โหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระบบเลือกตั้งส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ผ่านบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ตามลุ้นผลการประชุมรัฐสภา เริ่มคิกออฟเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 64
ผลออกหัวหรือก้อย มีผลอาฟเตอร์ช็อกทางการเมืองตามมาแน่
เพราะสถานการณ์การเมืองกับกำลังผันผวนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ เมื่อเกิดขบวนการทดสอบอำนาจระบอบประยุทธ์ โดยวางกลยุทธ์ปลดนายกฯ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลางสภาในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
คนเดินเกมปลดอ้างได้รับสัญญาณจาก “ตั่วเฮีย” !?
อำนาจที่กำลังถูกเล่นงานรีบตรวจสอบ “สัญญาณดีลลับ”!?
ก่อนพลิกเกมกลับ สอบผ่านเวทีสภาไปได้อย่างฉิวเฉียด แต่ศึกครั้งนี้เพิ่งเริ่มต้น กำลังถูกท้าทายอีกครั้งผ่านการ “โหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ”
ขอย้อนรอยให้เห็นภาพตั้งแต่ต้นธารการเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ โดยพรรคการเมืองใหญ่ 2 ขั้ว ระหว่างฝ่ายรัฐบาล นำโดยพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ กับฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทย ทุกพรรคเสนอร่างเข้าสู่สภา โดยกรอบใหญ่เหมือนกันต้องการแก้ระบบเลือกตั้ง
ซึ่งคล้ายรัฐธรรมนูญ 40 เคยใช้เลือกตั้งรอบ 20 ปี พรรคเพื่อไทยชนะเกือบทุกครั้ง ยกเว้นครั้งสุดท้ายเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 60 เป็นกติกาที่พรรคการเมืองใหญ่เสียเปรียบทุกประตู เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้
พอเข้าสู่วาระ 1 ชี้ให้เห็นว่า หัวหน้าคสช.ผู้ทำคลอด 250 ส.ว.ที่มาจากแม่น้ำ 5 สาย ยังมี “เพาเวอร์ฟูล”
แค่ประกาศกลางทำเนียบรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับ “ถอดปลั๊กรธน.ปราบโกง” หนึ่งในประเด็นพ่วงของร่างจากพลังประชารัฐ ส.ว.ตีตกร่างนั้นทันที ร่างฉบับพรรคประชาธิปัตย์ผ่านเข้ารอบได้ฉบับเดียว
สะกิดเบาๆ ถึงพรรคพลังประชารัฐ โดยมี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค “ภูกองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค
พอถึงชั้นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม คนของพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ เดินไปทิศทางเดียวกันตลอดจนถึงการพิจารณาในวาระ 2
ฉะนั้นในสถานการณ์การเมืองปกติ แค่อาศัยเสียงของพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงผลโหวตในวาระแรก 210 ส.ว.รับหลักการ วาระสอง 180 ส.ว.เห็นชอบมาตรา 83 และ 160 ส.ว.เห็นชอบมาตรา 91
สะท้อนให้เห็นว่าวาระสามผ่านฉลุย อาศัยเสียงส.ว. แค่ 1 ใน 3 คือ 84 เสียงเท่านั้น
“ราษฎรเต็มขั้น” ขอบอกว่า วันนี้สถานการณ์การเมืองผันผวน ใกล้เปลี่ยนแปลงใหญ่ ไม่ว่าผลการโหวตออกหัวหรือก้อย
หากเสียงของส.ว.โหวตผ่านวาระ 3 แค่ 72 เสียงตามกระแสข่าว นั่นหมายความว่า “ลุงตู่” แตกหัก “ลุงป้อม”
สะเทือนถึง “ภูกองนัส” และพรรคพลังประชารัฐเต็มๆ
สัญญาณจาก “ตั่วเฮีย” ถึงเวลาปรับกลยุทธ์
“สัญญาณดีลลับ” จะเดินต่อไปอย่างไรน่าติดตาม!!!
………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย..ราษฎรเต็มขั้น