‘โจ้”แฉ ‘รถไฟฟ้าสีชมพู’ ต่อเข้าเมืองทองฯเอื้อเจ้าสัว ลั่นเพื่อไทยไม่รับหลักการร่างพรบ.งบฯ 66 เตรียมยื่นซักฟอก 15 มิ.ย.
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.65 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นคนจุดประเด็นเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะติดตามเรื่องนี้ และเอาคนที่ทำผิดกฎหมายลากติดคุกติดตะรางให้หมด วันนี้จะเปิดประเด็นเรื่องรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท นอร์ทเทิร์นบางกอกโมโนเรล จำกัด ที่มีบริษัท บีทีเอส จำกัด ถือหุ้นใหญ่อยู่ ตนตั้งข้อสังเกตว่าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูไม่ได้มีส่วนต่อขยายใดๆ เข้าไปเมืองทองธานี อยู่ๆ มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 ให้มีการเชื่อมต่อบริเวณสถานีศรีรัช เชื่อมเข้าไปยังซอยปากเกร็ด 39 หรือซอยเข้าศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี รวมระยะทาง 3 กม. เชื่อมต่อ 2 สถานี คือ สถานีอิมแพ็คชาเลนเจอร์ และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี ทั้งที่เดิมทีแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ไม่ได้เชื่อมต่อเข้าเมืองทองธานี แต่ตั้งอยู่บริเวณถนนแจ้งวัฒนะเท่านั้น
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ครม.ระบุว่า ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับสัมปทาน ดูแลการบริหารจัดการในมิติต่างๆ อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการ แบ่งบันผลประโยชน์แก่ภาครัฐอย่างเป็นธรรม ตลอดจนสามารถเปิดให้บริการประชาชนตามกำหนด ดังนั้นที่อ้างว่าต้องเชื่อมต่อสถานีศรีรัชบนถนนแจ้งวัฒนะเข้าสู่เมืองทองธานี 2 สถานี ทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชนนั้น ต้องบอกก่อนว่าเมืองทองธานีเป็นของตระกูลกาญจนพาสน์ หรือบางกอกแลนด์ เมื่อมีรถไฟฟ้าเชื่อมในเมืองทองธานีกลับทำมให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงอีก ขณะเดียวกันยังพบว่ามีที่ดินวางเปล่าของเศรษฐีปลูกสวนกล้วยเพื่อไม่หลีกเลี่ยงการเสียภาษีที่ดินด้วย ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้ด้วย
นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า เป็นถึงหัวหน้า ครม.ไปอนุมัติให้รถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าเมืองทองธานี จะไปขนกล้วยมาขายในกรุงเทพฯหรือ คุณอ้างทำเพื่อประชาชน แต่ทำไมปลูกกล้วยเต็มเลย พล.อ.ประยุทธ์ต้องตอบเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเอื้อประโยชน์เจ้าสัวหรือไม่ แต่ประชาชนต้องเจอกับวิกฤติปุ๋ยแพง น้ำมันแพง หมูแพง ข้าวราคาถูก และวัวล้มตาย พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรอยู่ทำไมไม่ช่วยประชาชน นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนถึงมาไล่คุณ เพราะประชาชนหมดศรัทธาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ควรออกไปได้แล้ว
นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติคว่ำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กู้จนเต็มเพดาน งบประมาณพัฒนาประเทศแทบจะไม่มี ประชาชนเดือดร้อนอดอยากหิวโหย รัฐบาลบอกไม่มีเงินช่วย แต่รัฐบาลกลับมีงบประมาณซื้อเครื่องบินรบลำใหม่รุ่น F35 จำนวน 2 ลำ ราคา 2,700 ล้านบาทต่อลำ ซึ่งกองทัพอากาศมีแผนจะซื้อทั้งหมด 8 ลำ ปรากฏว่าเป็นเครื่องบินเปล่าๆ ไม่มีอาวุธ ทั้งนี้ ตนจะนำประเด็นนี้ไปอภิปรายในสภาว่า ทำไมซื้ออีกแล้ว มีเหตุผลความจำเป็นอะไร จะไปรบกับใคร พล.อ.ประยุทธ์ต้องมีคำตอบ นี่คือเหตุผลสำคัญที่พรรค พท.จึงไม่สามารถรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯนี้ได้
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ว่า ในการประชุมพรรคพท.เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาได้การหารือในเรื่องนี้ โดยที่ประชุมมีมติว่าวันที่ 15 มิ.ย.65 จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากยื่นญัตติแล้วประธานสภาฯ ตรวจสอบความถูกต้องของญัตติภายใน 1 สัปดาห์ เมื่อตรวจสอบญัตติแล้วเสร็จส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณว่าจะพร้อมชี้แจงในวันใด และคาดว่าจะสามารถเริ่มอภิปรายได้ในวันที่ 18-21 ก.ค.65 รวมทั้งหมด 4 วัน
“การอภิปรายครั้งนี้เป็นวาระสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไปแล้ว บ้านเมืองฉิบหายหมดแล้ว คาดว่าจะลงมติไม่ไว้วางใจราวๆ วันที่ 20-12 ก.ค. 65 ส่วนความพร้อมของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการอภิปรายนั้น เรามั่นใจว่ามีหลักฐานเด็ดและใบเสร็จ ปลิชีพระดับรัฐมนตรีว่าการให้ตายกลางสภา ถ้าเปิดหลักฐานออกมารับรองกรี๊ดกร๊าดสนั่นในสภาแน่นอน รับรองได้ว่ามี ส.ส.ผู้หญิงบางคนอาจจะทนดูการอภิปรายของฝ่ายค้านไม่ได้ ต้องเดินออกไปร้องไห้ข้างๆ ห้องประชุมก็ได้ เพราะเที่ยวนี้ฝ่ายค้านมั่นใจในหลักฐานเด็ด” นายยุทธพงศ์ กล่าว
