วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“ครูเหน่ง-เสี่ยโอ๋”กล้าหรือไม่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ครูเหน่ง-เสี่ยโอ๋”กล้าหรือไม่

ผลพวง คดีกปปส. ส่งผลให้ 3 รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ประกอบด้วย “สิงห์ใต้” ถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม พรรคประชาธิปัตย์, “เดอะบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พรรคพลังประชารัฐ 

ได้จังหวะปรับครม.เล็ก ทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสลับโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยพอดี เพื่อให้การทำงานในกระทรวงไหลลื่น 

โดย “กำนันป้อ” วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ขยับจากรมช.พาณิชย์ เป็นรมช.คมนาคม เสริมทัพช่วย “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย 

“เสี่ยดำ” สินิตย์ เลิศไกร ส้มหล่น เป็นรมช.พาณิชย์ ช่วยงานหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ 

และ “ครูเหน่ง” ตรีนุช เทียนทอง เป็นรมว.ศึกษาธิการ “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นั่งเก้าอี้รมว.ดีอีเอส ซึ่งถูกหลายฝ่ายปรามาสในทางลบ โดยเฉพาะ “ครูเหน่ง” โดนถล่มอย่างนัก นับเป็นโอกาสพิสูจน์ฝีมือคนจากตระกูลเทียนทอง  

นับจากวินาทีนี้เหลือเวลาอีก 2 ปีกว่าก็ครบเทอม “รัฐบาลลุงตู่” อยู่ครบวาระได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะชิงยุบสภาหรือลากยาว 

FB / ธรรมนัส พรหมเผ่า

“ภูกอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุ “รัฐบาลอยู่ครบเทอมได้ ขึ้นอยู่กับท่านนายกฯจะตัดสินใจอย่างไร แต่พรรคพลังประชารัฐต้องปรับทัพเตรียมพร้อมเลือกตั้งใหญ่”  

ระดับผู้มีบารมีเจ้าของ “ทฤษฎีฤษีเลี้ยงลิง” การันตีเสถียรภาพของ “รัฐบาลลุงตู่” 

“ราษฎรเต็มขั้น” ขอบอกว่าเวลาที่เหลือของรัฐบาล ต้องกล้าผลักดันนโยบายสร้างคุณูปการให้แก่บ้านเมือง 

โดยเฉพาะ “ครูเหน่ง-เสี่ยโอ๋” ซึ่งเป็นวัยเชื่อมต่อระหว่าง “ยุคอนาล็อคกับยุคดิจิทัล” ต้องทาบทามคณะผู้ที่เชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามาเสริมทัพทันที เพื่อแก้โจทย์ประเทศด้านการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล 

“ครูเหน่ง” ควรเปิดกว้างรับฟังมุมมองจาก “กลุ่มนักเรียนเลว” อย่าลืมว่าข้อเรียกร้องกลุ่มนักเรียนเลวสะท้อนความล้มเหลวด้านคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย 

ขอให้ใช้พลังกลุ่มนักเรียนเลว “กดทับขับไล่” ความคิดอ่านอำนาจนิยมของผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการให้หมดสิ้นไป 

กระทรวงนี้เปรียบเหมือนเป็นสำนักง้อไบ้ มีเจ้าสำนักคนใหม่ ควรประสานกำลังภายใน 3 สาวให้เป็นหนึ่งเดียว กับศิษย์ผู้พี่ ทั้ง “ครูโอ๊ะ” กนกวรรณ วิลาวัลย์ “ครูฮ้ง” คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ แล้วดึงเคล็ดลับวิชาการต่อสู้ของสำนัก มาใช้ด้วยท่วงท่าลีลาที่อ่อนช้อย แต่แฝงพลังอันน่าเกรงขาม  

เพื่อปูทางปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จ 

ขณะที่ “เสี่ยโอ๋” ไม่ควรเดินหน้าเล่นเกมเฉพาะปิดเว็บไซต์ที่กระทบต่อความมั่นคง เพราะปิดอย่างไรข้อมูลเหล่านั้นยังมีช่องทางอื่นเข้าถึงได้ เพียงแค่ใช้เวลาเพิ่มนิดหน่อย 

แต่ต้องวางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีและกลยุทธ์ จัดการทุกแพลตฟอร์มที่ละเมิดกฎหมายประเทศ ทั้งแพลตฟอร์มค่ายสหรัฐ แพลตฟอร์มค่ายจีน แพลตฟอร์มค่ายเกาหลีใต้ แฟลตฟอร์มค่ายญี่ปุ่น 

อาทิ ล่าสุดแพลตฟอร์ม “ทวิตเตอร์” ปล่อยให้ผู้โพสต์สร้างขบวนการแม่มดปลุกให้คนในเครือข่าย “จัดการกับลูกสาวผู้นำของประเทศ โดยวิธีที่ดิบป่าเถื่อน”  

การโพสต์แบบนี้ไม่ว่ามีจุดยืนทางการเมืองยืนอยู่ฝ่ายไหน ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง 

และ “ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของทวิตเตอร์” ไม่ควรปล่อยให้ข้อความเยี่ยงนี้ปรากฏบนแพลตฟอร์มระดับโลกผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรไทย 

อย่าลืมว่าในช่วงเกิดปรากฏการณ์ “อเมริกันสปริง” แพตลฟอร์มสายพันธุ์สหรัฐอเมริกา “ทวิตเตอร์-เฟซบุ๊ก-อินสตาแกรม” ยังทำการบล็อกบัญชีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง อ้างมีการกระทำที่ละเมิดมาตรฐานชุมนุม 

แต่เวลามีข้อความที่ละเมิดมาตรฐานการชุมนุมเกิดขึ้นในประเทศอื่น ทำไม “ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของทวิตเตอร์” ถึงปล่อยให้ข้อความแบบนี้ผ่านแพลตฟอร์มสายพันธุ์อเมริกา อย่างน้อยเบื้องต้นควรบล็อกบัญชีผู้โพสต์ข้อความเช่นนี้ทันที 

เช่นเดียวกันบทบาทรมว.ดิจิทัลต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพการสื่อสารตามรัฐธรรมนูญ 

…………………………….

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย “ราษฎรเต็มขั้น”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img