วันอังคาร, เมษายน 16, 2024
หน้าแรกEXCLUSIVE1 เดือนเพลิงนรกผับ Mountain B บน“เขตทรงสงวน”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

1 เดือนเพลิงนรกผับ Mountain B บน“เขตทรงสงวน”

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 ถือเป็นวันครบรอบ 1 เดือน โศกนาฎกรรมที่สถานบันเทิง “Mountain B” เกิดเพลิงไหม้ ในวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา มีนักเที่ยวเสียชีวิตถึงตอนนี้ 23 รายแล้ว

“ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร” พร้อมด้วย “ญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ” จากเหตุการณ์ไฟไหม้ผับเมาท์เท่น บี เดินทางมาวางดอกไม้ไว้อาลัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังครบรอบ 1 เดือน โดยผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ มีการเรียกค่าเสียหาย ร่วมกันกว่า 241 ล้านบาท

ทีมข่าวตรวจสอบเพิ่มเติม ประเด็นที่ตั้งของสถานบริการ Mountain B ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จและเปิดไปช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นอาคารด้านหลังเมาท์เทน บาร์ เเอนด์ บิสโทร ที่เปิดเป็นร้านอาหาร ตั้งอยู่ด้านหน้า

ในวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ได้ชี้แจงต่อ คณะกรรมมาธิการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “วุฒิชัย กิตติธเนศวร” เป็นประธานกรรมาธิการ

ประเด็นสำคัญ คือการตั้งสถานบันเทิงแห่งนี้ ที่จดทะเบียนเป็นร้านอาหาร แต่ลักลอบเปิดเป็นสถานบริการผับบาร์ มีการซักไซ้เรื่องนี้ในช้ั้นกรรมาธิการ เราสรุปข้อมูลที่น่าสนใจ ให้ท่านผู้ชมได้รับทราบกัน

ผู้แทนจากจังหวัดชลบุรี ระบุว่า หากสถานบริการมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป จะต้องมีการจัดทำประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

ส่วนการพิจารณาอนุญาตตั้งสถานบริการ จะพิจารณาตามการกำหนดพื้นที่ เพื่อการอนุญาตตั้งสถานบริการ หรือโซนนิ่ง สำหรับสถานบันเทิง เมาท์เทน บี ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ไม่สามารถตั้งสถานบริการได้ (เป็นเขตปลอดภัยในราชการทหาร)

ด้าน ผู้แทนจากสำนักงานเทศบาลเมืองสัตหีบ แจ้งว่า เจ้าของMountain Bได้ขออนุญาตก่อสร้างหลังอาคาร เอ ที่เป็นที่จำหน่ายอาหารด้านหน้า ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ได้เข้าไปตรวจสอบ และพบว่า การก่อสร้างอาหารเปลี่ยนแปลง “ไม่ตรงตามแบบ”

สำหรับการก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นสถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม หากไม่เข้าข่ายอาคารประเภทควบคุม จะไม่ต้องมีการตรวจสอบตอนก่อสร้างแล้วเสร็จ

พูดง่ายๆ คือ มี 2 ความผิด ตั้งแต่เรื่อง พื้นที่ก่อสร้างที่ไม่สามารถสร้างในเขตปลอดภัยทหารได้ และ ยังก่อสร้างไม่ตรงตามแบบอีกด้วย แต่เรายังพบประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ดินของเมาท์เท่นบี และเมาท์เทน บาร์แอนด์ บิสโทร ของ “เสี่ยยศ” และ “เสี่ยบี” สองพ่อลูกที่บุกเบิกกิจการค่ะ

ผู้แทนจากฐานทัพเรือสัตหีบ บอกว่า จากการตรวจสอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พบว่า สถานบันเทิงดังกล่าว ตั้งอยู่บนโฉนดที่ดิน เลขที่ 25116 ซึ่งมีการจับจองทำประโยชน์ที่ดินในเขตทรงสงวนในปี 2543 โดยใช้เอกสาร น.ส. 3ก. เลขที่ 1155 เป็นหลักฐานในการจับจอง และกองทัพเรือได้อนุญาต เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2543

ส่วนการขออนุญาตก่อสร้างในเขตปลอดภัยในราชการ ได้ดำเนินการขออนุญาต ตามคำร้องที่ พ 67/2564 เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2564 โดยระบุว่า ก่อสร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก และโครงสร้างเหล็ก 1 ชั้น เพื่อใช้ประกอบเป็นร้านอาหาร รวมถึงห้องน้ำ

ทางเจ้าของ ได้ใช้โฉนดข้างต้น ที่จับจองในเขตทรงสงวน มายื่นขออนุญาตก่อสร้าง และได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง วันที่ 13 พ.ค.2564 สร้างเสร็จช่วงกลางปี 2565 ก่อนจะมาเกิดเรื่องขึ้น

ในส่วนของความสูงสิ่งก่อสร้าง ฐานทัพเรือสัตหีบได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนด มีความสูง 67 เมตร ไม่เกินหลักเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนดไว้

เราเทียบภาพในแผนที่ให้เห็น จุดที่เราปักหมุดสีแดงเอาไว้ เป็นจุดที่ทหารบอกว่าอยู่ในพื้นที่จับจองเขตทรงสงวน มีการจับจองไว้ตั้งแต่ปี 2543 หรือ 22 ปีที่แล้ว

นี่เป็นอีกประเด็นสำคัญ เพราะ กองทัพเรือระบุชัดเจนว่า หากทำผิดเงื่อนไข กองทัพเรือสามารถเพิกถอนการอนุญาต รวมทั้งเสนอกรมที่ดินเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน โดยราษฎรไม่มีสิทธิโต้แย้ง เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ

ทั้งนี้ ตัวแทนจากฐานทัพเรือสัตหีบ ยังระบุเพิ่มเติมว่า ในการขออนุญาตสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สัตหีบ จะมีพื้นที่สำคัญ 2 ส่วน ได้แก่

1.เขตทรงสงวน แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.1. เขตพระราชทาน เป็นที่เขตของทหาร เพื่อกิจการของทหารเรือเท่านั้น
1.2. เขตทรงสงวน ให้กองทัพเรือมีอำนาจอนุญาตให้ราษฎร จับจองได้ตามสมควร การลงนามขึ้นกับ ผบ.ทร.ทำการแทน รมว.กลาโหม

2.เขตปลอดภัยในราชการทหาร หมายถึงบริเวณโดยรอบที่ทหาร เท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยในราชการทหาร การก่อสร้าง เคลื่อนย้าย ต้องได้รับอนุญาต ทำตามเงื่อนไข เช่น เกณฑ์ความสูง

เป็นที่น่าสังเกตว่า การจับจองที่ดินเขตทหาร เพื่อก่อสร้างสถานบันเทิงMountain B ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ผ่านมา มีชาวบ้านถูกทางการไล่ที่ ก็มีปรากฎให้เห็นบ่อยครั้ง

รวมทั้ง การขอใบอนุญาตก่อสร้าง แม้จะแอบอ้างเป็นร้านอาหาร แต่ลักลอบเปิดเป็นผับใหญ่ขนาดนั้้น หน่วยงานราชการในพื้นที่ จะไม่รู้ไม่เห็น หรือปล่อยผ่านไปได้อย่างไร

และประเด็นสำคัญคือ ผู้ต้องหาในคดีเมาท์เทน บี 2 คน คือ “เสี่ยยศ” ผู้พ่อ และ “เสี่ยบี” ลูกชาย ที่ถูกออกหมายจับ และได้ประกันตัวไปนั้น

สิ่งที่หลายฝ่ายแสดงความกังวล คือ หากเจ้าของยกข้อต่อสู้ ในทำนองว่า ที่ดินยังต้องเช่าจากทหารอยู่ ไม่ได้เป็นที่ดินของตัวเอง จะมีผลต่อการสู้คดีอย่างไร

รวมถึงสุดท้ายปลายทางแล้ว คดีนี้จะซ้ำรอยกรณีเพลิงไหม้ผับซานติก้า ที่ผู้เสียหายไม่เคยได้รับการเยียวยาจากเจ้าของหรือไม่????

…………

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img