วันพฤหัสบดี, เมษายน 18, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSศึกช้าง“ชล”ช้าง “คุณปลื้ม”แตกหัก“เสี่ยเฮ้ง” แค้นนี้รอวันทวงคืน!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ศึกช้าง“ชล”ช้าง “คุณปลื้ม”แตกหัก“เสี่ยเฮ้ง” แค้นนี้รอวันทวงคืน!!

แม้แกนนำพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงแม้แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่แม้ไม่ได้เป็นสมาชิก-ส.ส.พลังประชารัฐ แต่ก็ได้เป็นนายกฯเพราะพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้งหมดต่างแสดงความมั่นใจว่า…

“ศึกงัดข้อ คลื่นลมแรงกลางทะเลบางแสน-พัทยาเดือด” ระหว่าง “สนธยา คุณปลื้ม” นายกเมืองพัทยา-พี่ใหญ่ของตระกูล คุณปลื้ม บ้านใหญ่เมืองชลบุรี ที่เปิดศึกแบบไม่ไว้หน้า กับ อดีตเด็กปั้นบ้านใหญ่ “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน

จากผลพวงเรื่องปัญหาการวางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ระบบเขต 10 เขตเลือกตั้งในจังหวัดชลบุรี ในการเลือกตั้งรอบหน้า ที่ชลบุรีจะมีส.ส.เพิ่มขึ้นมาอีกสองคน จากเลือกตั้งตอนปี 2562 จากผลพวงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

โดยตามข่าวคือทาง “สุชาติ-เสี่ยเฮ้ง” อ้างสิทธิ์ในฐานะ รองหัวหน้าพรรคและรักษาการผอ.พรรคพลังประชารัฐ และส.ส.ชลบุรี ที่ตอนเลือกตั้งรอบที่แล้ว พาลูกทีมเข้ามาเป็นส.ส.ชลบุรีได้ รวมตัวเอง 3 คน ที่มากกว่ากลุ่มของสนธยา คุณปลื้ม ที่ไม่ได้ส.ส.เขตแม้แต่คนเดียว แม้แต่น้องชาย “อิทธิพล คุณปลื้ม” ที่สอบตก แต่ก็ยังได้เป็นรมว.วัฒนธรรม ทำให้ “สุชาติ” เลยจะขอเป็นหัวหน้าทีมจัดคนลงสมัครส.ส.เองเป็นส่วนใหญ่

ที่สำคัญมีข่าวว่า “เสี่ยเฮ้ง” บอกกับแกนนำพลังประชารัฐว่า “เสี่ยแป๊ะ-สนธยา” จะนำทีมของตัวเองออกจากพลังประชารัฐ ไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่นแน่นอนแล้ว พรรคจึงควรเตรียมหาคนลงสมัครส.ส.เขต แทนกลุ่มของสนธยา

ซึ่งเรื่องนี้ มีข่าวออกมานานแล้วว่า “กลุ่มสนธยา” จะย้ายออกจากพลังประชารัฐจริง โดยพรรคใหม่ที่จะไปอยู่ด้วย เป็นไปได้สูงที่จะเป็น “สร้างอนาคตไทย” ของ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” และ “กลุ่มสี่กุมาร” เพราะ “สนธยา” มีสายสัมพันธ์อันดีกับ “สมคิด” ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย หรือไม่ก็อาจจะเป็น “ชาติไทยพัฒนา” ที่กลุ่มสนธยาเคยอยู่มาก่อน รวมถึงแม้แต่กับ “ภูมิใจไทย”

สุชาติ ชมกลิ่น

การตัดสินใจว่าจะไปทางไหน “กลุ่มสนธยา” คงรอประเมินสถานการณ์ในช่วงใกล้เลือกตั้ง แม้แต่ความเป็นไปได้ที่ อาจจะกลับไปปัดฝุ่น “พรรคพลังชล” ที่ตัวเองเคยก่อตั้งตอนเลือกตั้งปี 2554 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเช่นกัน

ข่าวว่า ทั้งหมด “กลุ่มสนธยา” จะรอประเมินก่อนว่าจะเอาอย่างไร โดยเฉพาะการดูว่า สุดท้ายแล้ว พลังประชารัฐจะแตกหรือไม่ และพล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อได้หรือไม่ในตอนเลือกตั้งรอบหน้า

ข่าวที่ออกมาหลายระลอกทำนองนี้ ทำให้ “คนในพลังประชารัฐ” เชื่อว่า “กลุ่มสนธยา” คงไม่อยู่กับพลังประชารัฐแล้ว ไม่เหมือนกับ “เสี่ยเฮ้ง” ที่ยืนหยัดปักหลักอยู่พลังประชารัฐ และยืนเคียงข้างพล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด

ทำให้ “เสี่ยเฮ้ง” ได้รับความไว้วางใจและแรงสนับสนุนจากพล.อ.ประยุทธ์และแกนนำพลังประชารัฐ มากกว่ากลุ่มของสนธยา

เรียกได้ว่า “เสี่ยเฮ้ง” อยู่ในช่วง “ขึ้นหม้อ” ในพลังประชารัฐและรัฐบาล จนทำให้บดบังรัศมีของ “กลุ่มบ้านใหญ่” ของ “ตระกูลคุณปลื้ม” ทั้งในรัฐบาล-พลังประชารัฐ…จนมิด

แถมไม่พอ รู้กันในพลังประชารัฐว่า จริงๆ แล้ว “เสี่ยเฮ้ง” หักกับ “สนธยา” มานานแล้ว ตั้งแต่ตอนจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง เพราะจังหวัดชลบุรี ที่พลังประชารัฐได้ส.ส.มา 5 คน เป็นกลุ่มของเสี่ยเฮ้ง ประมาณ 3 คน ส่วนอีก 2 คน แยกกันไปคือ “สรวุฒิ เนื่องจำนงค์” อยู่กลุ่มสามมิตร และ “สะถิระ เผือกประพันธุ์” ที่อยู่กลุ่มธรรมนัส พรหมเผ่า จึงเท่ากับว่า “กลุ่มสนธยา” ไม่มีส.ส.ชลบุรีแม้แต่คนเดียว เพราะล้มเหลวในการเลือกตั้ง ลูกทีมเดิมที่ขนกันมาจากพลังชลอย่าง “ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์-พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา” แพ้หมด รวมถึง “อิทธิพล คุณปลื้ม” น้องชาย

แต่ปรากฏว่าตอนตั้งรัฐบาล “สนธยา” กลับไปเจรจาต่อรองกับ “กลุ่มสี่กุมารเดิม” ที่เคยเป็นใหญ่ในพลังประชารัฐและรวมถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อขอโควต้ารัฐมนตรี ซึ่งสุดท้ายก็ได้มา 1 เก้าอี้คือ “รมว.วัฒนธรรม” ให้กับ “อิทธิพล คุณปลื้ม”

สนธยา คุณปลื้ม

มันเลยทำให้ “สุชาติ” ไม่พอใจ เพราะมองว่า หากคิดตามหลักคณิตศาสตร์ตัวเลขส.ส.แล้ว โควต้ารัฐมนตรีของชลบุรี ควรเป็นของตัวเอง ที่นำทีมส.ส.ชลบุรีเข้ามาได้ 3 คน โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มของสนธยา แต่อย่างใด  อีกทั้งยังไปช่วยสนับสนุนให้ “สรวุฒิ” และ “สะถิระ” ชนะเลือกตั้งเข้ามาอีกด้วย แม้จะอยู่คนละกลุ่มก็ตาม ทั้งยังไปช่วยดูแลผู้สมัครพลังประชารัฐจังหวัดให้อีกด้วย เช่น “เพชรบุรี” จนชนะเลือกตั้งหลายเขต

จึงทำให้ “สุชาติ” ไม่พอใจ “สนธยา” มาตั้งแต่ช่วงนั้นแล้วเพราะมองว่าตัวเองโดน “ปาดหน้า” เอาโควต้ารัฐมนตรีไป

แต่ตอนนั้น พล.อ.ประวิตรใช้วิธีให้ “เสี่ยเฮ้ง” มีบทบาทในพรรคมากขึ้นด้วยการให้เป็น “ประธานส.ส.พลังประชารัฐ” เพื่อรอการเป็นรัฐมนตรีในอนาคต หวังลดความไม่พอใจของเสี่ยเฮ้ง ที่ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง จนสุดท้ายเมื่อมีการปรับครม.ล็อตใหญ่ “เสี่ยเฮ้ง” ก็ได้เป็นรมว.แรงงานสมใจ ด้วยแรงหนุนจาก “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กตู่” ไม่ใช่เพราะ “สนธยา” และ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม”

จึงทำให้ “สุชาติ” หักและแยกทางกันเดินกับ “สนธยา” มาร่วม 2 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นตอนเตรียมจัดคนลงส.ส.เขตชลบุรีแต่อย่างใด

และด้วยการเติบใหญ่และมีบทบาทในรัฐบาลและพลังประชารัฐ อย่างมากของ “เสี่ยเฮ้ง” ในตอนนี้ จึงทำให้ “เสี่ยเฮ้ง” ดูจะมั่นใจว่าเขาสามารถเดินบนถนนการเมือง โดยเฉพาะในแถบตะวันออก เพื่อดูแลพื้นที่เลือกตั้ง “ชลบุรี-จันทบุรี-เพชรบุรี” ให้กับพลังประชารัฐได้ โดยเฉพาะที่จ.ชลบุรี ทำให้ “สุชาติ” ต้องการเป็นหัวหน้าทีมเลือกตั้งชลบุรีให้พลังประชารัฐแทน “สนธยา” นั่นเอง

จุดนี้เลยทำให้ “สนธยา” และ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” ไม่พอใจ เพราะคงมองว่า แม้สุดท้าย หากกลุ่มตัวเองจะย้ายออกจากพลังประชารัฐไป แต่หากว่า “สุชาติ” ยิ่งมีบทบาทบารมีในจังหวัดชลบุรีมากเท่าใด ยิ่งไม่เป็นผลดีกับ “บ้านใหญ่” เพราะหากต้องมาสู้กันตอนเลือกตั้ง ไม่แน่ เผลอๆ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” อาจแพ้เลือกตั้งก็ได้!!!

ทั้งหมด คือสาเหตุที่ทำให้ “กลุ่มคุณปลื้ม” ที่แม้วันนี้ จะยืนกรานว่า ยังไม่คิดจะย้ายออกจากพลังประชารัฐ แต่ก็สะสมความไม่พอใจบทบาทการเมืองของ “เสี่ยเฮ้ง” ในพลังประชารัฐและในจังหวัดชลบุรีมานานแล้ว เพราะมองว่า หาก “สุชาติ” แข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีกับ “กลุ่มคุณปลื้ม” มากเท่านั้น

เพราะสถานะการเมืองวันนี้ของ “สนธยา” กับ “สุชาติ” กลายเป็น “คู่แข่งขัน-ฝ่ายตรงข้าม” กันแล้ว ทั้งในพลังประชารัฐและในจังหวัดชลบุรี

มันจึงเป็นที่มาของการเริ่มก่อหวอด ทำศึกใส่กันของ “สุชาติ” กับ “สนธยา” ที่เปิดฉากสาดใส่กันรัวๆ ทั้งการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและฟาดปากกันผ่านโซเชียลมีเดีย แบบไม่มีการลดราวาศอกแก่กัน ชนิด “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ” กันแล้ว หลังมีการทวงบุญคุณกัน พูดกันเรื่อง “คนทรยศ”

ของแบบนี้ ตามประสาลูกผู้ชาย ใจนักเลง ยังไงมันก็อยู่ด้วยกันยากแล้ว เปรียบเสมือน “เสือสองตัวอยู่ถ้้ำเดียวกันไม่ได้”

ดังนั้น ที่แกนนำพลังประชารัฐ รวมถึง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงมาหย่าศึกครั้งนี้

ทว่าดูจากปัญหาที่เกิดขึ้น “คนในพลังประชารัฐ” ก็รู้กันอยู่ในใจ เคลียร์กันยากแล้ว แนวโน้มแตกหักกันสูง และถึงต่อให้หย่าศึกได้ ก็คงแค่ชั่วคราว แต่ถึงตอนเลือกตั้งเมื่อไหร่ “สุชาติกับสนธยา” น่าจะแยกทางกันเดิน

บนความเป็นไปได้คือ “สุชาติ” อยู่พลังประชารัฐ ส่วน “กลุ่มสนธยา” ไปอยู่พรรคการเมืองอื่น ที่อาจจะเป็น “สร้างอนาคตไทย-ชาติไทยพัฒนา-ภูมิใจไทย” หรือแม้แต่ กลับมาฟื้น “พลังชล” เพื่อเป็นพรรคขนาดเล็ก เน้นทำพื้นที่โซนตะวันออก เป็นหลัก

การแยกทางกันเดินดังกล่าว ดูได้จากการให้สัมภาษณ์อย่างของ “เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ” ที่พูดเป็นนัยว่า กลุ่มของสนธยา วางแผนจะออกจากพลังประชารัฐนานแล้ว แต่ไม่ยอมบอกตรงๆ จนทำให้เกิดปัญหาเรื่องพื้นที่เลือกตั้งทับซ้อนกัน

“เขาไม่ได้อยู่กับทางนี้อยู่แล้ว ส.ส.ชลบุรีรู้อยู่แล้วว่า ฝั่งไหนเดินทับหาเสียงเขตเขาอยู่ ผมในฐานะ ผอ.พรรค พปชร. ได้รับสั่งการจากหัวหน้าพรรคให้จัดผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้า ซึ่งได้มีการเจรจาไปยังฝั่งคนสนิทของเขาหลายคนว่า เอาอย่างไร แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จนระยะเวลาทอดยาว และมีเหตุการณ์ที่คนใกล้ตัวของเขา มาเดินทับเขตส.ส.ของพรรค ส.ส.จึงมีความรู้สึกที่ไม่มั่นคง ดังนั้นต้องมีความชัดเจน”

ที่น่าสนใจมากกว่า ก็คือการมองไปข้างหน้า กับศึกเลือกตั้งรอบหน้าที่จะมาถึง ที่หากกลุ่มของสนธยา แยกออกจากพลังประชารัฐ แล้วต้องมาสู้กับกลุ่มของเสี่ยเฮ้ง ที่เคยเป็นพวกเดียวกันในสนามเลือกตั้งจังหวัดชลบุรี

ถ้าแบบนี้ รับประกันความมันส์ได้ว่า สนามเลือกตั้งชลบุรี รอบหน้า มันคือ “ศึกล้างตา-สงครามแห่งศักดิ์ศรี”

ที่ทั้งสองกลุ่ม จะใส่กันเต็มเหนี่ยว สู้กันจนหยดสุดท้าย จนส่งผลให้ “ชลบุรี” เป็นสนามเลือกตั้งทะเลเดือดแน่นอน

……………………

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย….“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img