วันพฤหัสบดี, เมษายน 25, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSประชาธิปไตยดิจิทัล…ความหวังประเทศไทย !?
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ประชาธิปไตยดิจิทัล…ความหวังประเทศไทย !?

เบื่อ!! เมื่อส่องเข้าไปหลายพรรคการเมือง ต่างอยู่ในสภาพยาหมดอายุ รักษาอาการป่วยของประเทศไทยไม่ได้

สภาพกลไกรัฐขึ้นสนิม ผุกร่อน รอแค่วันปะผุ ยังไม่มีนักการเมืองดาวดวงใหม่เปล่งแสงแห่งความหวังของประเทศในยามวิกฤติ

เมื่อคิดใหญ่พลิกฟื้นประเทศไทยไม่ได้ ก็ลองหักมุมคิดโจทย์เล็กๆ เปลี่ยนประเทศกันบ้าง

ประเดิมกันที่ “ระบบบล็อกเชน” ใช้กับ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” แล้ว ประเทศไทยและประชาชนได้ประโยชน์อะไรบ้าง

ควรเป็นโจทย์ที่พรรคการเมือง ซึ่งเป็นฝ่ายกำหนดนโยบายต้องผลักดันในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เพราะมรสุมหลายลูกที่โจมตีโลกและประเทศไทย จนแทบกระดิกพลิกตัวไม่ได้ กลายเป็น “วิกฤติซ้อนวิกฤติ” ทั้งเศรษฐกิจ โยงใยถึงการเมือง ผูกมัดกับสังคม

สะเทือนเลือนลั่นทั้งโครงสร้างประเทศ กระทบต่อทุกองค์กร ทุกสถาบัน และประชาชนทุกคน

ทุกฝ่ายพูดตรงกัน!! เป็นโอกาสเหมาะ “รื้อแก้กติกาเก่าล้าสมัย” เพื่อให้กลไกรวดเร็ว ทันต่อการแก้ปัญหาที่ถาโถมถล่มประเทศไทย

ล่าสุดกลางวงดินเนอร์ Future Forum by Harvard Club of Thailand FOSTERING THE FUTURE OF FINANCE ที่ Sheraton Grande Sukhumvit เมื่อ 22 มิ.ย 65

3 ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน “วีรไท สันติประภพ” อดีตผู้ว่าธปท. – “ทิพยสุดา ถาวรามร” อดีตรองเลขาธิการกลต. – “ต้นสน-สันติธาร เสถียรไทย”

ต่างเชื่อมั่นประเทศไทยผ่านมรสุมไปได้ แต่ต้องแปลงวิกฤติเป็นโอกาส !? รื้อกฎหมาย ระเบียบกติกาที่ล้าสมัย

ขณะที่การรื้อ-แก้-ออกกติกา มันมีกลุ่มผลประโยชน์ที่เสียก้อนเค้กไป ย่อมเคลื่อนไหวขัดขวาง เอาง่าย ๆ แค่แก้ไขสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกิน 80 บาท

กว่าจะขยับครบลูป 100 ล้านใบ ต้องใช้เวลา ค่อย ๆ บีบ “6 เสือนอนกิน” และไม่ให้กระทบต่อ “รายย่อย”

โครงสร้างสลากกินแบ่งรัฐบาล เกี่ยวข้องกับกลุ่มผลประโยชน์แค่ไม่กี่กลุ่ม ยังทำได้ยากมาก

ฉะนั้นการรื้อกติกาล้าสมัยที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างรัฐทั้งระบบ ย่อมยากกว่าหลายเท่า ทางออกที่ดีควรเริ่มรื้อระบบเก่า และวางระบบใหม่ไปพร้อม ๆ กันเหมือนที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำอยู่

โดยประเดิมใช้ “ระบบดิจิทัลประชาธิปไตย” หรือ “ระบบบล็อกเชน” กับ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ “สตง.” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตรวจงบประมาณแผ่นดิน

งบประมาณ ปี 2562 สตง.ได้สุ่มสำรวจ อปท. 71 แห่ง พบ 51 แห่งเก็บค่าขยะไม่ครบ – 67 แห่งไม่ได้เก็บค่าทำเนียมขยะพิษ ทำเอาขาดทุนปีละ 4 พันบาท ต้องเอางบประมาณแผ่นดินไปอุดหนุนเพิ่มทุกปี

ทั้งหมดเกิดจากจัดทำเอกสารการรับเงินมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน – การนำส่งเงินไม่เป็นไปตามระเบียบ

เพราะขาดเครื่องมือควบคุม ตรวจสอบการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ไม่มีการจัดทำรายงานสรุปผลการปฏิบัติงาน เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และอปท.บางแห่งไม่จัดทำประกาศหรือประชาสัมพันธ์หรือหนังสือแจ้งให้ชำระค่าธรรมเนียม

ลอกนึกภาพดู…ในวันที่เอาระบบบล็อกเชนมาใช้ !! ข้อมูลทุกอย่างเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีใครสามารถไปแก้ เปลี่ยนแปลงได้ และตรวจสอบได้ตลอดเวลา

แค่เทศบาลส่งใบแจ้งหนี้ถึงประชาชน ประชาชนจ่ายผ่านแอพพลิเคชัน หรือจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ข้อมูลดิจิทัลเหล่านั้นไหลไปถึงผู้บริหารเทศบาล และสตง.ทันที

ไม่เสียเวลาตรวจสอบย้อนหลัง ค่าจัดเก็บขยะเต็มเม็ดเต็มหน่วย เงินไม่รั่วไหล ไม่ขาดทุนปีละ 4 พันล้านบาท และอนาคตมีกำไรจากการจัดเก็บขยะแน่นอน !!

แล้ววันใดฝ่ายที่ออกนโยบายขับเคลื่อนระบบบล็อกเชนเชื่อมกับทุกหน่วยงานของรัฐได้หมด จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ขึ้นอยู่ที่พรรคไหนจะกล้าหาญทำ !?

เบื่อเต็มที่กับนโยบายประกันหรือจำนำราคาพืชผลเกษตร เบื่อเต็มที่นโยบายปราบการทุจริตที่เป็นวาระแห่งชาติ เบื่อเต็มที่การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ

……………………….

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img