หน้าแรกNEWSกทท.โชว์งบปี 68 ฟันกำไรสุทธิ 7,096 ล้านบาท ท่าเรือแหลมฉบังแชมป์เรือเทียบท่าพุ่ง

กทท.โชว์งบปี 68 ฟันกำไรสุทธิ 7,096 ล้านบาท ท่าเรือแหลมฉบังแชมป์เรือเทียบท่าพุ่ง

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เกรียงไกร” เปิดผลดำเนินงานปี 68 ฟันกำไรสุทธิ 7,096 ล้านบาท มีเรือเทียบท่ารวม 15,113 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4.61% โดยท่าเรือแหลมฉบัง มีเรือเทียบท่า 10,653 เที่ยว เพิ่มขึ้น 3.50%

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการให้บริการของ กทท. ในปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.67 – ก.ย. 68) มีเรือเทียบท่ารวม 15,113 เที่ยว เพิ่มขึ้น 4.61% ปริมาณสินค้าผ่านท่ารวม 125.07 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.46% และปริมาณตู้สินค้าผ่านท่ารวม 11.43 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 6.44% จากปีก่อนหน้า ส่วนผลประกอบการท่าเรือหลักของ กทท. ได้แก่

  • ท่าเรือกรุงเทพ มีเรือเทียบท่า 4,460 เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.37% สินค้าผ่านท่า 18.92 ล้านตัน ลดลง 0.49% และมีปริมาณตู้สินค้า 1.28 ล้านที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 0.18%
  • ท่าเรือแหลมฉบัง มีเรือเทียบท่า 10,653 เที่ยว เพิ่มขึ้น 3.50% สินค้าผ่านท่า 106.15 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.60% และมีตู้สินค้าผ่านท่า 10.15 ล้านที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 7.28% ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างมั่นคงของท่าเรือหลักของประเทศ แสดงถึงความพร้อมและประสิทธิภาพในการให้บริการของ กทท.

นอกจากนี้ ท่าเรือภูมิภาคของ กทท. ก็มีแนวโน้มเติบโตเช่นกัน โดยท่าเรือระนอง มีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่า 5,459 ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้นสูงถึง 95.24% และ ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน มีสินค้าผ่านท่า 1.87 แสนตัน เพิ่มขึ้น 62.72% สอดคล้องกับการขยายตัวของการค้าชายแดนและเส้นทางโลจิสติกส์สู่ภูมิภาค BIMSTEC

ทั้งนี้ภายใต้สภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง กทท. ยังคงสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคง โดยมีกำไรสุทธิ 7,096 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาศักยภาพการให้บริการท่าเรือไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการ เพื่อรองรับความต้องการของภาคธุรกิจโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น และส่งเสริมการเติบโตของกิจกรรมขนส่งทางน้ำของประเทศในภาพรวม

โดยในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2569 กทท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ภายใต้การกำกับดูแลของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อวางรากฐานคมนาคม เพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งทางน้ำและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้มีประสิทธิภาพ โดยจะเร่งดำเนินการตามแผนสำคัญ ได้แก่ การติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย การแก้ไขปัญหาการจราจรโดยรอบพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพและแหลมฉบังให้มีความคล่องตัว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการพัฒนาท่าเรือระนองให้เป็นท่าเรือสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศ

กทท. ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนานทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยก้าวต่อไป กทท. ยังคงมุ่งดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมพลังอนาคตประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างสมดุล”

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img