วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
หน้าแรกHighlight“ก.พาณิชย์”แนะ“เอกชน”เร่งปรับตัว ดันส่งออกสินค้าไทยไม่ให้สะดุดกลางทาง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ก.พาณิชย์”แนะ“เอกชน”เร่งปรับตัว ดันส่งออกสินค้าไทยไม่ให้สะดุดกลางทาง

“พาณิชย์” แนะผู้ประกอบการเตรียมปรับตัวรองรับมาตรการใหม่ของคู่ค้าทั่วโลกเริ่ม 1 ม.ค.65  หวังดันส่งออกสินค้าไทยไม่ให้สะดุดกลางทาง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการรวบ รวมมาตรการทางการค้าของประเทศคู่ค้า พบว่าหลายประเทศมีการออกระเบียบใหม่ที่จะใช้บังคับในปี 2565 โดยเฉพาะสินค้าอาหาร รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทยควรศึกษารายละเอียด และเตรียมปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงของมาตรการใหม่ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้การส่งออกสินค้าและการค้าของไทยไม่สะดุดและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสินค้าที่ผู้นำเข้าจะใช้มาตรการใหม่ อาทิ รถยนต์ เวียดนามได้ออกระเบียบว่าด้วยการปล่อยมลพิษทางอากาศ ซึ่งกำหนดให้รถยนต์ที่ประกอบ ผลิต และนำเข้า ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ส่วนเครื่องปรับอากาศ อินเดียได้กำหนดให้สินค้าที่ผลิตหรือนำเข้า ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานและตีตราสัญลักษณ์จากสถาบันมาตรฐานอินเดีย (BIS)

ส่วนสินค้าอาหาร จีนได้ออกระเบียบ Decree 248 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 โดยกำหนดให้ผู้ผลิตอาหารจากต่างประเทศใน 18 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผลิต ภัณฑ์นม รังนกและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ไส้บรรจุไส้กรอก

ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง ไข่และผลิตภัณฑ์ มันและไขมันเพื่อการบริโภค ผลิตภัณฑ์แป้งยัดไส้ เมล็ดธัญพืชสำหรับการบริโภค ผลิตภัณฑ์เมล็ดธัญพืชบดและมอลต์เพื่อการอุตสาหกรรม ผักสดและผักอบแห้ง เครื่องปรุงรส ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืช ผลไม้แห้ง กาแฟและเมล็ดโกโก้ที่ยังไม่ผ่านการคั่ว

อาหารสำหรับวัตถุประสงค์พิเศษ และอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อนส่งไปจีน สำหรับหน่วยงานของไทย อาทิ กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งนี้ ผู้ผลิตและส่งออกที่ไม่อยู่ใน 18 กลุ่มสินค้า สามารถขึ้นทะเบียนโดยตรงกับสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน หรือ GACC ผ่านทางเว็บไซต์ www.singlewindow.cn

ขณะที่ประเทศที่ออกกฎระเบียบทางการค้าใหม่ในปี 2565 อาทิ อินเดีย กำหนดให้โรงงานผู้ผลิตจากต่างประเทศ ต้องผ่านการตรวจสอบและตรวจประเมินโรงงานผู้ผลิต กับหน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยและมาตรฐานด้านอาหารของอินเดีย (FSSAI) มีผลใช้บังคับ 1 มิ.ย. 2565

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำหนดให้สินค้าอาหารที่ผลิตในประเทศและนำเข้า ต้องติดฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์แสดงข้อมูลไขมัน ไขมันอิ่มตัว น้ำตาล เกลือ และแคลอรี่ ซึ่งสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง และอาหารเหลว มีผลใช้บังคับ 1 ม.ค. 2565

สหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกกฎระเบียบควบคุมการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ผลิตในประเทศและนำเข้า อาทิ ผลิตภัณฑ์แปรรูปเกษตรอินทรีย์ต้องใช้วัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ 95% (คิดตามน้ำหนัก) ระบุแหล่งผลิตบนฉลาก และต้องใช้สารแต่งกลิ่นจากธรรมชาติเท่านั้น มีผลใช้บังคับ 1 ม.ค. 2565

“มาตรการส่วนใหญ่ที่หลายประเทศประกาศใช้ใหม่ จะเกี่ยวข้องกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดรับกับความต้องการของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยผู้ประกอบการและผู้ส่งออกของไทย ควรให้ความสำคัญกับขั้นตอนกระบวนการผลิตสินค้า และการตรวจรับรองมาตรฐานต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันของสินค้าไทย”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img