พรรคการเมือง ปลุกเสกนโยบายแก้ปัญหาประเทศระยะสั้น ซื้อใจ “โหวตเตอร์” หวังเข้าสู่ “อำนาจรัฐ” ที่ถูกเรียกว่า “ประชานิยม” ตัวเร่งความถี่ห่างของความเหลื่อมล้ำ
แต่นโยบายแก้ปัญหาบ้านเมืองระยะยาวเกินกว่า 4 ปีขึ้นไป เพื่อวางอนาคตพลเมืองไทย ประเทศไทยอยู่ตรงไหนของแผนที่โลก กวาดสายตาดูแทบไม่เจอ
ทั้งที่พรรคการเมืองรู้อยู่เต็มประตูว่า กลไกและโครงสร้างประเทศล้าหลัง ต่อให้นโยบายตัวตึงแค่ไหน ก็ทำได้แค่หยอดข้าวต้มอาการป่วย พลิกฟื้นไข้ประเทศไม่ได้
เพราะการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์ โลกกำลังจัดระเบียบอำนาจกันใหม่ระหว่าง มหาอำนาจเก่า กับ มหาอำนาจใหม่ และโควิด-19 เป็นสึนามิที่ถาโถมเร่งให้ทุกมิติเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น
“ราษฎรเต็มขั้น” เป็นอีกโหวตเตอร์หนึ่งที่พยายามเอ็กซเรย์เนื้อหานโยบายต่างๆ ก็ยังไม่เห็นพรรคการเมืองที่มีโอกาสเข้าสู่อำนาจ ให้ความมั่นใจถึงนโยบายต่างๆ สะอาด ปราศจากคอร์รัปชั่น
รู้สึกว้าเหว่ขึ้นมาทันที !! เมื่อองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)(ACT) โดย คุณมานะ นิมิตมงคล เลขาธิการ ACT เปิดรายงาน 10 ปี คดีโกงของนักการเมืองไทย
เฉพาะคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล, ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสิน และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษา ระหว่างปี 2555-ปัจจุบัน รวม 61 คดี มีนักการเมืองกระทำผิด 68 คน
โดยเฉพาะโกงจัดซื้อจัดจ้างและฮั้วประมูล แม้มีเพียง 8 คดีจาก 61 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 5.2 หมื่นล้านบาท และคดีคอร์รัปชันโครงการขนาดใหญ่ มักมีนักการเมืองหนุนหลัง ซึ่งบางคดีสร้างความเสียหายแก่ประเทศมูลค่า 1.3 แสนล้านบาท
สอดคล้องกับรายงานผลการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่เรียกกันว่า สภาพัฒน์ ระบุว่า 5 ปีของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 รายงานประเมินด้านความมั่นคงและการบริหารจัดการในภาครัฐ การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ และธรรมมาภิบาลในสังคมไทย สอบตก!! ในด้านทุจริตที่อยู่ในขั้นวิกฤติทีเดียว
แม้การบริหารราชการแผ่นดินก้าวล้ำชนิดผลคะแนนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลได้ถึง 79.65 คะแนน ในปี 2564 ติดอันดับที่ 25 ของโลก และมีการใช้กระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เกิดประสิทธิภาพ โปร่งใสตรวจสอบได้
มูลค่าความเสียหายที่ชัดเจน เป็นตัวให้เกิดความเหลื่อมล้ำ คุณภาพชีวิตของชาวบ้านย่ำแย่ เผชิญปัญหาปากท้อง นักการเมืองถึงเสกนโยบายประชานิยมป้อนให้พวกเรากินพอพยุงชีวิตอยู่ไปวันๆ เพื่อเข้าสู่อำนาจ จับมือนายทุนใหญ่ ออกนโยบายสูบเลือดชาวบ้านต่อไป
ก่อนถึงวันเลือกตั้ง พวกเรายังพอมีโอกาสได้เห็นพรรคการเมือง ที่กล้าประกาศจับมือใครเป็นรัฐบาล ภายใต้เงื่อนไขต้องมีนโยบายป้องกัน และแก้ไขคอร์รัปชันได้เห็นผลทันภายในปีแรกของการเป็นรัฐบาล
หากปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่เกิดขึ้นก่อน 14 พ.ค.66 ถึงเวลาพวกเราช่วยกันสแกนว่า เลือกพรรคไหนแล้วไม่โกง ประเทศไทยถึงไม่ล่มจม !!!
………………………………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
