไทย จนทำให้ “เอกนัฎ” น่าจะสู้ได้ลำบากเสียแล้วในพื้นที่

ซึ่งระยะหลัง “เอกนัฏ” ก็ไปช่วยงาน “ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รมว.อุดมศึกษาฯ และหัวหน้าพรรครปช.เต็มตัว ทำให้ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า “เอกนัฎ” จะกลับพรรคปชป.หรือไม่ หรือจะไปช่วยอยู่กับพรรครปช.เต็มตัวไปเลย

ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่แกนนำพรรคปชป. กำลังเร่งสาละวนกับการจัดทัพเตรียมเลือกตั้ง ทั้งผู้ว่าฯกทม. ที่คาดว่าจะเปิดตัว “ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง” เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของปชป. ในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงการเตรียมส่งคนลงชิงเก้าอี้ ส.ก. 34 เขต รวมถึงการจัดทัพเตรียมหาคนลงสมัครส.ส.เขตหลายจังหวัดทั่วประเทศ

โดยเฉพาะสองพื้นที่ซึ่งเน้นหนักเป็นพิเศษคือ ภาคใต้และกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อสภาพภายในยังมีปัญหาเลือดไหลออก จากปชป.ไปอยู่พรรคอื่น หรือบางคนยังอยู่แต่ไม่มีความชัดเจนว่าจะอยู่กับพรรคปชป.ต่อไปหรือไม่ เพราะบางคนก็กำลังชั่งน้ำหนักตัดสินใจ ว่าจะอยู่กับปชป.ต่อไปหรือจะย้ายออกไปอยู่พรรคอื่น

เลยทำให้ ภายในพรรคปชป. แม้ภายนอกจะดูนิ่งๆ ไม่มีอะไรหวือหวา หรือมีข่าวความขัดแย้งภายในกลุ่มต่างๆ เหมือนกับพรรคพลังประชารัฐ แต่จริงๆ แล้ว สภาพภายในพรรคปชป.ก็ “อึมครึม” ชวนให้อึดอัดสำหรับบางคนในพรรคปชป. ไม่ใช่น้อย ด้วยไม่รู้ว่า ที่แต่ละกลุ่ม แต่ละคนในพรรคปชป.มานั่งคุยกัน ประชุมกัน วางแผนเตรียมนโยบายหาเสียง วางยุทธศาสตร์การเลือกตั้งแต่ละภาค แต่ละจังหวัด      

ทว่าสุดท้ายแล้ว ถึงเวลา มีสัญญาณการเลือกตั้งเกิดขึ้น ที่คุยๆ วางแผนเตรียมเลือกตั้งกันมา คนที่คุยกัน สุดท้าย อาจจะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่น แถมไม่พอ อาจจะนำแนวคิด นโยบายที่คุยกันในพรรคปชป. ออกไปจากพรรคเพื่อไปใช้กับพรรคใหม่ที่ย้ายไปอยู่ด้วย

แบบนี้แหละ ที่คนในพรรคปชป.ระแวงมากที่สุด

………………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย….“พระจันทร์เสี้ยว

           

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img