“สงคราม”ชิงอำนาจ “ประชาชน”ทุกข์ซ้ำ “ประเทศ”พังพาบ

8 ปี เพดานห้ามดำรงตำแหน่งนายกฯ เกินจากนี้ ป้องกันผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวนานเกินไปชนวนเกิดวิกฤติทางการเมือง

นั่นคือ เจตจำนงรัฐธรรมนูญ คู่มือสำคัญที่ออกมาคู่กับรัฐธรรมนูญ 60 ที่คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 60 จัดทำขึ้น

นับจากนี้ถึง 23 ส.ค.ขึ้นอยู่กับ “บิ๊กตู่” ตัดสินใจชีวิตทางการเมือง แสดงสปิริตยอมลงจากตำแหน่งก่อนเดตไลน์ ก็ลงจากหลังเสืออย่างสง่างาม

แต่หากใส่เกียร์ลุย ไปตายเอาดาบหน้า สุดท้ายให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด 24 ส.ค.65 ครบ 8 ปี นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เท่ากับสาดน้ำมันใส่กองไฟ…โหมวิกฤติทับถมวิกฤติ !!

เมื่อดูบรรยากาศประชุมครม. 9 ส.ค. ที่ถกปมร้อนและบรรดารมต.ที่สะท้อนมุมมอง “ราษฎรเต็มขั้น” ฟันธง “บิ๊กตู่” ขอลุยฝ่ากองเพลิง โดยไม่สนเสียงจิ้งจกร้องเตือน

โดยเฉพาะ “99 ปัญญาชน” เข้าชื่อแถลงการณ์ทอดบันไดให้นายกฯลงจากตำแหน่ง เหมือนในสมัย “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ถูกกลุ่มนักวิชาการ 99 คน ยื่นฎีกา “ปิดสวิตซ์ป๋าเปรม”

รัฐธรรมนูญยุคนั้น “ไม่บังคับปม 8 ปี” ระดับบารมีที่ไม่ธรรมดา กองทัพฝ่ายคุมกำลังตบเท้าให้กำลังใจหลายครั้ง

รัฐประหารกลิ่นโชยตามลุ้นการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ หลังมีการยุบสภา-เตรียมการเลือกตั้งทั่วไป

เลือกตั้งจบ “ป๋าพอแล้ว” บอกกับส.ส. 4 พรรคแกนนำที่เทียบเชิญให้กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ

แต่บริบทรัฐธรรมนูญยุคนี้ “บังคับปม 8 ปี” แต่ “บิ๊กตู่” เชื่อมั่นพลังภายในขอไปต่อ เพราะได้ขีดเส้นใต้การเมืองบรรทัดสุดท้ายตอนจบไว้แล้ว

หลังเกิดดีลลับระหว่าง “ขั้วเผด็จการรัฐสภา” กับ “ขั้วเผด็จการรถถังยึดอำนาจ”

โดยมี “ทุนใหญ่เป็นเจ้ามือคนเดียว” คอยบริหารจัดการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

“ผมจะดีลกับใคร กลับบ้านก็นอน” “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ปฏิเสธเสียทีเดียว

“จะไปรู้ได้อย่างไร เป็นเรื่องของอนาคต” อีกคีย์เวิร์ดแทงกั๊ก เมื่อถูกถามถึงการจับมือระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า

“บิ๊กตู่” ไปทาง “บิ๊กป้อม” ไปอีกทาง

ต่างฝ่ายต่างขอสร้างโลกใบใหม่

เกมนี้เริ่มเปิดฉากตั้งแต่ไฟเขียวแก้รัฐธรรมนูญ ระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ ซึ่งเลือกส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ใบ-เลือก ส.ส.เขต 1 ใบ

ล่าสุดเปิดกลเกมสภาล่มซ้ำซาก ตีตกร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. สูตร 500 หารส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้าล็อก 15 ส.ค.65 เกิน 180 วัน

แม้ “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา กล่อมให้ทุกฝ่ายกลับมาร่วมประชุมอีกครั้ง 15 ส.ค. เดตไลน์ 180 วัน ไม่เกินเที่ยงคืน

ดูตามสถานการณ์คงซ้ำรอยเดิม สภาล่มซ้ำซาก กลับไปตั้งต้นสูตร 100 กันใหม่ โดยตามลุ้นชะตาฝ่าด่านศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่าจะออกหัวหรือก้อย

หักพลิกชิงเหลี่ยมชนิดตาต่อตา-ฟันต่อฟัน ใกล้เข้าทาง “สูตรการเลือกตั้งพิสดาร” เข้าทุกที

บนพฤติกรรมเล่นเกมการเมืองบนซากปรักหักพังของประเทศ

ฝ่ายไหนชนะ บ้านเมืองก็บอบซ้ำ ประชาชนทุกข์ยากหนักกว่าเดิม

…………

คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น