นายกฯฟิตจัดจ่อขนครม.ลงพื้นที่ระนอง ประชุมครม.สัญจร22-23ม.ค. และตรวจงานภาคใต้ฝั่งอันดามัน ลงพื้นที่ดูโครงการแลนด์บริดจ์
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2567 ที่จ.ระนอง ระหว่างที่ 22-23 ม.ค.นี้ โดยการลงพื้นที่จ.ระนองครั้งนี้มีเป้าหมายในการตรวจราชการที่สำคัญหลายมิติ ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมง การติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายชัย กล่าวอีกว่า สำหรับวันที่ 22 ม.ค. นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง-เกาะสอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง รวมถึงพูดคุยประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง รวมถึงจะพบปะและรับฟังปัญหาของประชาชนกลุ่มต่างๆในพื้นที่ ซึ่งเป็นท่าเรือข้ามฟากระหว่าง จ.ระนอง กับจ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา และเป็นจุดผ่านแดนที่ใช้รองรับการเดินทางระหว่างประเทศไทยกับเมียนมา อีกทั้งนายกฯจะติดตามความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง) ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน อ.กระเปอร์ จ.ระนอง ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคมด้วยการเชื่อมโยง 2 ท่าเรือในฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทยอย่างไร้รอยต่อ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อ.เมืองระนอง ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี)
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกฯจะไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ที่บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน อ.เมืองระนอง ซึ่งมีบ่อน้ำแร่ร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดฯ ที่ชูอัตลักษณ์ชุมชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขณะที่รัฐบาลจะผลักดัน จ.ระนองสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลก จากนั้น ในวันที่ 23 ม.ค. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมครม.สัญจรที่หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง โดยจ.ระนองเตรียมนำเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง-เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยวและสัญจร โดยเป็นการปรับปรุงทางเข้าท่าเรือและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อีกทั้งเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) จาก จ.ระนอง-จ.พังงา และโครงการก่อสร้างถนนสายราชกรูด-หลังสวน (ทางหลวงหมายเลข 4006) ขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร จาก อ.เมืองระนอง ไปยัง จ.พังงา เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองระนอง
นายชัย กล่าวว่า ในการลงพื้นที่จ.ระนองครั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งแต่ละจังหวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกให้เอื้อกับการเดินทางและเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นว่ารัฐบาลเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ อาทิ การวางโครงข่ายการคมนาคม สร้างระบบรางรถไฟที่พาดผ่านเมืองรอง และการพัฒนาสนามบินในภูมิภาคการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสร้างรายได้และมีการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายครม.ร่วมลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
