วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
หน้าแรกHighlight“ธปท.”การันตีแบงก์ไทยแกร่ง เงินกองทุน-สภาพคล่องสูง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ธปท.”การันตีแบงก์ไทยแกร่ง เงินกองทุน-สภาพคล่องสูง

ธปท.เผยระบบธนาคารพาณิชย์ไทยแข็งแกร่งเงินกองทุน- เงินสำรอง -สภาพคล่องสูงรองรับการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้อย่างฉลุย ขณะที่สินเชื่อระบบแบงก์พาณิชย์ Q1/65 โต 6.9% ส่วนหนี้เสียขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 2.93 %

น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความเข้มแข็ง โดยมีเงินกองทุน เงินสำรองและสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง มีความสามารถในการขยายสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยคุณภาพสินเชื่อในภาพรวมค่อนข้างทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยหลักจากการปรับโครงสร้างหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ขณะที่ผลประกอบการปรับ ดีขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของสินเชื่อที่ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 3,016.4 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุน ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) 19.8% เงินสำรองอยู่ในระดับสูงที่ 909.4 พันล้านบาท โดยอัตราส่วน เงินสำรองที่มีต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio) อยู่ที่ 165.6% และอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต (Liquidity Coverage Ratio : LCR) อยู่ที่ 192.5% 

ภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1 ปี 2565 ขยายตัวที่ 6.9% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 6.5% โดยมีรายละเอียดดังนี้

สินเชื่อธุรกิจขยายตัว 8.8% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 7.9% จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการเงินทุนของภาคเอกชน โดยขยายตัวได้ในเกือบทุก ภาคธุรกิจ ด้านสินเชื่อธุรกิจ SMEs ขยายตัวจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูเป็นสำคัญสินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ 3.3% สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่ปรับลดลงจากการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron 

โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวชะลอลงตามอุปสงค์ต่อที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มปรับลดลง ด้านสินเชื่อรถยนต์ทรงตัว แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศเริ่มกลับมาขยายตัวได้ ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตขยายตัวสอดคล้องกับปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ปรับเพิ่มขึ้น และสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการสภาพคล่องของภาคครัวเรือน

ขณะที่คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 1 ปี 2565 ในภาพรวมทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เป็นสำคัญ

 โดยยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non Performing Loan : NPL หรือ stage 3) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 531.9 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.93% ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (Significant Increase in Credit Risk: SICR หรือ stage 2) อยู่ที่ 6.09% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 6.39% 

สำหรับระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2565 จำนวน 49.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 11.8% โดยหลักจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 

ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับลดลงจากรายได้ค่าธรรมเนียมเป็นสำคัญ ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาสก่อน กำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นจากการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Assets : ROA) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.87% จากไตรมาสก่อน ที่ 0.67% ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin : NIM) ทรงตัวอยู่ที่ 2.45%

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img