วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
หน้าแรกEXCLUSIVEเบื้องหลังความสำเร็จ “GC” กับการคว้ารางวัลระดับ Gold Class
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เบื้องหลังความสำเร็จ “GC” กับการคว้ารางวัลระดับ Gold Class

เปิดเส้นทางการดำเนินธุรกิจของ GC กับการคว้ารางวัล S&P Global Sustainability Award 2022 ระดับ Gold Class

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เปิดเผยว่า การจะก้าวไปสู่องค์กรที่ได้รับการยอมรับ และได้รับการรับรองในระดับโลกนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะด้านความยั่งยืน เพราะเป็นสิ่งที่ต้องสั่งสมและมุ่งมั่นขับเคลื่อนมาอย่างยาวนาน และแน่นอนว่าในฐานะองค์กรที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์อย่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ที่เพิ่งคว้า รางวัล S&P Global Sustainability Award 2022 ระดับ Gold Class ในธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุด จากการประเมินด้านความยั่งยืนในระดับโลกจาก S&P Global นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้มาง่ายๆ

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง

ดร.คงกระพัน กล่าวย้ำว่า เบื้องหลังของความสำเร็จในครั้งนี้ เกิดจากความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของพนักงานทุกคน ภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ด้วยการสร้างความสมดุลใน 3 มิติ ประกอบด้วย เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความยั่งยืน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนองค์กรให้ไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ

ด้านเศรษฐกิจ

จากวิกฤตของโควิด-19 สงครามการค้า ไปจนถึงสงครามราคาน้ำมันที่เกิดขึ้น ได้สร้างผลกระทบอย่างหนักต่อภาคธุรกิจ รวมถึงกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

GC จึงมีเป้าหมายในการวางแผนการดำเนินงาน ที่ไม่ใช่การรัดเข็มขัด แต่เป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการวางสายการผลิตที่เชื่อมต่ออย่างครบวงจร (Integrated Value Chain) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ที่สร้างการเติบโตและผลกำไรได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง โดยปรับ portfolio มุ่งเน้นการขยายการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ

ปัจจัยสำคัญคือการสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิตใหม่ๆ ร่วมกับคู่ค้าอย่างเข้าใจ เพื่อให้ผลประกอบการอยู่ในกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้สำเร็จ

ด้านสังคม

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก ทำให้พลาสติกกลายเป็นวัสดุสำคัญในการป้องกันเชื้อไวรัสที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด GC จึงได้ริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมจากพลาสติกสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมโดยเฉพาะ

จนเกิดเป็นแบรนด์ Greater Care by GC ที่สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับทุกคน อย่างเช่น ชุด PE Gown แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ผลิตจากเม็ดพลาสติก InnoPlus ที่ดึงคุณค่าและคุณสมบัติของพลาสติกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมอบให้โรงพยาบาลและหน่วยงานรัฐทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไป กว่า 4 ล้านชุด รวมทั้งการริเริ่มโครงการ Greater Care Charity by GC & Customers โดยร่วมมือกับคู่ค้าผู้ประกอบการกว่า 84 บริษัท ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมพลาสติกให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพแบบครบวงจร เพื่อมอบให้แก่บุคลากรด่านหน้าและผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม รวมถึงศูนย์พักคอยในพื้นที่ที่มีการระบาดสูง

นอกจากการช่วยเหลือสังคมภายนอกแล้ว GC ยังให้ความสำคัญคือการดูแลพนักงานคนในครอบครัวของ GC มากที่สุด ผ่านการประกาศนโยบายและมาตรการการป้องกัน ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ปฏิบัติงาน ให้ห่างไกลจากการติดเชื้อมาเป็นอันดับแรก โดยไม่กระทบต่อการทำงานในภาพรวม

ถึงแม้ในภาวะวิกฤติ แต่ GC ยังคงดูแลพนักงานให้เป็นไปตามมาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล ทั้งในเรื่องของการรักษาสิทธิมนุษยชนของพนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียอย่างเคร่งครัดตลอดโซ่อุปทาน การให้การอบรม Reskill Upskill แม้ในสถานการณ์ที่ต้องเว้นระยะห่าง

โดยบริษัทฯ ได้ พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ (Up: Learning Management Platform) ให้มีเนื้อหา และรูปแบบที่มีความหลากหลายครอบคลุมในทุกทักษะที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรม และด้วยรูปแบบการดำเนินงาน Work From Home นี้เอง บริษัทฯ ได้ให้ความใส่ใจความเป็นอยู่ของพนักงานโดยจัดให้มีสายด่วนสุขภาพใจพิชิตอาการยอดฮิต ออฟฟิศซินโดรม กิจกรรม Online Talk และร่วมเล่นเกมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบตัวเอง และวิธีการจัดการความเครียดให้แก่พนักงานเป็นประจำอีกด้วย

ด้านสิ่งแวดล้อม

บริษัทให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อโลก และสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อโลกใบนี้ที่ดีกว่าเดิมแก่คนรุ่นต่อไป โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการบวนการผลิต โดยใช้นวัตกรรมกระบวนการผลิต และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และริเริ่มโครงการใหม่ๆ เพื่อลดอัตราการใช้พลังงานให้ต่ำลงอย่างสม่ำเสมอ จนเกิดผลลัพธ์เป็นที่ประจักษ์ ผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขตที่ 1 และ 2) มีแนวโน้มลดลง อีกทั้งยังสามารถลดการใช้พลังงานสะสมได้มากขึ้นเป็นลำดับ

และล่าสุดกับการประกาศแผนความมุ่งมั่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา Together To Net Zero กับเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้กลายเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 โดยให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาแบบยั่งยืน และข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทั่วโลกต้องร่วมมือกัน

“เบื้องหลังของ GC ในการดำเนินงานโดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ผ่านการสร้างสมดุลของ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การวางแผนชั่วคราว แต่เป็นการสั่งสมและขับเคลื่อนมาอย่างยาวนาน จนไดัรับการรับรองรางวัล S&P Global Sustainability Award 2022 ระดับ Gold Class รวมถึงการเป็นอันดับที่ 1 ของโลกต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemicals Sector) และยังติดอันดับ Top 10 ประเภท ดัชนีโลก (DJSI World) และตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 จากการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices : DJSI) ที่เป็นเครื่องหมายของความพยายามและตั้งใจได้อย่างดีที่สุด ดร.คงกระพัน กล่าว

#ยิ่งใกล้คุณยิ่งต้องดี #GCเคมีที่เข้าถึงทุกความสุข #GCChemistryforBetterLiving

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img