วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“เด็ดหัว-สอยนั่งร้าน”ระเบิดศึกซักฟอก “บิ๊กตู่”เป็นต่อ...ถ้าเกมไม่พลิก!!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เด็ดหัว-สอยนั่งร้าน”ระเบิดศึกซักฟอก “บิ๊กตู่”เป็นต่อ…ถ้าเกมไม่พลิก!!!

หลายคนเห็นโปสเตอร์ “ยุทธการ เด็ดหัว-สอยนั่งร้าน” ของ “พรรคเพื่อไทย” ที่ปล่อยออกมา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างร้องว้าว…กันยกใหญ่ กับการบิวด์การเมืองของเพื่อไทย เพื่อกระตุ้นความสนใจของประชาชนให้ติดตามศึกซักฟอกรอบนี้

เพราะเป็นการฉีกลุคทางการเมืองแบบเดิม ๆอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่า หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน อย่างกับโปสเตอร์หนังหรือซีรี่ส์เกาหลียอดฮิต เรียกได้ว่า มุขนี้ของเพื่อไทย ได้ผลจริงๆ กับการเรียกร้องความสนใจทางการเมืองดังกล่าว

เลยยิ่งทำให้ผู้คนยิ่งสนใจศึกซักฟอกรอบนี้กันมากยิ่งขึ้น กับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติครั้งสุดท้ายของสภาฯชุดปัจจุบัน ที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับอีก 10 รัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นตลอดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ 19-22 ก.ค.และลงมติในเช้าวันเสาร์ 23 ก.ค.

ทั้งที่โดยปกติในทางการเมือง คนสนใจศึกซักฟอกครั้งนี้อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” นำพรรคเศรษฐกิจไทยที่มีส.ส. 16 เสียง “ถอนยวง” ขอเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว ไม่เล่นการเมืองแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ ฝ่ายค้านก็ไม่ใช่-รัฐบาลก็ไม่เชิง พร้อมกับมีข่าวว่าไปดีลกับพรรคจิ๋ว ให้ลงมติ “ไม่ไว้วางใจ” รัฐมนตรีบางคน โดยเฉพาะพวกรัฐมนตรีสายพลังประชารัฐ จนทำให้รอบนี้อาจมีรัฐมนตรีบางคน คะแนนไว้วางใจอาจน้อยกว่าคนที่ได้เยอะสุดพอสมควร

ทั้งหมดเลยยิ่งทำให้ คนก็ยิ่งติดตามศึกซักฟอกรอบนี้มากขึ้น แม้แวดวงการเมือง ยังประเมินกันว่า เมื่อไล่เช็คเสียงดูแล้ว ถึงต่อให้ ส.ส.เศรษฐกิจไทย 16 เสียง บวกกับส.ส.พรรคเล็กอีกบางส่วน รวมกัน ต่อให้กลุ่มนี้ไปโหวตออกเสียง “ไม่ไว้วางใจ” กับฝ่ายค้าน เสียงก็ยังห่างจากฝ่ายรัฐบาลระดับหนึ่ง ผนวกกับในกลุ่มส.ส.พรรคเล็กเอง โดยเฉพาะกลุ่ม 16 เสียงก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ เพราะส.ส.พรรคเล็ก บางส่วนส่งสัญญาณว่า อาจจะไปโหวตไว้วางใจให้ “พล.อ.ประยุทธ์” แต่อาจไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีบางคน

อีกทั้งก็ยังมีกระแสข่าวว่า ใน 16 เสียงของส.ส.เศรษฐกิจไทยเองเวลานี้ ก็อาจมี “บางคน” มาโหวตไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของรัฐบาล โดยเฉพาะพลังประชารัฐ เพราะข่าวว่า ส.ส.เศรษฐกิจไทยบางส่วน ก็ไม่แฮปปี้ที่จะอยู่กับ “ร.อ.ธรรมนัส” ต่อไปและกำลังจะกลับบ้านเก่า พลังประชารัฐหรือย้ายไปภูมิใจไทย จนมีข่าวว่าพร้อมจะแหกโผ ไม่ฟังคำสั่ง “ร.อ.ธรรมนัส” ก็ได้ หากพร้อมยอมหักกันจริง

รวมถึง “ส.ส.งูเห่า” ฝ่ายค้านที่อยู่ในพรรครัฐบาลอย่าง “ภูมิใจไทย” ที่มีส.ส.เพื่อไทยร่วมๆ 7 คนและ “ก้าวไกล” อีกประมาณ 5-6 คน รอบนี้ก็ยังน่าจะพร้อมโหวตมาในทางฝ่ายรัฐบาลแบบไม่มีแตกแถว จึงทำให้ยัง มีการประเมินกันว่า เสียงส.ส.รัฐบาล น่าจะโหวตไว้วางใจ มากกว่าโหวตไม่ไว้วางใจ จนทำให้ “พล.อ.ประยุทธ์” และ “10 รัฐมนตรี” ผ่านศึกอภิปรายครั้งนี้ไปได้

ส่วนเรื่องว่ารอบนี้จะมีการ “แจกกล้วย” หรือไม่ คนในวงการเมืองจาก “ส.ส.จากพรรคขนาดเล็ก” และ “แกนนำพรรคเพื่อไทย” วิเคราะห์เรื่อง “การแจกกล้วย-การล็อบบี้เสียงในสภาฯ” ไว้ในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนระเบิดศึกซักฟอก ที่มองคล้ายคลึงกัน อันสรุปความว่า หากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจะแจกกล้วยเพื่อล้มรัฐบาล ล้มพล.อ.ประยุทธ์ มองว่า คงไม่มีคิดจะลงทุนด้วยวิธีการแบบนี้ เพราะ “เสี่ยงจะเสียเงินฟรี” เพราะไม่รู้ว่าแจกไปแล้ว จะมีการเบี้ยวการเกิดขึ้นหรือไม่ คือรับไปแล้วแต่ไม่ทำตาม ยิ่งตอนนี้ช่วงปลายสมัยของสภาฯแล้ว เรียกได้ว่า ไม่มีใครกลัวใคร พร้อมจะหักได้ตลอด

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ซักฟอกรอบที่แล้วเดือนกันยายน 2564 ก็ยังมีใครบางคนที่ไปดีลเรื่องแจกกล้วยตอนช่วงจะมีการโหวตลงมติ แต่สุดท้าย มาถึงตอนนี้ ก็ยังมีการ “ค้างจ่าย” กันอยู่ คือนัดแนะให้ลงมติไปทางใดทางหนึ่งแล้ว แต่สุดท้าย ไม่ทำตามข้อตกลงแบบที่คุยกันไว้ ทำให้ “บางคน” เข็ดกันไปตามๆ กัน

ที่สำคัญ ในทางการเมือง “มันไม่คุ้ม” เนื่องจากอายุรัฐบาล-อายุสภาฯ ก็เหลืออีกแค่ประมาณไม่ถึงเก้าเดือน ถ้าจะต้องเสียเงินระดับ “เก้าหลัก” เพื่อล้มนายกฯกลางสภาฯ แล้วเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนตัวนายกฯ เลือกนายกฯคนใหม่ เข้ามาบริหารประเทศช่วงสั้นๆ

ซึ่งถ้าเกิดพล.อ.ประยุทธ์ หลุดจากนายกฯกลางสภาฯจริง ก็ต้องมาเสียเวลาเรียกประชุมร่วมรัฐสภา โหวตนายกฯคนใหม่ ไหนจะต้องมาตั้งรัฐบาล ฟอร์มครม. แถลงนโยบาย ให้เร็วสุด…ก็อย่างต่ำหนึ่งเดือนครึ่ง เท่ากับก็เหลือเวลาอีกแค่เจ็ดเดือน สภาฯก็ครบวาระแล้ว แม้ต่อให้จะได้เป็นรัฐบาลรักษาการ อีกสักระยะ มันก็ทำอะไรมากไม่ได้

อีกทั้ง หากฝ่ายที่คิดจะทำเพื่อหวังเข้ามาเป็นรัฐบาล โดยการล้มพล.อ.ประยุทธ์กลางสภาฯ โดยที่ข้อมูลและประเด็นการอภิปรายของฝ่ายค้านในช่วง 19-22 ก.ค. ฝ่ายค้านไม่ได้มีหลักฐานเด็ด หลักฐานการทุจริตมาแสดงให้ประชาชนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจ แต่พล.อ.ประยุทธ์ถูกล้มโดยใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ต่อให้ “คนที่ทำ” ทำสำเร็จ แล้วคิดจะเข้ามาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ ก็เชื่อว่าคนไม่ยอมรับ จะเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม แม้แต่กองเชียร์ฝ่ายตัวเอง ก็อาจไม่ยอมรับกับวิธีการแบบนี้

ด้วยเหตุนี้ หากถามว่าตอนช่วงสองวันสุดท้ายก่อนการลงมติ จะมีการเคลื่อนไหวแจกกล้วยเพื่อขอเสียงล้มรัฐบาล จะเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าดูจากปัจจัยข้างต้น เรื่องอายุของรัฐบาล อายุของสภาฯ และความชอบธรรมทางการเมือง แวดวงการเมืองเลยมองว่า คงไม่มีใครคิดจะเสี่ยง เพราะเสี่ยงถูกเบี้ยวสูงและไม่คุ้ม

เพราะอย่าง “เพื่อไทย” เอง “แกนนำพรรค” และ “ทักษิณ ชินวัตร” มั่นใจว่า เลือกตั้งเมื่อใด ชนะการเลือกตั้งแน่นอน ชนะแบบแลนด์สไลด์ และจะรวมเสียงส.ส.จัดตั้งรัฐบาลเกินกึ่งหนึ่งได้ และตอนนี้อายุสภาฯก็เหลือไม่ถึงเก้าเดือน แล้วทำไม “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะต้องมาล้มรัฐบาลประยุทธ์ ตอนนี้ด้วยวิธีการแจกกล้วย สู้รอเลือกตั้งเมื่อใด เข้าสู่สนามเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งจากชัยชนะที่ประชาชนมอบให้ ย่อมเท่ห์กว่า สง่างามกว่า และอยู่ได้นานกว่า เส้นทางนี้ย่อมดีกว่า ที่คิดจะล้มรัฐบาลประยุทธ์ ด้วยวิธีการนอกระบบ ใช้กล้วย เป็นตัวล่อ

เลยทำให้มีการจับจ้องกันว่า หากจะมีการ “แจกกล้วย” กันจริง ก็น่าจะเป็นการแจกกล้วยจากฝ่ายรัฐบาล คืออาจจะมี “รัฐมนตรีบางคน” ที่มีปัญหา ชี้แจงฝ่ายค้านไม่ได้ เป็นรัฐมนตรีที่ไม่ค่อยมีพรรคพวก มีปัญหากับคนในพรรค และที่สำคัญ ไม่ถูกกับ “ร.อ.ธรรมนัส” ตั้งแต่สมัย “ร.อ.ธรรมนัส” เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และเกรงว่า “ร.อ.ธรรมนัส” กับ “ส.ส.พรรคเล็ก” จะรวมเสียงกันโหวตไมไว้วางใจตัวเอง จนทำให้ได้คะแนนเสียงไม่ไว้วางใจมากกว่ารัฐมนตรีคนอื่น จนกลายเป็นจุดอ่อน-ถูกดิสเครดิตทางการเมือง จนอาจนำไปสู่การถูกปรับครม.รอบสุดท้าย ที่ข่าวว่าอาจจะมีกาปรับในปลายเดือนส.ค.นี้ เลยทำให้ “รัฐมนตรีคนนี้” อาจต้องใช้วิธีให้ “กล้วย” กับส.ส.บางส่วน เพื่อขอเสียงไว้วางใจให้กับตัวเอง

แวดวงการเมือง โดยเฉพาะจากพรรคเล็กและฝ่ายค้าน เลยมองกันว่า หากรอบนี้จะมีการแจกกล้วยกันจริง ก็น่าจะมาจากคนในชั้วรัฐบาล มากกว่าที่จะมาจากคนในซีกฝ่ายค้าน ยิ่งเมื่อหากเช็คเสียงดูแล้ว ยังไงฝ่ายค้าน ต่อให้มีเสียงส.ส.พรรคธรรมนัสและพรรคเล็กมาโหวตให้ฝั่งฝ่ายค้าน เสียงก็ยังน้อยกว่ารัฐบาลอยู่ดี ดังนั้น ในปีกฝ่ายค้าน คงไม่มีใครคิดจะไปแจกกล้วย เพราะรู้ว่าแจกไป ก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วจะแจกกล้วย ควักกระเป๋าเพื่ออะไร

ซึ่งแนววิเคราะห์มุมดังกล่าว สุดท้ายจะออกมาตามนี้ หรือไม่ ต้องรอดูช่วงการล็อบบี้ขอเสียงโหวตในช่วง 1-2 วันสุดท้ายก่อนการลงมติ 23 ก.ค.

ที่ต้องบอกไว้ว่า แม้ตอนนี้ สถานการณ์เรื่องเสียงโหวตในสภาฯ ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล ยังเป็นต่อ แต่ของแบบนี้ ก็ประมาทไม่ได้เด็ดขาด เกมอาจพลิกได้ทุกเมื่อ!!!!

……………………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย…“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img