สัปดาห์แรกของปีกระต่ายผ่านไป ประเด็นการเมืองยังวนอยู่ในลูปเดิม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำลังดูฤกษ์สมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติและการจับขั้วรัฐบาลล่วงหน้าก่อนเลือกตั้ง โดยจุดพลุตีกัน “วุฒิสภาตรา ป.” ปิดสวิตซ์ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ หรือโหวตสนับสนุนพรรคการเมืองที่รวบรวมเสียงข้างมากได้เกิน 250 เสียง
“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หมายมั่นปั้นมือเป็นพรรคนัมเบอร์วันหลังเลือกตั้ง ถึงกับประกาศต้นปี ดักคอวุฒิสภา “ขอให้ส.ว.ยึดหลักการแฟร์ พรรคไหนรวมเสียงถึง 251 ต้องให้เกียรติประชาชน” ห่มเสื้อคลุมประชาธิปไตย ปะทะวุฒิสภาที่สวมเสื้อคลุมอำนาจแห่งคสช.เอาไว้
แต่ดูลีลา “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา สะท้อนให้เห็นว่า “วุฒิสภาตรา ป.” เปิดสวิตซ์ส.ว. โหวตเลือกแน่ ยึดหลักความมั่นคง
ดูตามรูปเกมเชื้อไฟแห่งความขัดแย้งปะทุขึ้นอีกรอบแน่ บนสภาพของบ้านเมืองบอบบาง พร้อมพังพาบได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นก่อนการเลือกตั้ง ควรใช้พลังนักวิชาการ เอ็นจีโอ ภาคประชาชน องค์กรสื่อมวลชน จุดกระแส “ปิดสวิตซ์ ส.ว.” ให้ดังกระหึ่ม
และใช้พลังในรัฐสภา ซึ่งกำลังพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นนี้ ชำแหละให้สังคมได้เห็นถึงหายนะของประเทศ
“วุฒิสภาตรา ป.” ก็ต้องล้างบาป โดยรีบศึกษาญัตติเสนอให้ครม.จัดทำประชามติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พร้อมการเลือกตั้งส.ส.ที่กำลังใกล้เข้ามา เพื่อทดแทนรัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นฝ่ายยกร่าง
ตามไทม์ไลน์ หลังญัตตินี้ผ่านสภาผู้แทนราษฎร 3 พ.ย.65 เขี่ยลูกให้วุฒิสภา กลับถูกดองเค็ม ตั้งคณะกรรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษา แม้ครบกำหนด 20 ธ.ค.65 ก็ขอต่อเวลาศึกษาออกไปอีก 45 วัน
โดยยกแม่น้ำ 100 สายเชิญทั้งบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้รายละเอียดเพิ่ม หวั่นการออกเสียงประชามติครั้งแรกของประเทศเกิดปัญหา อย่างน้อยประธานกมธ.พ.ร.บ.ประชามติ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ 60 ตัวแทนสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
คงลืมไปว่า ทั้งพ.ร.บ.ประชามติ รัฐธรรมนูญ 60 หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับการทำประชามติครั้งแรก ส่วนใหญ่ผ่านสายตาบรรดาส.ว.มาแล้วทั้งหมดทุกตัวอักษร
เพราะเป็นกฎหมายที่คลอดออกจากอำนาจคสช. และคสช.ก็แต่งตั้งวุฒิสภายกล็อต
ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นใดที่วุฒิสภาชุดนี้เตะถ่วง กลับกันต้องรีบลงมติญัตตินี้ส่งให้ครม.โดยเร็วก่อนยุบสภา เพื่อถอดชนวนไฟออกจากประเทศไทย ถึงขั้นระดับอดีตนายกฯ ที่ขึ้นสู่อำนาจในช่วงมีความขัดแย้ง “พี่มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย้ำหัวหมุดหลายรอบ…
“ให้ปิดสวิตซ์อำนาจส.ว.ก่อนเลือกตั้ง และจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญพร้อมวันเลือกตั้ง เพื่อถอดปมใหญ่แห่งความขัดแย้งออกไป”
เพื่อเปิดพื้นที่ให้พรรคการเมืองแข่งขันแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ รองรับปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ปัญหาการเมืองที่นับวันยิ่งซับซ้อน
ไม่เช่นนั้นต่อให้ 10 ดรีมทีมเศรษฐกิจภายใต้การนำของพรรคไหน ก็แก้วิกฤติประเทศเชิงโครงสร้างไม่ได้ซ้ำเติมวิกฤติความขัดแย้งในประเทศไทยที่ยากเกินเยียวยา
…………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย….#ราษฎรเต็มขั้น
