วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“ม็อบ 3 นิ้ว”ฝ่อยาว “แกนนำ”เข็ด-ไม่เสี่ยง กลัวถูกถอนประกัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ม็อบ 3 นิ้ว”ฝ่อยาว “แกนนำ”เข็ด-ไม่เสี่ยง กลัวถูกถอนประกัน

ดูสงบเสงี่ยม ผิดฟอร์มไปเยอะเลยสำหรับ “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์” แกนนำม็อบสามนิ้ว สายหัวหมู่ทะลวงฟัน ที่หลายคนได้เห็นท่าที-การให้สัมภาษณ์ของ “เพนกวิน” ตอนที่ไปปรากฏตัวที่ศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อไปติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM หรือ “กำไลข้อเท้า” ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว

ภายหลังจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวออกมาได้ เพื่อกลับมาเรียนหนังสือที่คณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์

“เพนกวิน-พริษฐ์” บอกไว้ตอนไปปรากฏตัวที่ศาลอาญาว่า ยังตื่นเต้นกับอิสรภาพ และต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก เพื่อกลับเข้าสู่ชีวิตปกติทั่วไป ขณะเดียวกันรู้สึกเป็นห่วง “อานนท์ นำภา” แกนนำอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ประกันตัว

หลายคนเห็นท่าทีของ “เพนกวิน” แล้วต่างก็ดูจะแปลกใจไม่น้อย เพราะหากเป็นเมื่อก่อน เชื่อได้ว่า ป่านนี้ “เพนกวิน” คงวิพากษ์วิจารณ์ศาลที่ไม่ให้ประกันตัว “อานนท์” รวมถึง…หากเป็นสมัยก่อน “เพนกวิน” คงให้สัมภาษณ์ติดปลายนวม พูดเรื่องทิศทางการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้วต่อจากนี้ แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครได้ยินได้ฟังท่าทีดังกล่าวจาก “เพนกวิน” แกนนำม็อบสามนิ้วตัวจริง แต่อย่างใด

แม้ก่อนหน้านี้ ในคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ “เพนกวิน” ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร “เพนกวิน” จะออกมาพูดในลักษณะยังคงยืนยันในแนวคิดทางการเมืองของตัวเองต่อไป ด้วยการบอกว่า

“ผมเชื่อว่าราษฎรยังไม่ตาย ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และการต่อสู้ของประชาชนจะดำเนินต่อไป”

นั่นคือท่าทีของ “เพนกวิน” ซึ่งแม้จะยืนกราน จะยืนหยัดบนความเชื่อของตัวเองต่อไป แต่ก็จะพบว่า ท่าทีไม่ได้ดุดัน แข็งกร้าวแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว

ซึ่งดูแล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะต้องไม่ลืมว่า “เพนกวิน” หลังถูกศาลเพิกถอนการประกันตัวในคดีต่างๆ ก็ถูกส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นับรวมจนถึงวันปล่อยตัวก็ร่วม 198 วัน

สิ่งที่เกิดขึ้น มันคงทำให้ “เพนกวิน” ย่อมต้องตระหนักแล้วว่า ช่วงเวลาที่สูญเสียอิสรภาพไป หลังจากนี้เขาควรกำหนดเส้นทางชีวิตและการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไร เพราะของแบบนี้ หากใครไม่เจอกับตัวเองก็คงยากจะรู้สึกได้

ผนวกกับด้วยเงื่อนไขการปล่อยตัวที่ศาลอาญา กำหนดไว้หลังอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อให้โอกาส “เพนกวิน” ออกไปเรียนหนังสือ มีกำหนด 3 เดือน โดยครบกำหนดวันที่ 24 พ.ค.2565

ที่จะพบว่า เงื่อนไขที่ศาลอาญากำหนดไว้ ค่อนข้างคุมเข้มอย่างมาก เช่น ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ที่อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียหรือด้อยค่าต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาลในทุกด้าน-ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 18.00-06.00 น. ของวันใหม่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล

แต่ที่สำคัญเลยและเป็นข้อกำหนดที่แตกต่างจากแกนนำม็อบสามนิ้วคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ

“ห้ามโพสต์ข้อความปลุกปั่นในสื่อโซเชียลมีเดีย”

เพราะของแกนนำม็อบคนอื่นๆ พบว่า ศาลแค่ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

โดยเงื่อนไข-กฎเหล็ก การปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลวางไว้ ทำให้การที่ “เพนกวิน” ที่เป็นเซเลบเบอร์ต้นๆ ของม็อบสามนิ้ว ที่มีคนติดตาม มีแฟนคลับทางโซเชียลมีเดียค่อนข้างเยอะ หลังจากนี้ จะขยับทางการเมือง ด้วยการเผยแพร่ความคิดอะไรต่างๆ จะทำได้ยากแล้ว เพราะหากทำแล้วถูกมองหรือถูกตีความว่า มีการโพสต์หรือแสดงความเห็นใดๆ ที่เข้าข่าย “ปลุกปั่น” มันก็เสี่ยงที่จะถูกยื่นถอนประกันตัวตัวทันที

เพราะศาลอาญา ระบุไว้แล้วตอนมีคำสั่งให้ปล่อยตัว “เพนกวิน” ว่า “หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ศาลอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวอันมีเวลาจำกัด ซึ่งหาก “เพนกวิน” โดนศาลมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัว จะยิ่งทำให้การยื่นขอถอนประกันตัว จะยิ่งทำได้ยากกว่าที่ผ่านมาอีก

ด้วยเหตุนี้ อย่าได้แปลกใจ หาก “เพนกวิน” จะมีท่าทีทางการเมืองที่ไม่ดุดัน แข็งกร้าวเหมือนเดิม

เรียกได้ว่า จำเป็นต้อง “ลดโทน” ตัวเองลงไปโดยปริยาย

เพราะการปล่อยตัวรอบนี้ เป็นแค่การปล่อยตัวชั่วคราวก่อน 3 เดือน และเมื่อครบ 3 เดือน คนก็มองว่า แม้ถึงตอนช่วงปลายเดือนพ.ค. ที่เข้าสู่ช่วงปิดภาคการศึกษาแล้ว หากฝ่ายเพนกวินและทีมทนายความ ร้องต่อศาลขอขยายเวลาออกไปอีก โดยที่หากศาลดูแล้ว “เพนกวิน” ความประพฤติอะไรต่างๆ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว ก็ย่อมทำให้โอกาสที่จะได้รับการขยายเวลาออกไปหลังครบกำหนดเดือนพ.ค. ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

@iLawFX

เพราะก็เคยมีเคสตัวอย่างกับกรณี รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล” แกนนำกลุ่มม็อบสามนิ้ว ที่ถูกเอาผิดคดี ม.112 กรณีปักหมุดสนามหลวงวันที่ 19-20 ก.ย.63 ที่เคยได้รับการประกันตัวเพื่อออกมาสอบ จนครบกำหนดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 ซึ่งวันดังกล่าว ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็อนุญาตให้ประกันตัว “รุ้ง-ปนัสยา” โดยให้ขยายเวลาประกันตัวไปจนถึงวันที่ 25 พ.ค.และต่อมา 13 ม.ค.65 ทางศาลอาญา ที่ “รุ้ง” ตกเป็นจำเลยในคดีที่ถูกแยกมาฟ้องที่ศาลอาญา รัชดาฯ พบว่าวันดังกล่าว ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกัน “รุ้ง-ปนัสยา” ในคดี 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และคดี 2 ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว ต่อไปจนถึงวันที่ 16 มิ.ย. 65 และให้ยกเลิกเงื่อนไขที่ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอีเอ็ม 

เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้พอประเมินได้ว่า จากช่วงนี้ไปจนถึงเกือบกลางเดือนมิ.ย.65 สองแกนนำม็อบสามนิ้ว “เพนกวิน-รุ้ง” ที่อยู่ในกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม คงไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือทำอะไร ที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกเพิกถอนการประกันตัวแน่นอน สู้เอาเวลาไปเรียนหนังสือและเตรียมตัวสอบปลายภาค คงจะดีกว่า

ส่วนกองเชียร์-แนวร่วมม็อบสามนิ้ว หลังจากนี้ก็ต้องลุ้นต่อไปบนความหวังว่า “ทนายอานนท์ นำภา” ที่เป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ แกนนำม็อบสามนิ้ว ที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ก็น่าจะมีข่าวดีได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเหมือนกับแกนนำคนอื่นๆ บ้าง หลังพบว่าถึงปัจจุบัน แกนนำที่เป็นระดับตัวท็อป ส่วนใหญ่ถูกปล่อยตัวออกมาเกือบหมดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็น “รุ้ง-ปนัสยา” ที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อ 1 ธ.ค.64 หลังถูกแจ้งข้อหาและเอาผิดในหลายคดี อาทิ คดีเกี่ยวกับมาตรา 112 ก็เช่น คดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร, คดีชุมนุม 2 ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว, คดี แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน, คดีชุมนุมอยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป เป็นต้น

และตามมาด้วย เมื่อ 14 ม.ค.65 ที่ศาลให้ประกันตัว “เบนจา อะปัญ” แกนนำม็อบสามนิ้ว สายแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อให้กลับมาเรียนหนังสือที่ธรรมศาสตร์เช่นกัน และตามมาด้วยสองแกนนำคนดังคือ “ไผ่ ดาวดิน-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา” ที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 10 ก.พ.65 และถัดจากนั้นอีกหนึ่งวัน ก็เป็นคิวของ “ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก” ที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อ 11 ก.พ.65

เพนกวิน-รุ้ง-ไผ่-ไมค์

โดยจะพบว่า ทั้ง “รุ้ง-เบญจา-ไผ่-ไมค์-เพนกวิน” ส่วนใหญ่ ศาลก็จะวางเงื่อนไขการปล่อยตัวคล้ายๆ กันหมด คือ ห้ามไปกระทำการใดๆ ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์-ห้ามไปร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง-ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 18.00-06.00 น. ของวันใหม่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล 

ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ล้วนทำให้ “แกนนำม็อบสามนิ้ว” ไม่สามารถออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือเกี่ยวกับม็อบได้เลย แม้แต่แกนนำและแนวร่วมคนอื่นๆ หลายคน ก็เจอเงื่อนไขลักษณะเดียวกัน เช่น “มายด์-ภัทราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล”-“ครูใหญ่-อรรถพล บัวพัฒน์” ที่ถูกอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในคดี อ่านจดหมายหน้าสถานทูตเยอรมัน เมื่อวันที่ 26 ต.ค.64 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวหลังถูกฟ้องตกเป็นจำเลยต่อศาล แต่ศาลก็ตั้งเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวไว้ว่า ห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสียชื่อเสียงสถาบันกษัตริย์ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต และต้องมาตามที่ศาลนัดทุกครั้ง เป็นต้น

เมื่อแกนนำส่วนใหญ่ของม็อบสามนิ้ว ล้วนติดล็อกด้วยเงื่อนไขการปล่อยตัวของศาลข้างต้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า “ม็อบสามนิ้ว” คงฝ่อไปสักระยะใหญ่ๆ คือยังเป็นม็อบที่มีแนวร่วม มีแฟนคลับ กองเชียร์อยู่จำนวนไม่น้อย แต่การเคลื่อนไหว หลักๆ ก็ทำได้แค่ในโซเชียลมีเดีย

ม็อบราชประสงค์ 12ธ.ค.64 @iLawClub

เมื่อเป็นเช่นนี้ ที่แนวร่วมม็อบสามนิ้ว บางรายโหมโรงไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่า ปีนี้ 2565 ขบวนการม็อบสามนิ้วจะกลับมารวมตัวเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่มาถึงปัจจุบัน ผ่านมา 2 เดือนของปี 2565 ก็ยังไม่เห็นวี่แววหรือเห็นกระแสอะไรที่จะทำให้เห็นได้เลยว่า “แนวร่วมม็อบสามนิ้ว” จะกลับมาก่อม็อบ-เคลื่อนไหวอะไรให้ สั่นสะเทือนวงการการเมืองได้ อย่างที่แกนนำบางคนคุยโวเอาไว

ผนวกกับปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น สถานการณ์โควิด ที่ยังไม่คลี่คลายดี-ปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้คนต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง จนไม่มีเวลามาสนใจเรื่องม็อบอะไรในตอนนี้ รวมถึงสถานการณ์การเมืองเอง ที่ก็เห็นชัดว่า อายุของสภาฯและรัฐบาลชุดนี้ เหลืออีกแค่ปีเดียว ก็จะครบเทอมแล้วในเดือนมีนาคมปีหน้า หากรัฐบาลอยู่ครบเทอม ผนวกกับปัญหาการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล “พลังประชารัฐ” เอง ก็อาจทำให้อยู่ไม่ครบเทอมด้วยซ้ำ ดังนั้น หนึ่งปีที่เหลืออยู่ของรัฐบาล หากกรณีไม่มีการยุบสภาฯ จึงไม่จำเป็นเลยที่ม็อบต้องออกมาไล่รัฐบาล ให้แกนนำเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง

ขณะที่เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ยังไง ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากพรรคการเมืองฝ่ายสามนิ้วอย่าง “พรรคก้าวไกล” ไม่ได้เสียงส.ส.เกินกึ่งหนึ่งในสภาฯ ดังนั้นการแก้ไขหรือยกเลิก 112 ในทางปฏิบัติจึงทำได้ยากและหากคิดจะทำ ก็ต้องเคลื่อนไหวอีกยาว โดยที่ก็ไม่เห็นวี่แววเลยว่า การเคลื่อนไหวเรื่องนี้ จะสำเร็จได้

ปัจจัยทั้งหมด จึงเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ “ม็อบสามนิ้ว” ตอนนี้เลยฝ่อไปโดยปริยาย โดยมีแนวโน้มว่า คงเป็นแบบนี้ไปอีกสักระยะยาวๆ เลย

……………………………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง      

โดย….“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img