วันพุธ, ตุลาคม 9, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“พลังประชารัฐ”...รออับแสง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พลังประชารัฐ”…รออับแสง

“พรรคพลังประชารัฐ” รอวันดับสลาย หลังคลอดเมื่อ 2 มี.ค.61 แล้วใช้อำนาจในมือ ต้อนนักการเมืองเข้าคอก ผ่านสมรภูมิโดยมียุทธปัจจัยได้เปรียบคู่แข่งทุกด้าน เริ่มต้นตุนเสียงในมือ 250 เสียงเต็ม เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมใจปรารถนาได้แค่สมัยเดียว กำเนิด “อำนาจ 3 ป.” ต่อท่อ “อำนาจ คสช.”

สภาพภายในพรรคเต็มไปด้วยความขัดแย้ง เตะตัดขากันเองตลอด ก๊วนก๊กต่างๆ แก่งแย่งแบ่งก้อนเค้กแห่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลทุบสถิติประวัติศาสตร์ทางการเมือง สำหรับดึงดูดให้สส.อยู่ในพรรค และสังกัดก๊วน

กลายเป็นสัจธรรม โตเร็ว-แตกเร็ว กระเซ็นไปคนละทิศละทาง สร้างโลกใบใหม่ขึ้นมา เหลือแค่ “ป.ป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” คุมทัพใหญ่สู้ศึกเลือกตั้งครั้งที่ 2 ทุ่มพลังเกินพิกัดเข้าเป้าน้อยนิด 40 สส.

แต่ “ใจบันดานแรง” ขอนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสักสมัย งัดกลยุทธทุกรูปแบบ สานฝันให้เป็นจริง แต่เดินเกมขาดๆ เกินๆ วืดพลาดเป้า และยังมี “ไส้ศึก” อยู่ภายในพรรค

กลยุทธที่เหลือ 7 ส.ค. ลุ้น “พรรคก้าวไกล” ชะตาขาด และ 14 ส.ค. รอ “เศรษฐา ทวีสิน” หลุดเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ออกหน้าไหนก็ปิดประตูเดินตามเกม “ใจบันดานแรง” เพราะ “ปฏิญญาเขาใหญ่” บล็อก “อิทธิฤิทธ์บ้านป่า” ที่ไม่มีป่าไว้หมด

ต้องแก้โดยงัดไม้ตาย เปิดเกมแตกหัก ส่งมวยโนเนม “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” อดีตผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม-สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นตัวแทนประกาศท้ารบ ตีนายกฯ เชียร์ “ป.ป้อม” ขึ้นนายกฯ

“พรรคร่วมรัฐบาลพร้อมเป็นแกนนำเสนอ พร้อมเป็นนายกฯเสมอ” ส่งสัญญาณแรงยิ่งกว่าคลื่นโทรศัพท์ 6 จี ถึงไส้ศึก และมวลมิตรพรรคเพื่อไทยว่า “เศรษฐาไม่รอด” พรรคพลังประชารัฐมีแค่ 40 เสียงเตรียมอัพเกรดเพิ่มเสียงสส.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ก๊วนตัวอยู่พลังประชารัฐ ใจอยู่เพื่อไทยถึงโชว์พลัง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาฮึ่มเบรกเกมเขย่ารัฐบาล ตั้งโต๊ะลงชื่อเสนอ “ป.ป้อม” ตะเพิด “สามารถ” พ้นชายคา

“ป.ป้อมโทรมาสะกิดว่า ไม่มีใครปลดได้ ไม่ต้องห่วง” หมูไม่กลัวน้ำร้อนบลั๊ฟกลับ เกทัพคนอยู่เบื้องหลังเป็นพล.อ.ประวิตร

เหตุการณ์ไหลมาถึงขั้นปริร้าว รอเพียงจังหวะก๊วนร.อ.ธรรมนัส มีสส.ในมือ 32 คนจาก 40 คน ตัดขาดแม่ทัพใหญ่ สวมคอนเวิร์สทางใครทางมัน

ฝ่ายแรกไปเพื่อโต ฝ่ายหลังดูอาการเดินต่อทางการเมืองยาก เพราะทีมกุญซือวางกลยุทธ์ประเมินตัวเลขการเมืองเกินจริง โดนฝ่ายตรงข้ามเย้ยแค่ละอ่อนทางการเมือง

ครั้งล่าสุดวัดพลังในนาม 70 สว.สายสีเขียว ส่งชิงรองประธานวุฒิสภา หน้าแหกหมอไม่รับเย็บ ได้ไม่ถึง 30 คะแนน ถูกต้มจนเปื่อย เสียเหลี่ยมทางการเมือง เป็นสมัยก่อนทีมกุนซือถูกประหารตะเพิดพ้นชายคายกชุด

นับตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จจนถึงวันนี้ “แม่ทัพใหญ่” ยังสะกดคำว่า “ชนะไม่เป็น” คงต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ จนกว่า “ยกเครื่องทีมกุนซือใหม่” เพื่อสร้างแต้มต่อทางการเมือง ไม่ใช่ตัวเป็นประกอบในกระดานอำนาจของ “เพื่อไทย”

………………….

คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก

โดย…#ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img